อแมนด้า ออบดัม ตั้งคำถามชวนคิด ปมเกณฑ์การรับวัคซีนไฟเซอร์ ทำไมต้องกันไว้มากมาย ลั่น! ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน และน่าผิดหวัง

จากกรณีที่มีมติการประชุมคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งระบุเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนดังกล่าว จำนวน 1.5 ล้านโดส สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยจัดสรรเพื่อเป็นเข็มกระตุ้นเท่านั้น ไม่มีเริ่มเข็ม 1

ทั้งนี้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เข้าเกณฑ์ ต้องปฏิบัติงานแผนกผู้ป่วยโควิด หรือปฏิบัติงานข้องเกี่ยวกับภารกิจการดูแลผู้ป่วยโควิด และได้รับการฉีดวัคซีน Sinovac 2 เข็มแล้ว อย่างน้อย 4 สัปดาห์ ภายหลังมติดังกล่าวเผยแพร่ออกไปกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ได้แสดงความเห็นถึงประเด็นดังกล่าว โดยแชร์โพสต์ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ที่โพสต์เกี่ยวกับเรื่องการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ล็อตบริจาค พร้อมเขียนข้อความในเชิงตั้งคำถามอย่างชวนคิดว่า

“หากเรียงลำดับความเสี่ยง การที่ได้รับวัคซีน Sinovac หรือ AstraZeneca เพียงเข็มเดียวย่อมมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่ได้รับ Sinovac 2 เข็มอยู่แล้ว และการฉีดวัคซีนต่างชนิดโดยมี mRNA เป็นเข็มที่ 2 ก็มีการทำอย่างเป็นระบบแล้วในหลายประเทศ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าสร้างภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี”

“จึงอยากทราบเหตุผลว่าทำไมบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนเพียงเข็มเดียว จึงไม่เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับวัคซีน Pfizer ในครั้งนี้ และถ้ายึดตามเกณฑ์ต่อไปนี้ จะเหลือบุคลากรทางการแพทย์กี่คนที่เข้าเกณฑ์ คิดเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์ของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด?”

“จำเป็นต้องสำรองมากถึง 40,000 โดส? ทั้งที่ยังจะมีวัคซีนบริจาคตามมาอีก 1 ล้านโดส และที่ลงนามสั่งซื้อไปแล้วอีกกว่า 10 ล้านโดส จำเป็นต้องกันไว้เพื่อวิจัยมากถึง 5,000 โดส? ในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้”

“จำเป็นต้องกันไว้มากถึง 150,000 โดส? เพื่อคนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งๆ ที่มีบุคลากรทางการแพทย์บางคนในประเทศยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน และน่าผิดหวัง”

ขอบคุณ FB : Amanda Obdam

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน