หลังเลิกราแยกกันอยู่กับสามี ‘เพชร-อิทธิ’ จนเป็นข่าวใหญ่โตมาสักพักใหญ่แล้ว เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 ธ.ค. ‘พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช’ แม่ม่ายป้ายแดง ที่มาร่วมงาน THAILAND MOTOR EXPO บูธ KENWOOD F03 ที่ชาเลนเจอร์ส ฮอลล์ 3 เมืองทองธานี เพิ่งจะมามีโอกาสเปิดใจถึงเรื่องนี้

 

โดยพิ้งกี้กล่าวว่า ความรู้สึกตนกับพี่เพชรยังเหมือนเดิม และขอบคุณที่พี่เพชรดีกับตนมาตลอด ส่วนเรื่องที่ถูกว่าถูกตีกรอบ เป็นนกน้อยอยู่ในกรงทอง ก็เป็นแค่ช่วงแรกๆ แต่หลังๆ จะเห็นว่า ออกงาน ทางพี่เขาเองก็มีงานในวงการ สร้างภาพยนตร์ ซึ่งตัวพี่เพชรก็ไม่ได้ยุ่ง เขาก็ปล่อย

 

“ส่วนตอนนั้นที่จะเบนเข็มทำธุรกิจเต็มตัว แต่กี้ไม่ถนัด นั่นแค่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ไปด้วยกันไม่ได้ แต่มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยที่ไม่สามารถบอกได้ เป็นเรื่องแค่คนสองคนที่รู้กันเอง มันก็เป็นเรื่องสะสมแต่ไม่ใช่เรื่องที่รับไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่เหนื่อยกันทั้งสองคน”

ถามว่ามีการปรับตัวกันไหม “จริงๆ มีปรับ แต่ก็มีทะเลาะ เราอยู่ในโซนของเรา ก็เป็นอย่างนี้ตลอด เลิก ใน ณ ที่นี้ คือพอเราคุยกันไม่รู้เรื่องก็เลยแยกกัน พอแยกกันก็ห่าง ก็เลยตัดสินใจด้วยทั้งคู่ สุดท้ายแยกกันอยู่ดีที่สุด ตอนแรกไม่ใช่การแยก แต่แค่ทะเลาะ เรากลับมาบ้าน เขาก็กลับมาง้อ เป็นอย่างนี้บ่อยจนสุดท้ายต่างคนต่างเหนื่อย เลยตัดสินใจแยกกันจริงๆ ตอนนี้ไม่ได้มีการใจอ่อน เขาก็ไม่ได้มาง้อด้วย ด้วยเราทั้งคู่รู้กันอยู่แล้วว่า มันถึงจุดที่จะฝืนต่อไปไม่ได้แล้ว”

 

เหมือนเราเองก็รอเขาง้อเหมือนกัน “ก็ด้วย แต่ช่วงที่รอง้อ เรารู้ว่าเราจบแล้วจริงๆ ใช้ระยะเวลาดูใจตัวเอง ดูความรู้สึกของเขากับกี้ แต่ไม่รู้ว่าข่าวออกมาแล้ว เราจะทำยังไงดี จะกลับไปง้อดีไหม ก็เลยจบ บางครั้งการมีชีวิตคู่บางทีก็ตัดกันแล้วหายกันไปเลย”

 

“ตอนนี้กี้ยังมีความรู้สึกที่ดีให้พี่เพชรเสมอ ไม่ทราบว่าพี่เพชรรู้สึกยังไง เพราะไม่ได้ติดต่อกัน นอกเหนือความคิดของกี้ กี้ส่งพลังงานดีให้ตลอดเวลา ไม่ใช่ส่งเพื่อให้กลับมา เพราะมันจบไปแล้ว ถามว่ายังรักอยู่ไหม คำว่ารักนี่พูดยากนะ ไม่รู้จะตอบว่าอะไร เอาเป็นว่าตอนนี้มีความสุขแล้วล่ะค่ะ ทั้งเขาและกี้ไม่เหนื่อย ส่วนเรื่องกลับมาเริ่มต้นใหม่อะไรยังไงเป็นเรื่องอนาคต”

 

3 ปีกับชีวิตคู่เป็นอย่างไรบ้าง “3 ปีที่ผ่านมามันพูดยาก เป็นชีวิตอีกแบบ พี่เพชรก็ไม่ได้ปิดกั้นขนาดนั้น มีทั้งความสุขและการปรับตัวเข้ากับชีวิตคู่ ส่วนเรื่องที่มี ข่าวลือเรื่องเงินมาเกี่ยวข้องว่าเขาไม่ได้ส่งเสีย ไม่จริง เขาส่งค่ะ เพราะตอนนั้นกี้ไม่ได้ทำงาน พี่เพชรก็มีจุนเจือเราอยู่แล้ว แล้วตอนนี้พอเราออกมา ก็ออกมาแต่ตัว ตอนนั้นที่ออกก็ไม่เก็บข้าวของอะไรออกมา ก็ให้คนไปเก็บของออกมาให้ เพราะออกมาแต่ตัวจริงๆ”

 

ถามถึงเรื่องที่ไม่มีลูก เกี่ยวไหมทำให้ต้องแยกกัน พิ้งกี้กล่าวว่า “ไม่เกี่ยวค่ะ เป็นจังหวะชีวิตมากกว่า มันไม่มี ลูกไม่เกิด ณ โมเมนต์ที่ควร คือเรื่องลูกไม่น่าเกี่ยว เราไม่ได้เครียดว่าทำไมถึงไม่มี ก็มองข้ามไปแล้วทำอย่างอื่น พยายามแล้วแต่ไม่มี”

 

ตั้งแต่ออกมามีโอกาสได้คุยกับเพชรมั้ย “ไม่มี ไม่ได้คุยเลยค่ะ”

คาใจมั้ยว่าเขาไม่รักเราเหรอ “คิดว่าเขาและกี้ก็งงอยู่นะ แต่ตอนนี้ไม่งงแล้ว ชีวิตต้องเดินหน้า ต้องทำงาน และดูแลครอบครัว ตอนนี้เราเลิกกันแบบงงๆ ยังไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร มันเหมือนเป็นแฟนแล้วเลิกกัน บทเรียนที่ได้รับคือ ชีวิตคือการเรียนรู้ ทำให้โตขึ้น ต้องขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณพี่เพชร ได้เจอคนที่ดี คือมันง่ายๆ ไปกันไม่ได้ก็จบ ส่วนเรื่องคำว่าแม่ม่าย ก็เฉยๆ ไม่ได้ติดใจคำว่าแม่ม่าย แม่ม่ายก็มีเยอะนะช่วงนี้ มีหลายคน ไม่ใช่เฉพาะดารา คนอื่นๆ ก็มีหลากหลายรูปแบบ กี้ก็เป็นอีกคู่”

 

เห็นว่าเพชรมีแฟนแล้ว เปิดตัวที่เชียงใหม่ “มีแล้วเหรอคะ อันนี้ไม่ทราบ ยืนยันว่าตอนที่เลิกกันไม่เกี่ยวกับมือที่ 3”

 

พี่เพชรดูอยู่ อยากบอกอะไร “ก็อยากให้พี่เพชรมีความสุข”

 

อนาคตข้างหน้าของเรามองไว้ยังไง “ก็จะกลับมาทำงานเต็มตัว ปีหน้าก็มีผลงานเต็มตัว และได้รับเชิญในซีรีส์ ศรีอโยธยา ตอนนี้โสด คงไปเรื่อยๆ จนถึง 40 รู้สึกมีความสุขแบบนี้เแล้ว ไม่คิดเปิดใจ แต่ถ้ามีก็มี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ซีเรียส ทำงาน กลับบ้านไปเที่ยว แค่นี้พอแล้ว รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ และถ้ามีก็ขอคนที่ไปด้วยกันได้ เชื่อว่าพี่เพชรก็อาจจะมีคนเหมาะกับเขา ที่เป็นคู่ของเขาจริงๆ แต่ของกี้ไม่ต้องรีบมา กี้มีความสุขอยู่ ณ ตอนนี้ ความรักที่ไม่สมหวังบางครั้งก็คือการเรียนรู้ เรียนรู้บางครั้งอาจจะเจอสิ่งที่มีความสุข เรียนรู้ที่จะไม่ใช่ว่าอายุ 30 จะเป็นเวลาที่เราหยุดทุกอย่าง เราต้องโตขึ้นไปเรื่อยๆ เราเป็นคนนึงที่ผ่านอะไรมาหลายอย่าง”

ด้าน แม่อ้อย-สรินยา ไชยเดช คุณแม่พิ้งกี้ พูดถึงกระแสเรื่องนี้ว่า “กระแสอะไรแม่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย มันเป็นเรื่องใหญ่เลยเหรอ ตอนนี้ปกติแล้ว กลับมาทำงานเหมือนเดิม ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องราวเขา ให้ถามเขาดีกว่า คือแม่ก็บอกให้เขาสู้ คนเราต้องเข้มแข็ง ผ่านความทุกข์อะไรก็ไม่ต้องไปจำ จำแต่สิ่งที่ดีอะไรไม่ดีก็ไม่ต้องไปจำ”

 

“ช่วงพิ้งกี้มีปัญหาเขามาปรึกษาแม่ทุกวัน แม่ก็ปล่อยให้เขาคิดเอง โตแล้ว ชีวิตครอบครัวต้องอดทน ใครที่เคยแต่งงานจะรู้ว่าบางอย่างมันก็ทนกันได้ บางอย่างก็ไปกันลำบาก คนถ้าจะเลิกกันแล้วมันก็มีแค่จึดหนึ่งเท่านั้น แต่ถ้าจะถามแบบล้วงลึก เราไม่ต้องลึกเพราะเราต้องให้เกียรติเขาตรงนั้น อย่างช่วงที่เขามาปรึกษา แม่ก็ไม่ได้บอกเขานะว่าให้เลิกๆ ไปเลย เพราะเดี๋ยวพอผัวเมียเขาคืนดีกันเราจะหัวเน่า จริงๆ เขาก็เป็นคนดีไม่ใช่ไม่ดีอะไร แต่ในบางเรื่องคนเราต้องยืดหยุ่นกันบ้าง ซึ่งตรงนั้นผัวเมียเขารู้กันเอง หลายอย่างไม่ต้องให้แม่อธิบายเพราะนักข่าวคงพอรู้ อย่าให้มันออกจากปากแม่ มันจะไม่ดี”

ก่อนหน้านี้พิ้งกี้กับสามี ได้มีปรับจูนเข้าหากันยัง “คนเรามันต้องคิดว่าตัวเองถูกทั้งผัวทั้งเมีย ไม่ว่าจะครอบครัวไหน แต่มันต้องมีกึ่งกลางที่เราจะต้องเดินไปด้วยกัน โดยการมาพบกันครึ่งทาง แต่เมื่อครึ่งทางแล้วยังไม่สามารถปรับได้ ก็ต้องถอยออกมา เคยได้ยินไหมที่เขาบอกว่าคู่นี้เหมาะสมกัน แต่ทำไมถึงเลิก มันต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง”

 

ในวันที่กี้มาบอกว่าตัดสินใจเลิกกันจริงๆ เราให้คำปรึกษาว่ายังไงบ้าง
“แม่บอกไปว่า เราต้องมองนะ ต่อไปจะต้องกลับมาทำงานเองแล้วนะ จะไหวมั้ย ซึ่งเขาบอกว่าเขาไหว ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เมื่อก่อนอาจจะอยู่กับแฟนแล้วสบาย แต่กลับมาต้องมาสู้ชีวิตใหม่ เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาไหวเพราะเคยลำบาก เคยเหนื่อย แต่เขามีความสุข ทุกวันนี้เขาก็กลับมารับงานปกติเหมือนเดิม ได้มาเจอนักข่าว ก่อนหน้านี้ที่หายไปก็ไม่ได้เจอนักข่าวเลย คือเราอยู่ด้วยกันจนเป็นพี่น้องแล้ว ส่วนถ้าในอนาคตจะมีคู่ต่อไปอีกแม่ก็บอกเขาไปว่า มนุษย์เปลี่ยนความเป็นตัวตนของตัวเองไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเราหลงแสงสี มันไม่ได้”

 

หลังจากที่ทั้งสองตัดสินใจเลิกกัน ทางเพชรได้เข้ามาพูดคุยหรือขอโทษแม่บ้างไหม
“(แม่ส่ายหน้า) ก็บอกตรงๆ ไม่โกหก แม่ไม่ได้คุยกับเขา เขาคงไม่มีคำขอโทษอะไรหรอก เขาโตแล้ว แต่ไม่เป็นไรแม่ไม่ได้ไปโกรธอะไร แม่ก็มีความสุขด้วยที่เขาก็มีความสุขเพิ่มขึ้น ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกัน แม่ว่าแฮปปี้ดีนะ”

 

ตั้งแต่แต่งงานเขาได้มีการจดทะเบียนสมรสไหม
“ไม่ได้จดค่ะ ก็คงยังไม่พร้อมที่จะจดกันเพราะเป็นเรื่องของการทำงาน และเป็นเรื่องในครอบครัวด้วย แม่ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมันมีเรื่องกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง จะจดหรือไม่จด ไม่ได้มีผลอะไรขึ้นมา จะไปอยากได้สมบัติเขาก็ไม่ใช่ มันไม่ใช่นิสัยแม่ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องมาคอยจับตามองอะไร เรายังมีสมอง มีเงิน มีกำลังความสามารถ ไม่ต้องมีเงินร้อยล้านพันล้านก็มีความสุขได้ อะไรที่เป็นของคนอื่นไม่เอา”

 

ตอนเข้าพิธีแต่งงานทางศาสนาอิสลาม หรือนิกะห์ แล้วเลิกกันได้ทำพิธีเด็ดขาดหรือยัง
“เราได้ทำของเราแล้วเรียบร้อยแล้ว”

 

หลังจากหย่า เขาได้ให้สินสมรสอะไรบ้างไหม
“อันนั้นอย่ารู้เลย ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ เราไม่อยากพูดอะไร เดี๋ยวพูดแล้วจะวุ่นไปอีก เรื่องนี้ไม่อยากกล่าวถึงค่ะ”

 

ใช้คำว่าผ่านจุดที่เลวร้ายที่สุดมาได้หรือยัง
“มันไม่ได้เลวร้ายหรอก ไม่ถึงขนาดนั้น เขาไม่ได้มาทารุณอะไรเรา แม่ว่าหลักๆ มันเป็นเรื่องความคิดมากกว่า ไม่ได้จะต้องมีเงินพันล้านแล้วแม่จะมีความสุข แม่ขึ้นรถเมล์ได้ อยากกินอะไรก็กินได้ ซึ่งตัวกี้เองเหมือนกัน เป็นคนธรรมดา ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าเป็นแสน ลูกเราขี้เหนียวจะตาย มีแต่เราที่แอบซื้อของ แม่ยังบอกเขาเลยว่ามีสามีรวยก็ไม่เห็นจะมีประโยชน์ เขาไม่ได้จะซื้อกระเป๋าใบละ 4แสน หรือเป็นล้าน เพชรยังบอกถ้าจะซื้อก็ซื้อไป แต่กี้ไม่เอาเพราะเสียดายเงิน”

ชีวิตหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป
“ก็ทำงานต่อไปสิคะ ถ้าเขาจะมีหนุ่ม ใหม่เข้ามา ก็เป็นเรื่องของอนาคต เราจะมานั่งสแกนหรือห้ามเขาไม่ได้หรอก เราไม่สามารถมากำหนดกฎเกณฑ์ มีแต่เจ้าเบื้องบนที่กำหนดมา อะไรที่ยังมาไม่ถึงอย่าไปพูดเลย เราก็คิดว่าทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นบทเรียนให้เราได้รู้ว่าทุกชีวิตคือการเรียนรู้ เมื่อได้เรียนรู้แล้วก็จดจำเอาไว้ เขาก็คงรู้ตัวอยู่แล้ว แม่ก็เป็นแค่กำลังใจให้ ความรักมันมีทุกข์กับสุข เวลารักมันก็เป็นกำลังใจให้กัน ทุกอย่างดูเบิกบาน มีความสุข แต่ถ้าไม่สมหวังเมื่อไหร่มันก็ทุกข์ เพราะฉะนั้นถ้าพร้อมที่จะทุกข์ก็มีความรักไปเถอะ ถ้าเขาจะมีความรักใหม่ก็เรื่องของเขา แม่ยังไงก็ได้ ตัวแม่เองเหมือนจะเป็นแฟนเขามากกว่า แต่ถ้าเขาจะมีก็ดูคนที่เป็นธรรมชาติ อย่าไปจำกัดอะไรมาก เอาแบบง่ายๆ กินง่าย อยู่ง่าย ถามว่าต้องไฮโซอีกไหม คำๆ นี้กลัวมากเลย (ยิ้ม) มันยังหลอนๆ อยู่ เราต้องขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เราได้เรียนรู้คน เรียนรู้อะไรอีกเยอะแยะ แม่ไม่เคยไปโกรธแค้นอะไรใคร กี้ก็เหมือนกัน เราให้อภัยกันไป จำแต่สิ่งดีๆ อะไรไม่ดีก็ลืมไป มันเป็นเรื่องส่วนตัวเขา เราเปลี่ยนเขาไม่ได้หรอก ถูกเลี้ยงดูมาคนละครอบครัว ทางพ่อแม่เขาก็ดีกับกี้มาก ไม่เคยมาวุ่นวายอะไรเลย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน