แก้มบุ๋ม ไม่นอยด์ ช่วงนี้เจอหน้า พีท แฟนหนุ่มนับครั้งได้ เข้าใจงานที่โรงพยาบาลหนัก – เตือนโรคจิต มีอีกครั้ง ไม่ปล่อยแน่
เจอเกรียนคีย์บอร์ด เข้ามาคอมเมนต์ปั่นป่วนอยู่บ่อยครั้ง สำหรับดาราสาว แก้มบุ๋ม ปรียาดา ซึ่งกรณีล่าสุด เป็นคนประหลาดเข้ามาป่วนกลางไลฟ์ ขอซื้อกางเกงใน- ขนเพชร แถมท้าฟ้อง ไม่กลัวเพราะว่าใหญ่มาก แต่สาวแก้มบุ๋ม ก็สู้ไม่ถอย ไล่บี้จนอีกฝ่ายปิดเฟซบุ๊กหนี
ล่าสุด เธอเปิดใจกับผู้สื่อข่าว ข่าวสดออนไลน์ ถึงเรื่องนี้ว่า เคสนี้ เธอปล่อยไปก่อนถ้ามีอีกไม่ยอมแน่ พร้อมทั้ง อัพเดตถึงเรื่องแฟนหนุ่ม พีท กันตพร ทายาทรุ่น 2 ธุรกิจกลุ่มโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ที่ช่วงนี้ฝ่ายชายทำงานหนัก มีเวลาเจอกันน้อย
“คือหนูนั่งไลฟ์ขายของตอนกลางคืน ก็มีคอมเมนต์มาป่วน ตอนแรกเราไม่ได้สนใจเพราะก็อ่านไม่เห็น เนื่องจากมีคอมเมนต์ไล่เยอะ
ซึ่งก็มีคอมเมนต์คนอื่นมาคอมเม้นต์ด่าให้เรา พอเราเห็นหลายคนเข้า ก็เลยมาอ่านดู อ้าวติดต่อขอซื้อนู่นนี่นั่นกางเกงใน ขอซื้อขน ขอซื้อชุดชั้นใน
จำไม่ได้ว่าตอนแรกตอบไปว่าอะไร แต่ว่าเขาไม่หยุด พอเขาไม่หยุด เราก็ไม่หยุด เราก็ไม่บล็อกด้วย เราก็ไล่บี้จนเค้าปิดเฟสหนีไปเลย เราก็สู้อ่ะ
บางทีคนบอกว่าเราบล็อกไปเลย แต่เรารู้สึกว่าอยากจิตใช่ไหม ถ้าอยากจิตเดี๋ยวฉันจะสวมบทเป็นนางร้ายโรคจิตก่อนนะ
คือเขาบอกว่าเขาใหญ่มาก ดาราทั้งวงการ มีพาดพิงไปถึงคนอื่นว่าเขาเคยไปซื้อมาแล้ว และพาดพิงไปเยอะมาก แล้วก็บอกว่าเขาใหญ่มาก สุดท้ายไปฟ้องเรื่องก็เงียบ
คือเฟซบุ๊กนั้น ที่เขาทำมันมีหน้าตา แต่มันเหมือนเป็นเฟซปลอมหรือเปล่าไม่แน่ใจ มันเป็นชื่อจิงนามสกุลจิง แล้วก็ปิดเฟซไปแล้ว
คือจริงๆมันก็จะมีเฟซหน้าตาของคนคนนี้ที่เป็นเฟซจริงๆอีกอันนึง แต่ว่าหนูก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะหนูรู้สึกว่า หนูก็ไม่ได้เสียหายมาก ขนาดที่ว่าเขาเอากางเกงหนูไปแล้ว หนูจะต้องตามเช็ดตามล้างตาม ก็คือไม่
เราเจอคอมเมนต์ปั่นป่วนค่อนข้างบ่อย? อาจจะเป็นเพราะว่า ณ ตอนนี้ สิ่งที่คนระบายออกได้ก็มีแค่โซเชียล ตอนนี้ล็อคดาวน์ คนไม่ได้ออกไปไหน
ในการไลฟ์สดมันก็เป็นช่องทางที่ทำให้ กลุ่มคนธรรมดาหรือกลุ่มคนที่มีปัญหาทางจิต จะเข้ามาปั่นป่วนได้หนูมองว่ามันอาจจะเป็นเรื่องปกติ แต่จะมีบ่อยก็ด้วยภาวะคนเครียดด้วย
เตรียมดำเนินคดีอะไรไหม? ขำๆ หนูเป็นคนไม่ค่อยชอบไปมีเรื่องมีราวกับใคร แต่เรื่องชอบวิ่งเข้ามาหาหนู ไม่เข้าใจเหมือนกัน หนูก็คงปล่อยไปขำๆไม่ได้อะไร แต่ถ้าเกิดมีอีกรอบนึงหนูตามแน่
หากเกิดกรณี โรคจิตประชิดตัว ? ณ ตอนเนี่ยมันยังไม่มี แต่ถ้าเมื่อไหร่มีก็ไม่แน่ ก็ต้องรักษาความปลอดภัยให้กับชีวิต ด้วยชีวิตหนูอยู่บ้าน เวลาไปไหนก็ไม่ได้ไปไหนคนเดียวอยู่แล้ว
คือในหมู่บ้านก็มียาม ทุกอย่างก็โอเคอยู่แล้ว มันค่อนข้างที่จะยากที่จะเจอนิดนึง แล้วเราก็ไม่ได้ไปไหนแล้วก็ไม่ได้ไปคนเดียว
ถ้าวันไหนที่มันมีจริงๆหนูเอาตายนะจ้ะ หนูสู้ขาดใจเลยนะ และอีกอย่างคือเราตัวใหญ่นะ ไม่ใช่ผู้หญิงตัวเล็กๆแบบสูง 150-160 สูง 170 นะ น้ำหนักเราก็ปาไปครึ่ง 100 แล้วนะแม่ หนูก็สู้ได้อยู่นะ ถ้าไม่มีอาวุธนะคะ
ช่วงนี้หัวใจเป็นไงบ้าง? ดีหัวใจดี เจอกันน้อยมาก อาทิตย์นึงเจอวันสองวันแล้วไม่กี่ชั่วโมง เพราะว่าเขาทำงานหนัก เขาทำงานเกี่ยวกับโรงพยาบาลมันหนักอยู่แล้ว
กลางคืนตีหนึ่งตีสองก็ยังทำงานอยู่ อย่างหนูไลฟ์สด แฟนหนูก็นั่งทำงานอยู่ หนูเลยรู้สึกว่า เรามานั่งรอมานอนอยู่เฉยๆ เราจะไม่ทำงานหรอ
เรามีคนที่เขาขยันอยู่ข้างๆ แล้วเราจะเป็นคนนอนขี้เกียจหรอ ก็เลยลุกขึ้นมานั่งขายของเล็กๆน้อยๆไปด้วย อย่างเรื่องข่าว เขาก็บอกว่าตัวเองลงไอจีไปเลย คือเขาเป็นสายซัพพอร์ต เขาชอบ เขาตลกเรา
ตอนนี้สถานการณ์โควิดวิกฤตมาก แล้วแฟนทำงานในโรงพยาบาล เป็นห่วงหรือกังวลอะไรไหม? มันก็ห่วงแต่ทำยังไงได้ เพราะถ้าเขาไม่ทำแล้วใครจะทำ
ถึงเขาจะไม่ใช่เป็นด่านหน้าโดยตรงไม่ได้เป็นหมอไม่ได้เป็นพยาบาล แต่ในส่วนของเขา เขาก็ต้องไปทำงานในโรงพยาบาลตลอด มันก็ค่อนข้างเสี่ยงนิดหนึ่ง
เพราะต่อให้เขาทำในส่วนของบริหารจัดเรื่องโรงพยาบาลสนาม คือวันนึงโทรศัพท์เขาเข้าค่อนข้างเยอะมาก แต่ก็ต้องยอมอ่ะ
แล้วเวลาเราอยู่ข้างกัน เขาก็จะคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา เหมือนไม่มีหนูอยู่ในโลกใบนี้เลย แต่หนูเข้าใจได้เพราะมันเป็นเรื่องของการทำงาน
หนูก็โตพอที่จะไม่งอแงว่า พี่ไม่มีเวลาให้หนูเลย แต่อาจจะแค่เล่นๆ โหไม่สนใจเลยนะ แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วหนูก็เข้าใจเขา
