จากคดีอดีตผู้กำกับโจ้ที่สังคมให้ความสนใจวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก รวมทั้ง เชน ณัฐวัฒน์ เปล่งศิริวัธน์ ที่คอมเมนต์ว่า “เราเป็นนักแสดงยังอาย” และได้แสดงความคิดเห็นรู้สึกผิดหวังกับตำรวจ

โดย เชน เผยว่า จากที่เราเห็นคลิปมันเป็นความรู้สึกเฟลมากๆ กับสิ่งที่ตำรวจคนหนึ่งทำถึงขนาดนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้น อยากจะรู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วบทลงโทษมันจะเป็นยังไง ตำรวจด้วยกันเองจะทำยังไง ผมเชื่อว่าประชาชนทุกคนรอฟัง

พอจับได้จริงๆ แล้ว มานั่งฟังคำแถลง สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกได้ก็คือ ทำไมถึงใช้วิธีเป็นการคอล ซึ่งผู้ต้องหาคนอื่นที่ไม่ใช่ตำรวจที่เราเห็นหลายครั้งที่มีการนำมานั่งข้างหน้าแล้วแถลงข่าวส่วนจะพูดหรือไม่พูดเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่อย่างน้อยก็มานั่งเปิดเผยเลยว่าคนนี้คือคนที่จับกุมได้ ยิ่งไปกว่านั้นถ้าอยากจะพูดจริงๆ ผมว่าทุกวันนี้มันมีเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ทำไมถึงไม่ใช้ระบบซูม มันก็ทำให้ประชาชนยิ่งสงสัยไปอีกว่า คุณมีคนนั่งข้างๆ หรือเปล่า คุณมีคนคอยโค้ชคอยกำกับอีกทีหรือเปล่า มันเป็นข้อสงสัย

การที่ตำรวจจะทำให้ประชาชนไว้ใจ มั่นใจ และเชื่อใจ ทุกอย่างมันต้องโปร่งใส มันจะต้องไม่มีคำครหาใดใดทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งที่ออกอย่างวันที่เราเห็นกระแสสังคมมันจะตีกลับว่า มีคนเขียนบทให้ มีการเตี๊ยมกัน มีการช่วยเหลือกันต่างๆ นานา มันเป็นเพราะว่าพวกท่านทำทั้งนั้นเลยเราถึงได้รู้สึก ถ้าพวกท่านทำให้โปร่งใสจะไม่มีใครรู้สึกเลย คนจะแบบนี่แหละคือตำรวจไทย มันก็เลยทำให้ผมมีความรู้สึกผิดหวังพอสมควร

แล้วมันก็มีประเด็นต่างๆ มากมาย ให้ตำรวจผู้หญิงเข้าไปนั่งถือโทรศัพท์อยู่ข้างๆ ทั้งๆ ที่มือท่านก็ไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง แค่อยู่ตรงนี้ทำไมท่านไม่ถือจ่อไมค์เอง

จากหลายๆ คดีที่ผ่านมา ผมก็มีรุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อนที่เป็นตำรวจ เพราะฉะนั้นผมจะไม่ได้บอกว่าตำรวจไม่ดี คือตำรวจที่ดีผมเคยเห็นน่ารักมาก ทำงานด้วยใจ

คดีใหญ่คดีที่คนมีเงินถูกจับ คนรวยถูกจับ ส่วนใหญ่แล้วจะหาย กระทิงแดงตอนนี้อยู่ไหน มีใครรู้ไหม มีใครได้ตามข่าวหรือเปล่า เงียบหายไปไหน มันทำให้เรามีความรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วเงินมันจะซื้อได้ทุกอย่างจริงเหรอ ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ การที่จะทำให้ประชาชนทุกคนไว้ใจ เชื่อใจและเชื่อมั่นในตัวตำรวจเหมือนท่านรองได้ออกมาพูดว่า ขอเถอะ พวกเราไม่มีนอกไม่มีใน ขอให้เชื่อมั่นในตัวตำรวจ การที่คนจะเชื่อมั่นได้มันมาจากพวกท่านทั้งนั้นเลย พวกท่านต้องเป็นคนทำแล้วเราที่เป็นคนดูเราจะเชื่อมั่นได้ถ้าพวกท่านทำให้เราเชื่อมั่น

มันตะขิดตะขวงใจ อย่างเช่นจำทะเบียนรถไม่ได้ รถที่มาส่งจำทะเบียนไม่ได้ นี่คือผู้ต้องหาที่ประชาชนสนใจมาก ไม่ใช่ไปจับโจรขโมยของที่ร้านสะดวกซื้อ เอาจริงๆ ประชาชนรอมากเลย นักข่าวถาม อยู่ๆ ท่านก็เบรก แล้วท่านก็บอกว่าถ้าถามเยอะขนาดนี้ก็ไม่ต้องส่งฟ้องแล้ว หรือเอาไง หรือจะไม่ต้องส่งฟ้องเลย ผมว่ามันไม่ใช่คำที่ควรพูด ความรู้สึกผมคนเดียว ถ้าผิดขออภัยในที่นี้ด้วยนะครับ ผมแค่รู้สึกว่ามันเป็นคำที่ไม่ควรพูด ไม่ว่าจะระดับไหนก็แล้วแต่ ตั้งแต่ตำรวจ รัฐมนตรี ไปจนถึงนายกรัฐมนตรี ประชาชนคือคนที่พวกท่านเข้ามาเพื่อดูแล เพราะฉะนั้นวิธีการที่จะคุยกับประชาชน ควรพูดดีๆ เดี๋ยวก็มาหาว่าไม่เคยพูดดีอีกหรอก ผมมีความรู้สึกว่าไม่ใช่สิ่งที่ควรพูดคำนั้น

ก็หวังว่าอยากจะให้ตำรวจ ทหาร ยังเป็นอาชีพที่เด็กคนหนึ่งโตขึ้นมาแล้วบอกว่า ผมอยากเป็นทหารครับ ผมอยากเป็นตำรวจครับ ผมอยากให้มันยังเป็นอย่างนั้นอยู่ อย่าทำให้ประชาชนผิดหวังไปมากกว่านี้ ทำทุกอย่างให้มันโปร่งใส ทำทุกอย่างให้คนตรวจสอบได้ มันก็ดีไม่ใช่หรอ มันดีกับตัวพวกท่านเองด้วยซ้ำ ท่านไม่ได้มีอะไรปิดบัง

ยังเชื่อมั่นการทำงานของตำรวจไหม ตอบยาก ถ้าถามว่าเชื่อมั่นไหม ก็คงไม่ครับ แต่ว่าก็ไม่ใช่ทุกคนครับ คนที่ผมเชื่อมั่นก็มีครับ

อยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะไปในทิศทางไหนเพราะเราก็เป็นคนไทยคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นข่าวสารการเมืองทุกอย่างเราก็ติดตามครับ แล้วก็อยากจะให้ทุกคนมีสติ อย่างเคสของ ผู้กำกับโจ้ ผมก็อยากจะฝากไว้สำหรับคนที่เข้าไปด่าแฟนเขา แฟนเขาไม่ได้ฆ่าคนตาย แฟนเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ต้องไปตามด่าเขาก็ได้ เขาไม่เกี่ยว เสพข่าวก็ต้องเสพอย่างมีสติ ควรต้องแยกแยะ ใครผิดว่าไปตามผิด ใครไม่ผิดเรามีสิทธิ์อะไรไปด่าเขาด้วยซ้ำ

ทุกคนผิดหวังจากหลายเหตุการณ์การแถลงข่าวที่เกิดขึ้น การมีสิทธิพิเศษเรื่องกุญแจมือ คือทำอะไรถ้าทำให้มันอยู่ในบรรทัดฐานเดียวกันผมว่ามันจะไม่มีข้อครหาใดใดเลย ไม่ว่าจะเป็นการไม่ต้องไปนอนห้องขังคืนแรก ก็ฝากไว้ด้วยแล้วกัน พี่ๆ ตำรวจ ทุกคน ทำให้คนไทย ตำรวจต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนจริงๆ เพราะฉะนั้นทำให้คนไทยรู้สึกจริงๆ ว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน อย่าทำให้คนไทยรู้สึกว่าทุกอย่างมันแพ้อำนาจเงิน มันไม่ควรเป็นอย่างนั้น ผมก็จะรอติดตามต่อไป ถึงแม้จะรู้ลึกๆ ว่าผลจะเป็นยังไง แต่ก็หวังไว้ลึกๆ เหมือนกันว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน