เติ้ล ธนพล แฉ นิวนิว วิธีง้อสุดพิลึก สาบานเลิกเหล้าแล้ว

เติ้ล ธนพล แฉ นิวนิว วิธีง้อสุดพิลึก สาบานเลิกเหล้าแล้ว

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน นิวนิว เอวเด้ง หรือ ชไมพร บุญไสย์ ได้ประกาศตัดสัมพันธ์กับนักแสดงหนุ่ม เติ้ล ธนพล สาเหตุเพราะนักแสดงหนุ่มกลับไปกินยาเหมือนเดิม แต่ล่าสุด นิวนิว ได้เผยภาพสวีตหวานกันหนุ่มเติ้ล

งานนี้ผู้สื่อข่าว ข่าวสดออนไลน์ ได้จับทั้งคู่มานั่งเคลียร์ใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยนักแสดงหนุ่มเริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่เป็นสาเหตุทำให้เลิกกันให้ฟังว่า

“วันนั้นเขาติดต่อผมไม่ได้ ผมกลับมาบ้านตอนเย็นแล้วผมหลับกินยานอนหลับไป0.5 มิลลิกรัม ตื่นมาอีกทีสามทุ่มครึ่ง ที่ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ดังอยู่ข้างหู ผมก็รับโทรศัพท์ เขาก็ถามว่าอยู่ไหน เราก็ตอบว่านอน เขาถามว่านอนอะไรตอนนี้ เราก็บอก 21.30 น. เราก็เข้าใจว่าเคอร์ฟิวแล้วเขาคงไม่มา คือเรานัดกันตอนเย็น ว่าเขาจะเข้ามาหา”

“คิดว่าสามทุ่มจะโทรมา ผมก็หลับยาว คราวนี้เป็นเรื่องเป็นราวเลย เขาจะมา ผมก็บอกว่าไม่ต้องมาจะสี่ทุ่มแล้วเดี๋ยวโดนจับ แต่ด้วยความที่บ้านเราใกล้กันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรพอเขามาถึง ผมเองก็ไปนั่งกินน้ำอยู่หน้าตู้เย็น แล้วบอกให้เขากลับไป เขาก็บอกว่าทำไมไม่เปิดประตู”

“เราก็คิดว่าเปิดไปก็พังสิ เพราะไม่มีใครอยู่ แล้วก็ไม่ได้ทำอะไร เราก็เลยไม่เปิด พอดีมีคุณหมออยู่ด้วยอีกคนนึง ก็บอกเขาว่า คุณหมอครับบอกให้นิวกลับก่อนก็ได้ แล้วค่อยคุยกัน เสียงเขาก็รอดเข้ามา ไม่กลับ สักพักก็มีเสียงตูมๆ ประตูรั้วผมไปแล้ว สักพักก็มีเสียงปีนเข้ามา สักพักได้ยินเสียงดังปังๆ ประตูนิรภัย ยังไงก็ไม่แตก”

“เสียงหายไปแป๊บ นึกขึ้นได้ข้างหลังมันเป็นกระจก แตกได้ เสียงดังปัง เพล้ง แล้วมันเหลืออีกบานที่เขากำลังจะเตะ เราก็เลยเปิดประตูให้เขาเข้ามา พอเข้ามาเขาก็โวยวาย อยู่กับใคร ทำอะไร ทำไมเป็นแบบนี้ มานั่งหน้าตู้เย็นทำไม ด้วยความเป็นห่วงของเขา แต่ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจ เพราะว่าเราเมายานอนหลับอยู่”

ในมุมของนิวบ้าง ทำไมถึงได้โกรธเขาขนาดนั้น? “ในมุมของหนู คือเขาโทรมาหาเราตอนบ่าย 3 นัดกันว่าจะไปชัยภูมิ หนูก็เก็บของรอ แล้วก็ไม่ได้ตาม ผ่านไปถึง 3 ทุ่ม ทำไมไม่ติดต่อมา อยู่กับใครหรือเปล่า เป็นอะไรหรือเปล่า หนูก็เลยโทรหาเขา แล้วเขาก็พูดไม่รู้เรื่อง”

“หนูก็บอกว่าพี่เอาอีกแล้วใช่มั้ย พี่กลับไปกินยาเหมือนเดิมแล้วใช่มั้ย หนูก็เลยเดินไปหาเขาเลย ที่เดินไปเพราะว่าตอนนั้นรถเอาไปซ่อมอยู่ พอไปถึงบ้านเขา ก็ไม่มีคนมาเปิดประตูให้ ก็ปีนรั้วเข้าไป พอเข้าไปก็เห็นเขานั่งอยู่หน้าตู้เย็น หนูก็รู้สึกว่า อ้าว… กลับไปกินยาอีกแล้วเหรอ”

“หนูก็โมโหเตะประตูทีเดียวแตก เข้าไปแล้วก็บอกให้เปิด พอเขาเปิดประตู เราก็ถามเขาว่าทำไมพี่ทำแบบนี้ ทำไมเป็นอย่างนี้ ไหนนัดกันแล้ว ทำไมไม่มา ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ กลัวเขาคิดมาก กลัวเขาวนกลับมา เราอุตส่าห์ไปไกลแล้ว แต่ทำไมมาจุดนี้อีก หนูก็ต่อว่าเขาไปตามประสาคนเป็นห่วงค่ะ”

เรื่องที่บอกว่าเติ้ลกลับไปกินเหล้า? นิวนิวบอกว่า “ที่หนูโพสต์ไปไม่ได้บอกว่าพี่เติ้ลกลับไปกินเหล้านะคะ หนูแค่บอกว่า พี่เติ้ลกลับไปนั่งหน้าตู้เย็นอีกแล้ว ถ้ากลับไปนั่งหน้าตู้เย็นอีก หนูขอไปดีกว่า เพราะว่าเราเคยสัญญากันไว้เมื่อประมาณ1ปี ว่าเราจะไม่กลับมานั่งตรงนี้อีก”

“เพราะว่ากว่าที่หนูจะพาเขาออกจากหน้าตู้เย็นได้ หนูใช้ความพยายามมาก ที่รักคะ เราออกไปข้างนอกกันมั้ย แต่ก่อนที่เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เขาไม่อยากเจอคน ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากไปเดินห้าง ไม่อยากทำอะไรทั้งสิ้น ฉันจะอยู่หน้าตู้เย็นของฉัน”

“แล้วภาพที่หนูไปเห็นคือเขากลับไปนั่งหน้าตู้เย็นอีกแล้ว หนูก็รู้สึกโมโห โกรธ เป็นห่วงด้วย เลยโพสต์ลงไป ตอนโพสต์ไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดผลเสียกับเขา เราแค่คิดว่าเขาต้องมาอ่าน เราก็คิดว่าเดี๋ยวเขาต้องมาอ่าน พออ่านแล้วเขาต้องเข้าใจว่าเราเป็นห่วงเขานะ แต่กลายเป็นว่าทำให้เขาเสียชื่อเสียง คนไปด่าเขาว่ากลับไปกินเหล้าอีกแล้วเหรอ หนูก็ขอโทษเขาเลยนะ พี่หนูไม่ได้ตั้งใจ แล้วหนูก็ลบโพสต์ไป”

ด้านเติ้ลเสริมขึ้นว่า “คุณต้องเป็นอย่างนั้น คุณต้องเป็นอย่างนี้ ซึ่งคิดอยู่ฝ่ายเดียว คงเป็นอารมณ์หึงหวงของผู้หญิง ผมก็เลยอยากจะบอกว่า ฟังในมุมของผมบ้าง

ผมกล้าที่จะสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และผมก็สาบานต่อคุณพ่อคุณแม่ไว้แล้วว่าผมจะไม่กลับไปดื่มสุราหรือว่าของมึนเมา เรื่องยาเสพติดผมไม่เคยเล่นอยู่แล้ว เพราะว่าผมเกิดในครอบครัวสาธารณสุข ผมกล้าการันตีด้วยตัวของผมเองว่าจะเอาไปตรวจเลือด ไปตรวจฉี่ ตรวจตอนไหนกับผมก็ได้”

“3 เรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ผมขอก็คือ 1.ยาเสพติด 2.การพนัน 3.สุรา สุรานี่เพิ่งมาขอเพราะเห็นลูกป่วย ตอนแรกไม่ได้ขอนะ มาขอตอนหลังผมก็ให้แม่ขอ เพราะฉะนั้นนี่เป็น 3 สิ่งที่ผมจะไม่กลับไปทำอย่างนั้นอีก”

นิวนิวง้อหนักมาก? เจ้าตัวยอมรับ “ง้อหนักมาก ง้อจนเรารู้สึกว่าไม่ทำแล้ว เรารู้สึกว่าเราทำเต็มที่แล้ว หนูทำทุกอย่าง เขาสั่งยามไม่ให้หนูเข้าหมู่บ้านเขา แต่หนูทำอะไรได้เยอะกว่านั้น บอกเลยว่าแค่ยามทำอะไรหนูไม่ได้หรอก เพราะกระจกนิรภัยหนูยังเตะแตกมาแล้วเลย

แล้วหนูก็หยุดไป เพราะรู้สึกว่าทำเต็มที่แล้ว และวันนึงถ้าพี่เติ้ลได้เห็นข่าวที่หนูพูดไป ถ้าเขาคิดได้ว่าเราเคยเจออะไรกันมาบ้าง เคยคุยอะไรกันมาบ้าง ถ้าเขาคิดได้เขาอาจจะกลับมาหาหนู เพราะว่าหนูก็รอเขาอยู่บ้าน”

เติ้ล ถึงกับเบรก “มันเป็นเรื่องฮา ซึ่งผมเองก็รับไม่ได้ คือผู้หญิงคนนี้นั่งกระโปรงท้ายรถแท็กซี่นอนกอดถังแก๊สเพื่อที่จะเข้าไปในหมู่บ้านผม หลอกยาม บอกยามว่ามาส่งของ ซึ่งคนขับแท็กซี่เป็นคนของเขาเอง เขาเช่าแท็กซี่ ผมก็รู้สึกว่ามีคนแบบนี้ด้วยเหรอว่ะ ยังมีอีกหลายเรื่องคนบ้า (หัวเราะ)”

นิวนิว แก้ตัวว่า “เราเป็นห่วงและก็รักเขาไงคะ เราทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เขาคืนมา มันดูน่ากลัวไปไหม”

เติ้ล พูดต่อ “มันฟังดูตลก แต่จริงๆ มันดูน่ากลัวนะ นอนกอดถังแก๊สเข้ามา มีอีกเรื่องผมเพิ่งตื่น ตอนนั้นไม่รู้ว่าใครมา แค่จะไปปิดประตูรั้ว ผมก็ยืนอึ้ง หันซ้าย หันขวา รู้สึกเหมือนใครนับ 5 4 3 2 ก็ไม่รู้ แล้วก็มีผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่งตัวชุดสั้นๆ ถือช่อดอกไม้มา”

“เราถามว่ามาทำไม คือตอนนั้นรู้สึกกลัว ผมก็ตัวสั่นนึกว่าถ่ายละคร จนสักพัก ผมก็บอกเขาว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ นี่บ้านพี่ เขาก็เป็นเด็กดีนะ ตอบค่ะ หนูเอาดอกไม้มาให้พี่ แล้วเขาก็เดินม้วนกลับไปเหมือนนางเอก เออ..คนแบบนี้ก็มี อ่อแล้วผมอยากเล่ามาก มันโกรธอยู่ไม่กี่ข้อ โกรธมากๆ คือบอกว่ากลับไปกินเหล้า กับสองเล่นยา”

นิวนิว พูดแทรกว่า “หนูไม่ได้เป็นคนพูด คนอื่นพูด”

เติ้ลรีบเสริม “ถ้าจับได้เมื่อไหร่มา (หันไปมองนิว) เหล้าก็กินไม่ได้ รู้แน่ๆ ว่าถ้ากินตาย ยาก็ไม่เคยเล่นอยู่แล้ว เพราะเคยมีเพื่อนพี่ชายเสียชีวิตเพราะยาเสพติดมันสะท้อนจิตใจมาก มันไม่เคยทำให้ใครได้ดี”

ทำไมเติ้ลถึงใจอ่อน? “คงเพราะความดีของเขา เราคิดถึงตอนที่เราอยู่คนเดียว ตอนที่ไม่เหลือใครเลย เรานั่งอยู่หน้าตู้เย็นคนเดียว ก็มีแต่เขาที่คอยโทรมาถามว่าพี่เป็นยังไง อยู่ตรงไหน ซึ่งทุกคนหายไปหมด ผมไม่ได้เจาะจงใคร ผมพูดโดยรวม เพราะว่าทุกคนไม่รู้ว่าผมเป็นอะไร ผมหายไปไหน มันเป็นโรคที่ทำให้โลกลืม และลืมโลก แต่เขาไม่ เขายังสนใจผม”

“ผมก็คิดในส่วนดีตรงนั้นว่า ในวันที่โลกไม่ได้จดจำเราแล้ว แต่ก็ยังมีผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึงจดจำเรา เราก็ไม่รู้จะใช้มุกไหนว่าจะเข้าไปคุยกับเขายังไง ก็ไปหาเขาบอกหิวข้าว ขอเข้าไปกินข้าวหน่อยดิ”

นิวนิว เล่าบ้าง “อยู่ดีๆ ก็มาเคาะประตูบ้าน เราก็ไปเปิดประตู เขาบอกว่าหิวข้าว บอกเขาว่าหิวข้าวก็เข้ามา หนูไม่เคยโกรธเขาเลยนะ เพราะรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ หนูไม่ถามว่าคุณมาทำไม เขาบอกหิวข้าวนั้นก็กิน กินเสร็จแล้วเราก็มานั่งคุยเรื่องของเราว่าเรื่องมันเป็นมายังไง เราถึงต้องทะเลาะกัน เหตุผลของหนูคือแบบนี้ หนูคิดแบบนี้ พี่คิดแบบนี้มันทำให้เราต้องคิดแบบนี้ มันมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันด้วย พอเรามาได้คุยกันมันก็เข้าใจค่ะ”