ตลกดัง อรชร เชิญยิ้ม เปิดใจเคลียร์กระแส เปิดตัวลูกสาวครั้งแรก เจอเม้าธ์แรงหวังเอาลูกมาหากิน ภูมิใจลูกไม่อายโดนล้อมีพ่อเป็นกะเทย
นักแสดงตลกชื่อดัง อรชร เชิญยิ้ม เปิดใจเคลียร์กระแสเปิดตัวลูกสาวหวังเพิ่มเรตติ้งแต่ว่าไปไม่ถึงดวงดาว แถมไม่เคยออกงานคู่กัน เพราะจริงๆ แล้วลูกสาวอายที่มีพ่อเป็นกะเทยหรือเปล่า พร้อมเล่าเหตุการณ์ซื้อผู้ชายมากิน แต่ถูกหลอกจนเสียศูนย์ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีเป็กกี้ ศรีธัญญา และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ก่อนหน้านี้เปิดตัวลูกสาวแท้ๆ แต่ไม่เคยพาออกรายการเลย เพราะอะไร? อรชร : “นางไม่อยากมากรุงเทพฯ ถ้าจะให้มาจริงๆ นางต้องขึ้นรถไฟ เพราะรถเก๋งขึ้นไม่ได้นางอ้วก แล้วจะหงุดหงิด เอาง่ายๆ นางไม่ได้มาทางผู้หญิง ไม่เรียบร้อยเหมือนพ่อ”
ลูกสาวกี่ขวบแล้ว? อรชร : “ตอนนี้ย่าง 18 ปีแล้ว เรียนสารพัดช่างปี3 อยู่จังหวัดพิจิตร”
หลังจากเปิดตัวไปแล้วน้องโดนเพื่อนล้อบ้างไหม? อรชร : “เมื่อก่อนโดน แต่ตอนนี้ไม่มีโดนเลย แล้วเพื่อนลูกสาวแต่ละคนเป็นเอฟซีทั้งนั้นเลย”
พอเปิดตัวแล้วลูกไม่อายในความเป็นเราเลย? อรชร : “ดีใจมากที่เราได้เปิดตัวเขา คือเราไม่ได้สร้างกระแส ไม่ได้สร้างภาพ แต่เราสร้างชีวิตหนึ่งให้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้โดยที่เราปิด เราไม่เคยบอกใครเลย นางก็มีคนแซวบ้าง เราคิดว่าเราเปิดดีกว่า เปิดให้นางรู้ว่าเขามีพ่อ ถึงเขาไม่ได้อยู่กับแม่ แต่เขาอยู่กับเราตั้งแต่เล็กจนโตก็อยู่กับย่า เวลามีปัญหาอะไรเขาจะปรึกษาย่า แล้วถึงจะมาถึงเรา เราก็โอเคเปิดเลย”
ใช้วิธีการพูดยังไงให้ลูกเข้าใจในความเป็นเรา? อรชร : “คือย่าจะเป็นคนบอก เราจะไม่ค่อยสื่อสารอะไรกับลูกมาก เขาจะผ่านย่า ผ่านอา จะผ่านลูกพี่ลูกน้องกัน โดยที่แม่พูดว่าทุกวันนี้ที่เรามีกินมีใช้ ถ้าพ่อไม่เป็นแบบนี้ ไม่ทำแบบนี้ เราก็ไม่มีกิน แล้วก็ไม่ได้เรียนหนังสือนะ เขาก็เลยเข้าใจในตัวตนของเรา”
ก่อนหน้านี้ที่เขาโดนล้อ เขามีโกรธ หรือมาเล่าให้พ่อฟังบ้างไหม? อรชร : “เขาไม่เคยเล่า แต่วันนั้นมีรายการเขาคอลคุย เขาบอก ป3.-ป.4 เพื่อนแซวเพื่อนล้อ โกรธเพื่อนมาก แล้วพอเพื่อนแซวเพื่อนล้อ แล้วมาลงที่เรา งอนบ้าง ไม่พูดด้วย ไม่สนใจ ความที่ยังเด็กเขาไม่รู้จะรับมือยังไง เราก็ไม่อะไรมาก กลับกรุงเทพฯ ดีกว่า เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เพราะเราห่วงทุกคน”
ตอนนี้มีความสุขแค่ไหน? อรชร : “มันเกิน 100 อ่ะ เพราะว่ามันมีทั้งลูก ทั้งหลาน ทั้งน้อง แล้วก็เหลนด้วย ที่เราเป็นตาแล้วมีเป็นปู่ด้วย คืออยู่ในครอบครัวตรงนั้นมันมีความสุขและมันอบอุ่น”
มีอยู่ช่วงหนึ่งต้องทำตัวเป็นแมนด้วย เพื่อรักษาหน้าให้ลูก? อรชร : “ตั้งแต่พ่ออยู่แล้ว พ่ออยู่เราก็นุ่งผ้าขาวม้าผืนเดียว พ่อก็เรียกทัศน์ ชื่อทัศน์ ก็ขานว่าครับ แต่กับแม่จะแอบติ๋มๆ กับพ่อต้องวางตัวเพราะว่าผู้หญิงเข้าบ้าน หนูกินข้าวอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ถ้าผู้ชายเข้าบ้านปุ๊บกระดกเมาเลย เหมือนพาล เราก็เอ๊ะพ่อเขาคิดยังไง เวลาผู้ชายแท้ๆ เพื่อนเราแท้ๆ เข้าบ้าน จนแม่รู้ ซึ่งเราก้ำกึ่งๆ แต่เป็นตัวเองดีที่สุด พอเปิดว่าตัวเองเป็นกระเทย ลูกสาวก็รับได้ เพราะทุกบาททุกสตางจะไปจบที่บ้าน”
คือก่อนหน้านี้มีประเด็นอยู่ไม่มาอยู่ใกล้เพราะอายหรือเปล่า? อรชร : “ไม่ได้อาย”
แต่ก็มีกระแสคอมเมนต์อรชรช่วงนี้ดาวน์ละสิ เลยต้องสร้างเรื่องมีลูกเอามาทำมาหากิน พี่คิดยังไง? อรชร : “ฉันไม่คิดจะโต้ตอบ และปล่อยเลย ใครจะพูดยังไงก็ช่างขอให้คนในบ้านเข้าใจเราเท่านั้นพอ และที่สำคัญที่เรามาออกสื่อประมาณนี้เพราะอะไร อยากให้เขารู้ว่าเราคือพ่อนะ คนอื่นคิดยังไงก็ช่างชรไม่สน ขอให้ลูก คนในบ้านรู้ก็พอ”
ในการประกาศครั้งนี้ไม่ได้หวังสร้างกระแส? อรชร : “ไม่เลย ดีกว่าเขาแซว เขาล้อ บางทีเขางงเอ๊ะใครพ่อวะ แต่เราพูดได้เลยว่าเราไม่ได้มาสร้างกระแส แต่ทุกครั้งกลับบ้านเราจะโพสต์ครอบครัว เราจะบอกเลยคนนี้คือลูกนะ ไลฟ์สด คนนี้ลูก ทุกคนรู้หมด พอมาออกสื่อปุ๊บจะดราม่า ยังไง บูลลี่ยังไงชรไม่สน ปล่อย เพราะเขาก็ไม่ได้ให้อะไรเรากิน”
มีท้อหรือโกรธคนที่พูดแบบนี้กับเราไหม? อรชร : “เคยท้อเหมือนกัน และคิดไปคิดมาจะท้อทำไม ท้อก็อดตายสิ เราต้องสู้เดินหน้าอย่างเดียว”
อยากบอกอะไรกับคนที่คอมเมนต์ไม่ดีไหม? อรชร : “ไม่อยากบอก ไม่ใช่เมนต์แต่เราคนเดียว เมนต์ทั่วหมด เราคิดบวกดีกว่าคนที่มาเมนต์ว่าเรา แต่ในเฟซบุ๊กทุกอันไม่มีนะที่ชรเห็นมีแต่ชมบ้าง เอาอย่างพี่อรชรดีกว่า รักครอบครัว ดูแลแม่อะไรอย่างนี้”
ห่วงลูกไหม? อรชร : “ตอนแรกห่วงก็จะโทรหาเขาตอนนี้อยู่ไหนแล้ว ยิ่งตอนที่เรียนอยู่ที่บ้าน แต่พอย้ายโรงเรียนแล้วไปอยู่ในตัวจังหวัด เราก็จะโทรอยู่ไหนแล้ว ถึงไหนแล้ว ระวังด้วยขึ้นรถ ทำตัวให้ดี อย่าดื้อ ตั้งใจเรียนก็จะคุยกันประมาณนี้”
ตอนนี้ลูกกำลังเป็นสาว ห่วงอะไรเขาบ้าง? อรชร : “ก็ไม่ได้ห่วงนะ เขาเป็นคนแข็งแกร่ง”
เห็นบอกว่าอยากให้ลูกเป็นลักษณะทอมด้วย? อรชร : “เราแล้วแต่เขาจะเป็นอะไรก็เรื่องของเขา เราไม่เคยว่าเขา แต่เราดูแล้วท่าทางลูกเราเรื่องผู้ชายท่าทางจะยาก คงไม่มีแน่ล่ะ มาทีไรก็มีแต่ผู้หญิงมา”
เห็นว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งลูกสาวของเราโดนปืนจ่อมาแล้ว? อรชร : “เพื่อนผู้หญิงนี่แหละ เขามีปัญหากับผู้ชาย ลูกสาวก็รักเพื่อนเข้าไปคอมเมนต์ เสร็จปุ๊บผู้ชายไม่พอใจ ลูกสาวเราก็แรงไป พอคนนี้มาที่สารพัดช่าง ยืนเรียงกัน 4-5 คน แต่พอเห็นปืนเขาก็วิ่งกันหมด ลูกสาวไม่ถอยจนอาจารย์โทรมาแล้วน้องเขยโทรมาหาเรา เราบอกดูหลานด้วยนะ ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ทำอะไรไม่ได้เลย ไปไม่ทันแล้วล่ะ ฝากด้วย เขาบอกไม่ต้องกลัวแล้วพี่ เคลียร์แล้ว”
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นพ่อได้บอกอะไรกับลูกไหม? อรชร : “ก็บอกเขาว่าเราเป็นผู้หญิงนะ สำรวมนิดนึง อย่าเก่งเกิน ที่สำคัญเราเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย อยู่กับพ่อนานๆ นะ แล้วเขาก็ซอฟต์ลง”
แล้วมีมุมที่ลูกสาวเป็นห่วงคุณพ่อมีไหม เพราะเราก็ไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน ส่วนใหญ่เราก็ซื้อบริโภคด้วย? อรชร : “คือบางทีมีคุย เขาจะเข้าไปเลย เราไม่รู้หรอก แต่น้องสาวบอก เขาจะถามว่าอาคนนี้ใช่ไหมที่พ่อคุยแล้วน้องสาวมาบอก ดูยังไงเราไม่สนหรอก เพราะว่าเราไม่ได้ไปมั่วถึงขนาดนั้น เราได้แค่คุย คุยแค่นี้เราก็มีความสุขแล้ว โดยที่ว่าเราไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องไปเช่า แล้วไม่เสียเงินด้วย”
ที่เสียเงินข่าวลือ? อรชร : “เสียเงิน แต่ไม่เสียตัวก็โอเคนะ เพราะมันไม่เอา ไม่ใช่มันไม่เอาตังค์ มันไม่เอาตัวด้วย”
พี่ชรมีคนคุยเยอะไหม? อรชร : “ตอนนี้ก็มี มีมาก็เรื่องเงิน มันไม่มีเรื่องอื่นหรอก เรื่องเซ็กซ์คงจะยากดูสภาพน่าเซ็กซ์ด้วยไหมล่ะ”
ปัจจุบันนี้ยังมีผู้หญิงเข้ามาจีบพี่ชรอยู่? อรชร : “คิดว่าการแสดง แต่เราก็พยายามเปิดให้รู้ เพราะไม่อยากหลอกใคร”
เคยชอบเพศเดียวกันถึงขั้นเสียรถกระบะไปคันนึง? อรชร : “ไม่ถึงกับเสีย อันนี้ขอแก้ข่าว นานมากแล้ว ซื้อรถกระบะคันแรกขับไม่เป็น มันเป็นเกียร์กระปุก 4 ปี ขับได้ 4 ครั้ง ยังไม่รู้ว่าใส่เกียร์อะไรเลย ผู้ชายไปงานด้วยกัน แล้วผู้ชายก็เอารถไป นางกระเทยก็รอ น้ำมันหมดเราเติม แต่กูก็ไม่ได้นั่ง เขาก็เอาไปเป็นเดือน ไปรับเมียไปเที่ยวอะไรอย่างนี้ แล้วเวลาไปงานทีนึงเขาถึงมารับเรา 4 ปีก็ขายเลย แล้วมาซื้อเป็นเกียร์ออโต้ เราก็ขับได้”
เรามีความสัมพันธ์แบบนั้นอยู่กี่ปีที่ให้รถเขาไปใช้แล้วเขาไปรับภรรยา? อรชร : “คุยกันเล่นกันก็ประมาณปี”
เห็นว่าตอนขอรถกระบะคืนโดนผู้ชายด่าอีก? อรชร : “โดน ก็มาขอกะทันหัน เผื่อเขามีนัดที่อื่น แต่เราอยากเอากลับแล้ว เพราะเราฉลาดขึ้นแล้วไง เราก็เอารถกลับ”
เสียใจไหม? อรชร : “ไม่เสียใจ เพราะว่ามันไม่ใช่ไง ถ้ามันไม่ใช่แล้วเรายังเข้าไปหา ยังวิ่งตาม เหนื่อย สู้เราถอยหลังมาดีกว่า มาตั้งหลักใหม่ แล้วตั้งแต่นั้นมาก็ปรับเปลี่ยนตัวเอง เพราะตอนนี้คนรู้จักเราเยอะแล้ว ถ้าทำอะไรออกไปมันก็ไม่ดี เพราะเราเป็นคนรักครอบครัว กลัวจะเสีย”
ตอนนั้นลูกเรารู้ไหม? อรชร : “ไม่รู้ เพราะตอนนั้นนางยังเด็ก”
แล้วตอนนี้มีวิธีปฏิเสธคนที่เขาอยากได้ของเรายังไง? อรชร : “คือโทรมาพี่น่ารักจังเลย เราก็นึกในใจหน้ากูเพลีย มึงยังบอกน่ารักอีก วันที่สองบอกพี่น่าจะเกิดเป็นผู้หญิงเนอะ เราจะได้อยู่ด้วยกัน ก็นึกในใจกูตายกี่ชาติเกิดมาถึงได้เป็นผู้หญิง วันที่สามพี่ผมเดือดร้อนเรื่องเงิน ตอนนี้รถผมจะโดนยึด เท่าไหร่อ่ะ 7500 มีอะไรอีกไหม ฟังพี่ก่อนนะ งวดรถพี่ 21200 บาท ค่าบ้าน 10200 บาท แล้วค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิน ไหนจะให้แม่ ส่งเด็กเรียนอีก 4 คน โหพี่ ผมว่าผมแย่ พี่แย่ยิ่งกว่าผมอีกนะ แล้วมันก็หายไปเลย”
แต่พี่ก็มีการใช้เงินบ้าง เสียตังค์แล้วไม่ได้กิน คืออะไร? อรชร : “มีอยู่วันหนึ่งผู้ชายมาดีใจมากเลย ก็พาไปดริงก์กัน พอเมาเราก็ขับรถไม่ไหว ผู้ชายก็ขับมาส่งที่บ้าน พอถึงเราก็เปิดประตูเข้าไป เข้าห้องน้ำเลยเคลียร์ตัวเอง ดันไปโดนอ่างล้างหน้าแตก ผู้ชายก็จะดันเข้ามา เราก็บอกอย่าเข้ามา เราก็รีบอาบน้ำเสร็จเดินเข้าห้อง ปิดประตูล็อกเลยแล้วก็หลับ พอตื่นขึ้นมาผู้ชายไปไหน พอเปิดประตูไป พี่เข้าห้องคนเดียวเลย ปล่อยให้ผมยุงกัดอยู่ข้างนอก ก็อดไป”
คนที่เขาขำหน้าเราเป็นยังไง? อรชร : “น้องเขาบอกผมเคยเห็นพี่ที่ไหน เราก็บอกปิดไฟเถอะ พี่เปิดเถอะ ขำ มึงไปดูดกัญชามาเหรอ แล้วมันก็ขำเรา ผมเคยเห็นพี่ พอเราถอดหมวกปุ๊บขำหนักเลย เราก็ปิด มันเปิด จนเรากลับบ้าน พอออกมาเลยคุยกับเพื่อน ทีหลังมึงอย่าพากูมานะ มาแล้วมันก็นั่งขำกูอย่างเดียว”
เรามีสเป๊กผู้ชายไหม? อรชร : “มีอยู่คนเดียวที่เราชอบมากเลย เป็นผู้ชายในวงการ พี่เอ วราวุธ พอเจอปุ๊บมีความสุขมาก กลับมาถึงอาบน้ำหลับสบาย ไม่ต้องคบกัน แต่มีความสุข เพราะเขาได้คุยกับเรา มันเป็นความสุขทางใจ”
คลิปสัมภาษณ์ อรชร เชิญยิ้ม