นักร้องหนุ่มแดนใต้มากความสามารถ เก้า เกริกพล ปล่อยผลงานเพลงใหม่ล่าสุด “ทำไมต้องโสด” ฟีเจอริ่งกับนักร้องรุ่นพี่ โบ๊ท Dr.Fuu เอาใจคนโสด ล่าสุดเจอคอมเมนต์แซะไม่เลิก ถามจะขอค่ายอดวิวเพิ่มอีกไหม สัญญาใจไม่มีจริง
โดยสองนักร้องหนุ่ม เก้า เกริกพล และโบ๊ท Dr.Fuu ได้เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ ถึงการทำงานร่วมกันอีกครั้งในซิงเกิลที่สองแล้ว พร้อมชี้แจงการแบ่งสัดส่วนรายได้เพลงกันคนละครึ่ง ทำงานด้วยความเชื่อใจรักกันเหมือนคนในครอบครัว กับสัญญาใจ ยันไม่ไล่ฟ้องคนเมนต์ด่า
มาร่วมงานกันได้อย่างไร? เก้า : “ผมชอบพี่โบ๊ทมาก ชอบมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ พี่โบ๊ทเป็นศิลปินในดวงใจของผม ผมร้องเพลงพี่เขาได้หมดเลยครับ ตอนที่ผมได้เพลงแรกเพลง “ไม่ใช่ครั้งแรก” มา ผมก็คิดถึงพี่โบ๊ทเลย แล้วผมก็โทรไปไม่คิดว่าพี่โบ๊ทจะตกลงเร็วมาก ผมดีใจมาก ครอบครัวผมก็ชอบพี่โบ๊ทหมดเลย สำหรับเพลงนี้ “ทำไมต้องโสด” เป็นเพลงที่สองแล้วครับ”
โบ๊ท : “ตอนแรกน้องโทรมาหาผู้จัดการผมก่อนครับ พอคุยกันก็โอเค น้องเขาเป็นคนน่ารักครับ ผมชอบวิธีการทำงานด้วยไม่ได้ซีเรียสมาก ทำงานสบายๆ ก็เลยตกปากรับคำว่าอยากทำงานด้วยกัน”
ในฐานะศิลปินรุ่นพี่ ได้ร่วมงานกับศิลปินรุ่นใหม่เป็นอย่างไรบ้าง? โบ๊ท : “อย่างแรกรู้สึกว่าตัวเองหนุ่มขึ้น เพราะว่าได้ทำงานกับน้องอายุวัยทีน 18-19 เหมือนเติมไฟในตัวเองด้วย แล้วเราจะได้เห็นไอเดียใหม่ๆ ของเด็กรุ่นใหม่ที่ทำงานเพราะว่าส่วนใหญ่เราอยู่กับเพลงของเรามา 10 กว่าปี คือการที่จะได้เห็นไอเดียใหม่ๆ มันน้อยมาก เพราะว่าเจนผมกับเขามันต่างกัน พอมาเจอกันมันมีแนวคิดวิธีการร้องแบบนี้ ผมว่าดีมากครับ”
คอนเซ็ปต์เพลง ทำไมต้องโสด มีที่มาที่ไปยังไง? โบ๊ท : “พวกเราสองคนโสดครับ เพลงนี้ต้องให้เครดิตเก้าเพราะว่าเก้าเป็นคนทำเนื้อเพลงขึ้นมาก่อนแล้วผมค่อยมาช่วยทีหลัง น้องเก่งครับ เก้าเก่งมาก 500 โอนให้พี่ด้วย(หัวเราะ)”
ฟีดแบ็กเป็นอย่างไร? เก้า : “ในเพจดีมากเลยครับ ตอนนี้จะ 3 ล้านแล้วครับ คนไลก์แสนเจ็ด ในยูทูบก็ดีเหมือนกันครับ ในยูทูบไปเรื่อยๆ ตอนนี้ติด15ในมาแรงครับ ในยูทูบตอนแรกไม่คิดว่ามันจะไป มันไปช้ามากเลยครับกว่าจะขึ้นหมื่นมันช้ามาก แล้วทีนี้กลายเป็นสองวันแสนวิวเข้าวันที่ 3 ก็คือวันละแสนวิว ไปเรื่อยๆ ก็ถือว่าโอเคครับสำหรับกระแสตอบรับ”
ดีไซน์ออกมาเป็นความลงตัวได้อย่างไร? โบ๊ท : “ผมว่าทุกเพลงเป็นตัวเอง ตัวผมก็เป็นตัวเอง เก้าก็เป็นตัวเองแล้วผมมองว่าด้วยเรนจ์เสียงของผมกับเก้าใกล้เคียงกัน มันเลยทำให้เพลงดูสมูธ เพราะว่าเราเคยได้ลองจากเพลงแรกมาแล้ว คือเพลง ไม่ใช่ครั้งแรก ผลตอบรับมันค่อนข้างโอเคมาก”
โบ๊ท : “คาดหวังแค่ว่าให้คนโสดได้ฟังเพลงนี้ครับ”
เก้า : “เพลงนี้ทำมาเพื่อคนโสดโดยเฉพาะเลยครับ มาจากศิลปินทั้งสองคนครับที่ยังโสดครับ”
โบ๊ท : “คนโสดแต่งเพลงให้คนโสดฟัง โสดมาปีกว่าๆ ครับจะสองปีแล้วครับ”
แบ่งเรื่องผลประโยชน์เพลงกันอย่างไร? เก้า : “ผมให้พี่โบ๊ท 500 ครับ ขาดตัวครับ(หัวเราะ)”
โบ๊ท : “พอแล้ว ก็เลี้ยงข้าวด้วย ล้อเล่นๆ จริงๆ แล้วตัวผมเอง ตั้งแต่คุยกับเก้าแล้ว ผมบอกว่ายังไงก็ได้ ผมไม่ได้มีปัญหาเลย ผมไม่ได้หวังเลยว่าผมจะต้องได้เท่านี้หรือว่าอะไรเท่าไหร่ ผมมองว่าแค่ได้ทำงานด้วยกันก็แฮปปี้แล้วครับ สุดท้ายมันก็แล้วแต่ตัวน้อง และคุณพ่อคุณแม่เขาที่เขาจะคุยกับน้องยังไง”
มีคอมเมนต์แซะเรา จะขอค่ายอดวิวเพิ่มขึ้นไหม สัญญาใจไม่มีจริง กลัวไหมว่าจะเกิดปัญหาเหมือนคราวที่แล้ว? เก้า : “ไม่เกิดขึ้นแน่นอนครับ เพราะว่าผมทำงานกับพี่โบ๊ทเหมือนครอบครัวครับ เหมือนพี่กับน้องเลย เจอกันปุ๊บก็ผูกพันรักมากครับ ไม่มีการเอาเปรียบกันแน่นอนครับ”
โบ๊ท : “งงมาก ต้องฝากบอกน้องคนนั้นด้วยว่า มันเป็นเพลงของเก้า เก้าไม่ได้คัฟเวอร์นะ ต้องบอกน้องเขาด้วย น้องเขาอาจจะสับสนนิดหนึ่ง”
ถ้าเกิดว่าเพลงนี้มันไปถึงร้อยล้านวิว กลัวมีปัญหาเรื่องแบ่งรายได้ไหม? เก้า : “ไม่มีครับ สำหรับผมตอนนี้ ผมคิดไว้แล้วว่า พี่โบ๊ทกับผมทำงานกันแบบคนละครึ่งเลย ส่วนรายได้ตรงนี้ทุกช่องทางจะแบ่งกันคนละครึ่งเลยครับ”
มีลายลักษณ์อักษรไหม หรือเป็นสัญญาใจ? โบ๊ท : “ไม่มีครับ”
เก้า : “ไม่มีครับ ครอบครัวครับผม แบบครอบครัวเลยครับ ทุกรายละเอียดผมจะส่งให้พี่โบ๊ทหมดเลยครับว่าตรงนี้เท่าไหร่”
โบ๊ท : “แต่ผมก็จะบอกเก้าตลอดว่า ไม่เป็นไรหรอก เอาไปเหอะ เพราะว่าตัวน้องเองอายุ 18 จะ 19 แต่ต้องทำงานดูแลครอบครัวเลี้ยงคุณแม่ ค่าใช้จ่ายของบ้านทุกอย่าง ถ้าทำให้ชีวิตครอบครัวหนึ่งดีขึ้นมาแล้วโดยที่้ผมก็ไม่ได้ลำบากลงหรือว่าไม่ได้รวยขึ้น ผมว่าผมก็แฮปปี้ ผมมองว่าครอบครัวเขาเป็นครอบครัวที่น่ารักครอบครัวหนึ่ง ถ้าใครได้สัมผัสหรือได้เจอ”
รู้สึกยังไงเวลาเราทำเพลงออกมา ที่ไปฟีเจอริ่งกับนักร้องคนอื่น ยังเจอคอมเมนต์แซะการแบ่งผลประโยชน์เพลง เรื่องค่าตัว 500 ไม่จบไม่สิ้น? เก้า : “ผมไม่สนใจครับ เพราะว่าไม่ได้ทำอะไรให้ตัวผมดีขึ้น ผมก็ทำไปเรื่อยๆ แล้วผมก็ไม่ไปไล่ฟ้องเขาด้วยครับ มีคนมาเมนต์คนนี้ว่า จะเมนต์อะไรดูตังค์ในกระเป๋าด้วยนะ ยกกระเช้ามาก็ไม่ได้ผลนะจ๊ะ แล้วผมก็บอกไปว่า ผมไม่เป็นไรครับ ผมไม่ไปไล่ฟ้องเขาครับ แล้วผมไม่ฟ้องใครสักคนเลยที่เขามาว่าผม”
หลายคนมองว่าคนที่มาว่าเราเป็นติ่งเจนนี่หรือเปล่า? เก้า : “ผมไม่แน่ใจครับ แต่สิ่งที่เขาเมนต์มามันสื่อไปทางแบบนั้นครับ แต่ว่าผมก็ไม่ได้ไปว่าอะไรเขานะครับ ผมแค่แซวกับพี่โบ๊ทเฉยๆ ว่า พี่โบ๊ท 500 พอนะพี่”
โบ๊ท : “พอก็ได้ครับ แต่เลี้ยงข้าวผมด้วย”
เก้า : “แฟนคลับบอกว่าอย่าแกงพี่โบ๊ท”
เคยเจอปัญหาเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัวไหม? โบ๊ท : “ส่วนตัวผมถือว่าโชคดีนะครับที่ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ เรื่องแบ่งยอดวิว ก็จะมาเห็นเรื่องพวกนี้ตอนช่วงหลังๆ ประมาณ 3-4 ปีนี้เอง แต่สมัยผมส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเรื่องพวกนี้ โชคดีที่ว่าเจอคนที่ทำงานด้วยไม่ว่าจะเป็นใครที่ผ่านมา คือจะทำงานกันแบบเพื่อนพี่น้อง ครอบครัว เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันมากกว่า ผมโชคดีเรื่องพวกนี้คือยังไม่ได้มีปัญหาอะไรพวกนั้นเลย”
โควิดกระทบอาชีพนักร้อง? โบ๊ท : “กระทบมากครับ แทบจะไม่ใช่นักร้องแล้ว”
เก้า : “ยังร้องเพลงตัวเองเป็นไหมพี่”
โบ๊ท : “ผ่านไปสองซิงเกิลที่ทำด้วยกันแล้วก็ยังไม่ได้ทำงานด้วยกันสักที ทุกคนแค่รู้ว่าเรามีเพลงที่ร้องด้วยกัน แต่ยังไม่มีไปขึ้นคอนเสิร์ตด้วยกัน มาติดเรื่องโควิดยาวมาเรื่อยเลย เสียดายเหมือนกัน”
เก้า : “ตอนนี้ก็เบื่อมากเลยครับ อยู่แต่บ้านทำเพลง ถ้าเกิดมันจะยาวไปอีกก็อาจจะมีทำเป็นคอนเสิร์ตออนไลน์ เป็นไลฟ์สตรีมอาจจะเป็นฟรีคอนเสิร์ตให้ทุกคนได้ดู คิดไว้กับพี่โบ๊ทแล้วครับ อาจจะมีศิลปินอื่นๆ มาร่วมด้วย”
โบ๊ท : “มีวงเพื่อนๆ น้องๆ มาทำเป็นคอนเสิร์ตไลฟ์สตรีมด้วยกัน เป็นนักดนตรีถ้าไม่ได้ร้องเพลง ไม่ได้เล่นดนตรี หลายๆ เดือนมันก็น่าเบื่อนะครับ ต้องหาอะไรทำกันบ้าง แล้วช่วงนี้เหมือนกับจะค่อยๆ คลายล็อกดาวน์แล้ว การเดินทางอาจจะสะดวกสบายมากขึ้นหน่อย ลองหาเวลานัดกัน หาสถานที่ที่มันเหมาะที่ทุกคนสามารถเดินทางมาได้ ก็คงจะได้ทำกันเร็วๆ นี้มีโปรเจ็กต์ดีๆ เกิดขึ้น”
เก้า : “ฝากเพลง ทำไมต้องโสด ของน้องเก้ากับพี่โบ๊ท ผมว่าเพลงนี้ต้องโดนใจคนโสดแน่นอนครับผม และมีอีกหนึ่งเพลงซิงเกิลแรกของเรา ไม่ใช่ครั้งแรก ขอบคุณทุกไลก์ทุกแชร์ด้วยครับ”
