ครูไพบูลย์ เปิดใจ หลังฟ้อง เอ๋ มิรา 1 ล้าน เผย อยากจบจริงๆ ขอแค่มาคุย ไม่ว่า ถ้าอีกฝ่ายจะฟ้องพรากผู้เยาว์ ส่วนเรื่องลูก ยินดีถ้าจะเอาไปเลี้ยงดู ตนพร้อมซัพพอร์ต
จากกรณี ครูไพบูลย์ แสงเดือน ฟ้องอดีตภรรยา เอ๋ มิรา ข้อหาหมิ่นประมาทจำนวน 1 ล้านบาท และต่อมาด้าน เอ๋ มิรา ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า #เตรียมฟ้องพรากผู้เยาว์
ล่าสุด ครูไพบูลย์ เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ เรื่องที่อดีตภรรยาลุกขึ้นมาฟ้องคดีพรากผู้เยาว์นั้น ตนไม่ทราบว่าอะไรยังไง ให้อีกฝ่ายเป็นคนพูดเองดีกว่า ส่วนเรื่องที่ตนออกมาฟ้องหมิ่นประมาทในครั้งนี้นั้น ก็เพื่ออยากปกป้องครอบครัว ระหว่างตนและ กระต่าย พรรณนิภา
โดยเจ้าตัวบอกว่า จริงๆ ก็เคยออกมาบอกแล้วว่าจะฟ้อง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ออกมาฟ้องเหล่าเกรียนคีย์บอร์ด เพียงแค่หมายเพิ่งไปถึงอีกฝ่าย เลยเป็นประเด็นขึ้นมาอีกรอบ
การฟ้อง 1 ล้านบาท หลายคนมองว่ามันเกินไปไหม หรือมันเป็นเงื่อนไขในการฟ้อง?
“คือจริงๆ ถ้าคนรู้กฎหมายจริงๆ จะรู้ โดยเฉพาะทางเขาน่าจะมีทนายเยอะแยะที่คอยแนะนำว่าความเป็นไปได้อะไรยังไง แต่ผมอยากให้มันจบมากกว่าการดำเนินการ แต่เราไม่ได้ว่าเขานะ ว่าเขาจะดำเนินการยังไง เขาจะทำยังไงกับเรา แต่สิ่งที่เราดำเนินตอนนี้ก็คือใช้ชีวิตปกติครับ”
ก็คือถ้าเขามาคุยมาเคลียร์ระหว่างเขากับครูก็คือจบ ก็จะไม่มีการฟ้องอะไรกัน?
“จริงๆ มันเป็นแค่นั้นครับ มันมีแค่นั้นจริงๆ ครับ คือชีวิตและเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันมีแค่นั้น แล้วมันก็จบแค่นั้น ผมอยากจบมากกว่า เอาตรงๆ ผมอยากให้เขาทำงานมีรายได้มากกว่า จะให้ผมไปฟ้องเพื่อที่จะรวยเพื่อที่จะเอาชนะผมไม่ทำอย่างนั้นแน่นอน อย่างน้อยผมก็ช่วยเหลือเขามาตลอดนะครับ”
แล้วที่เขาฟ้องกลับก็ไม่กลัว?
“จะใช้คำว่าไม่กลัวก็ไม่ได้ ไม่อยากให้ใช้คำนี้”
จากกระแสเหมือนตอนนี้ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันค่อนข้างรุนแรง?
“ไม่ครับ เราไม่ได้ทะเลาะ ผมกับเขาไม่ได้ทะเลาะกันครับ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทะเลาะ เพราะหลังจากที่เขาเอาลูกไปได้สองวัน ผมก็ไปที่บ้านเกิดผม แล้วเขาก็อยู่ที่นั่น อยู่ที่บ้านญาติผม
เขาก็เอาลูกชายมาเล่นกับหลานๆ ของผมที่นั่น ก็ธรรมดานะ ผมก็ถามว่าลูกจะกลับวันไหนผมเห็นเขามีความสุขนะเล่นกับลูกๆ หลานๆ ก็ปกติ คือเขาบอกว่าจะเอาลูกไป 1 อาทิตย์ ตอนนี้ก็ครบ 1 อาทิตย์แล้ว ก็ยังไม่เห็นเอามาส่ง”
ตอนแรกที่เขามารับลูก เขาทราบหรือยังว่ามีการฟ้อง?
“ตอนนั้นน่าจะยังไม่ทราบ”
หากเขาจะเอาลูกชายไปเลี้ยงมีความเป็นไปได้ไหม?
“ได้ ยินดีมาก ลูกจะอยู่ที่ไหน เขาโตมาเขาก็จะรู้ว่าอะไรคือความรัก อะไรคือชีวิต อยู่กับผม ผมไม่เคยสอนให้เขาโกรธเกลียด ไม่เคยสอนให้เขาไม่รู้จักบุญคุณใคร ผมก็บอกเขาเสมอว่านี่คือแม่ เขาก็รัก เขาก็ไม่เคยมีปัญหาโดยเฉพาะเรื่องความอบอุ่น ผมก็ดูแลเป็นอย่างดีด้วยครับ
เขาเห็นแม่ก็มีความสุข อยู่กับแม่ก็มีความสุข ผมก็ยินดีและมีความสุขด้วย ผมไม่ได้ต้องการที่จะบอกว่าคุณต้องเอาลูกมาคืน มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
แต่มันสำคัญที่สุดที่ว่าเขาอยู่ที่ไหนแล้วเขามีความสุข เขาอยู่ที่นั่นมีความสุขก็ให้เขาอยู่ หรือเขาจะเอาไปเลี้ยงเลย ก็แค่มาย้ายโรงเรียนให้น้องย้ายไปเรียนที่ใกล้ๆ แม่เขา ผมก็ยังช่วยเหลือแล้วก็ดูแลเขาตามวัยเขา”
แล้วคำพูดที่เขาบอกว่าเลือกพ่อผิดอันนี้เห็นแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
“ก็มันเป็นสิทธิ์ของเขาอยู่แล้วครับ เขาอาจจะรู้สึกอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ว่าครับ”
ก็คือสรุปแล้ว ครูอยากจะจบ แต่ที่ฟ้องเพื่อแค่อยากจะปกป้องครอบครัว ระหว่างครูกับน้องกระต่าย เท่านั้น ถูกต้องไหม?
“ใช่ครับ แต่ที่หลักๆ จะเน้นไปที่เกรียนคีย์บอร์ดที่เป็นจำนวนเยอะๆ แต่สำหรับเรื่องของเรา(เอ๋ มิรา) ผมอยากจบนานแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้มาพูดคุยอะไรกับผมเลย”
ครูบอกอยากจบ แต่กลับฟ้องจนเป็นเรื่องราวขึ้นมา แล้วมันจะจบง่ายๆได้ยังไง?
“แค่เราสองคนคุยกันมันก็จบแล้ว”