วันที่ 12 ธ.ค. ที่ ศูนย์การค้า Show DC พระราม 9 ในงานพิธีบวงสรวงภาพยนตร์ “กราวิตี้ ออฟ เลิฟ” หลังเสร็จพิธี พระเอกจอมเกรียน บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ถึงวันหมั้นของนางเอกสาวอดีตคู่จิ้น มาร์กี้-ราศรี บาเลนซิเอก้า โดย บอย-ปกรณ์ เผยว่า “เมื่อวันงานหมั้น ผมทำงานอยู่จังหวัดกำแพงเพชร ข้อความแสดงความยินดีก็ยังไม่ได้ส่งเลย เพราะว่าเจอกันเมื่อตอนงานแต่ง เป๊ก นิว แล้ว และบอกไปแล้วเหมือนกันว่าวันหมั้นไม่ได้ไปนะ เดี๋ยวไว้ไปงานวันฉลอง คือต้องไปแน่ๆเพราะเคลียร์คิวงานไว้แล้ว ตอนกลางวันมีงาน แต่เย็นก็ไปได้”
คนจับตามองว่าไม่ยอมไปงานหมั้น “เป็นเรื่องปกติ คนกคงจับตาดูเพราะว่าเราสนิทกัน เป็นคู่จิ้นกันด้วย ไม่ได้ซีเรียสครับ ถามว่ามีใครส่งข้อความมาหาไหม ว่าทำไม่ไม่มางานวันหมั้น ไม่มีใครส่งอะไรมาครับ เพราะว่าวันนั้นเราเองบินไปทำงานตั้งแต่ 7 โมงเช้า จริงงานแต่งของเพื่อนทุกคน ถ้าเกิดว่าไม่ว่าเป็นใคร ถ้าว่างไปอยู่แล้ว อดไป เพื่อนๆทุกคนก็เข้าใจ ไม่มีใครซีเรียส เราแสดงความยินดีก็คือจบแค่นั้น อย่างงานเป๊ก นิว ที่เชียงใหม่ ผมก็ติดงานไปไม่ได้ พองานที่กรุงเทพฯ ก็ได้ไป ไม่ได้มีใครงอนกันเรื่องแบบนี้”
นอกจากซองเตรียมของขวัญอะไรพิเศษอีก “ไม่ได้เตรียมครับ แค่ซองเฉยๆ”
งานเป๊ก นิว ได้เจอมาร์กี้กับป๊อกไหม “เจอครับ วันนั้นเขาก็เอาการ์ดแต่งงานให้ ก็มีคุยกันว่าเป็นยังไงบ้าง เหนื่อยเปล่าช่วงนี้ ยุ่งไหม เขาก็บอกมาว่ายุ่งเหมือนกัน เพราะมันใกล้วันเข้ามา ผมก็บอกเขาว่าวันหมั้นไปไม่ได้นะติดงาน”
แล้วงานแต่งของเรา “ไม่ได้จำเป็นครับ ว่าคนอื่นมีแฟนกันหมดแล้ว เราต้องมี ถามว่าอิจฉาไหม ไม่ครับ เฉยๆ ผมเองอยู่อย่างนี้มาเรื่อยๆอยู่แล้ว ไม่จำเป็นว่าเขามีเราต้องรีบมีตามเขา เรามีเมื่อเราพร้อมดีกว่า”
หรือมีแล้วไม่บอก “ไม่มีๆ ไม่มีจริงๆ”
กลัวว่าจะเลยวัยการมีครอบครัวหรือเปล่า “ไม่กลัวๆ เรายังอยู่ในวัยที่ได้อยู่”
คิดเรื่องแต่งงานไว้ยังไงตอนไหน “ก็ไม่ได้คิดเลย เอาจริงๆเรื่องของความรัก หรือการมีคู่ ถามว่ามีคิดไหม ก็มีแวบๆมาบ้าง แต่ว่าไม่ได้เป็นประเด็นหลักของชีวิตอย่างเดียว”
รอบุพเพสันนิวาสอย่างเดียวเลย “ไม่เชิงขนาดนั้น มีหาบ้างแต่ว่าไม่ได้เป็นประเด็นหลัก ที่ผ่านมาก็มีคุยๆอยู่บ้าง แต่พอคุยๆไปก็เป็นเพื่อนกัน แค่นั้นเอง”
เคยไปเช็คดวงไหม “ไม่เคย ไม่ชอบ กลัวเขาทักเรื่องไม่ดี เดี๋ยวมาคิดมาก เป็นคนขี้นอยด์”
แม่ถามอยู่ไหม “เขาหยุดทักมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาแซว เวลาแม่เจอเป๊กเขาก็จะรวมหัวกับเป๊กแล้วมาแซวผม คนอื่นเขามีกันแล้วอย่างนี้ แต่ไม่ได้เป็นประเด็นซีเรียส”
ปลงหรือเปล่า “ไม่ได้ถึงขั้นปลง แต่ว่าไม่รีบๆ”
มีคนเข้ามาหาบ้างไหม “มีทั้งที่ผมเดินเข้าไปหาเขา และเขาเดินเข้ามาผม แต่ก็ยังๆไม่มีอะไร ถามว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน คือแบบไหนก็ได้ คุยกันรู้เรื่องก็พอ ยังไม่เจอคนตรงกัน ถามว่าสเป๊กเป็นยังไง ไม่มีครับ คุยกันรู้เรื่อง ถ้าถามผมว่า คุยกับผมรู้เรื่องคืออะไร คือหัวเราะไปในเรื่องเดียวกันได้ คนประเภทเดียวกัน ถามว่าไม่มีเวลาหรือยังไม่พร้อม คือด้วยเวลาก็เป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกวันนี้ยังหาเวลาว่างให้ตัวเองยังไม่ค่อยได้ ยังมีกิจกรรมที่ต้องทำอีกหลายอย่างทั้งงาน ทั้งธุรกิจ เลยเป็นว่าเรื่องความรักเป็นอีกพาร์ทหนึ่งที่ถ้าจะมีต้องให้เวลากับมันหน่อย ไม่ได้ตั้งกำแพงครับ ไม่รีบครับ ผมว่าหลักๆมาจากผมไม่ได้รีบครับ”
วันใหม่ไปวิ่งกับตูน (อาทิวราห์) “วันนั้นผมไปอยู่แล้ว นัดเกรท (วรินทร) และ เจมส์ (จิรายุ) แต่วันใหม่เขารู้ว่าจะไปก็เลยขอไปด้วย แค่นั้นเอง เขาอยากไปด้วย ที่แรกก็กังวล เพราะที่แรกกะว่าเขาคงไปวิ่งแป๊บหนึ่ง สัก 5 นาที ถ้าตามไม่ทันก็ขึ้นรถ หรือว่าไปวิ่งเล่นแถวนั้น ถามว่าห่วงไหม คือเราก็วิ่งตาม และคอยถามพี่ตูนว่าวันใหม่วิ่งทำให้จังหวะเสียไหม พี่ตจูนเขาก็บอกว่าไม่ วันใหม่เขาอยากวิ่งเร็วกว่านั้น เราก็วิ่งประคองอยู่ข้างหลัง คอยดูว่าเขาเหนื่อยหรือยัง ก็งงว่าเขาไม่เหนื่อย เคยเห็นแต่เขาวิ่งเล่น แต่ไม่เคยเห็นเขาวิ่งไกลแบบนี้ แต่ความตั้งใจของเขาคือเขาอยากไปด้วยก็พาเขาไป แต่ถ้าสมมติว่าผลที่ออกมาทำให้คนที่บริจาคเงินมากขึ้น หรือเป็นอะไรที่ดีที่เสริมให้เด็กๆออกกำลังกายก็เป็นเรื่องที่ดี”
วันใหม่ขอไหมว่าให้พาไปอีก “เขาก็พูดว่า อยากไปอีก ตั้งแต่วันนั้นแหละว่าอยากไปอีก”
วันที่วันใหม่วิ่งด้วย ยอดเงินขึ้นค่อนข้างสูง “ผมไม่รู้ว่ามีส่วนช่วยมากแค่ไหน แต่ว่าอย่างที่ผมบอกถ้าเกิดผลพลอยได้มันคือมีคนบริจาคเพิ่มมากขึ้นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”
จะไปอีกไหม “ของผมต้องดูอะไรด้วยคิว ส่วนน้องต้องดูตารางเรียนด้วย ต้องดูว่าไกลแค่ไหนด้วย”
เขากลับมาจากวิ่ง มีอาการเป็นยังไงบ้าง “มีวันนั้นเลยเขาขึ้นรถก็หลับเลย วันต่อมาก็มีที่เขาบอกว่าเขาย่อแล้วปวดขา แต่ก็พูดขำๆยังหัวเราะ ยังวิ่งเล่นต่อได้”
วันใหม่บอกว่าอยากไป แต่แม่ไม่อยากให้ไป เพราะเป็นห่วง “คือแม่เขาห่วงตลอดอยู่แล้ว เขาไม่สามารถวิ่งตามได้ ก็ต้องนั่งดูไลฟ์อยู่บนรถ ตอนที่วิ่งก็คอยโทรมาบอกว่าให้คอยดูน้องว่าไหวไม่ คอยดูอาการใกล้ๆ แม่เขากลัวว่าเด็กพอไม่ไหวจะไม่รู้ตัวเอง กลัวว่าจะไม่รู้ตัวเซหรือล้มไป แต่เราก็คอยดู ทีมงานพี่ตูนก็คอยซัพพอร์ตด้วย ต้องขอบคุณทีมงานพี่ตูนด้วย”
วันใหม่ได้กอดพี่ตูนด้วย “มีมาพูดว่า พี่ตูนมาหอมแก้มเขาด้วย หรือเขาหอมแก้มพี่ตูนประมาณนี้แหละ เขาก็มาโม้ให้ฟัง (หัวเราะ) ถ้าถามเรา เราก็แอบภูมิใจว่าน้องเราวิ่งได้ขนาดนี้”
