เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่แกรนด์ฮอลล์ ล็อบบี้อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส ลูกทุ่งสาวชื่อดัง “หญิงลี ศรีจุมพล” โชว์ร้องเพลง “ส้มตำ ไทยชูรส 4.0” ในงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาเพลงไทยชูรส ตราชฎา เวอร์ชั่นใหม่ จากนั้นให้สัมภาษณ์ถึงสุขภาพหลังหายป่วย กลับมาสวยเป๊ะเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเอ่ยถึงความรักกับหนุ่มแต๊งค์ แฟนหนุ่มนอกวงการ ลูกทุ่งสาวมีอาการน้ำตาคลอ ก่อนจะอัพเดตสถานะความสัมพันธ์ โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงตัดพ้อว่ารักหมดโปร ฝ่ายชายไม่เอาใจใส่ตนมากพอในช่วงที่ป่วย

หญิงลีกล่าวว่า “หลังจากที่หญิงป่วยหนักมาแล้ว อาจจะเสียโฉมหรือเดินไม่ได้ แต่ตอนนี้หญิงลีกลับมาได้ เต็มที่กับงานรับงานคอนเสิร์ตร้องเพลง แต่รับงานเบาๆ ไม่รับเยอะ ร้องเพลงด้วยความสุข ถามว่าเลือกรับงานไหม หญิงลีไปงานทุกแบบ แต่จะไม่เลือกรับงานที่สถานที่ห่างไกลกันมาก เพราะว่าหญิงลีไม่ได้เดินทางคนเดียว ถ้าเราเดินทางคนเดียวก็จะนั่งเครื่อง แต่มีทีมงานเราก็เป็นกังวล กลัวความเสียหายมันจะไม่คุ้มกับชีวิตและทรัพย์สิน”

ตอนนี้สุขภาพกลับมาร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วใช่ไหม
“ตอนนี้ร่างกายหญิงลียังไม่เต็มร้อยแน่นอน แต่มันเกือบจะเต็มร้อย หญิงไปวิ่งช่วยพี่ตูนแต่วิ่งไม่เยอะเพราะถูกเขาถ่ายรูปเยอะเลยวิ่งไม่ทันเพื่อน หญิงลีดีใจที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดีๆ”มีส่วนไหนที่บอกว่าไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
“ส่วนขาค่ะ ที่ไม่เต็มร้อย ยังโลดโผนไม่ได้ ตอนลุกนั่งบนเวทียังรู้สึกปวดขามาก เมื่อเดือนที่ผ่านมา ตอนลุกนั่งจับมือแฟนๆ พอลงเวทีมาอีกหนึ่งวันปวดมาก หมอบอกว่าเกิดจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องรอเวลาเป็นปี ส่วนการผ่าตัดใบหน้าที่มีไขมัน หญิงลีไม่สามารถรอได้ หญิงรู้ว่าการแพทย์ปัจจุบันปลอดภัยสามารถช่วยได้ แต่ขาของเราต้องกินเนื้อทุกอย่างให้เสริมกล้ามเนื้อ หญิงผ่าตัดมา 4 ครั้งผ่านมาด้วยความเจ็บปวดและเสี่ยง หญิงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ป่วยสู้ชีวิต”

“เราไม่คาดหวังว่าจะกลับมาดีเท่าเดิม แต่เราก็คาดหวังว่าจะอยู่ได้ในวันต่อไปให้ดีขึ้น ปีต่อไปก็คงดีขึ้นและมันก็ได้ผล ทางผู้จ้างงานทางแฟนคลับก็ยินดีที่อาการป่วยหาย แม้แต่ที่ต่างประเทศยังมาจองคิวงานให้เราไปเล่นคอนเสิร์ต อาจจะด้วยความสงสารและความรักความผูกพัน”

ดีใจขนาดไหนที่กลับมาเกือบจะสวยเป๊ะเหมือนเดิมแล้ว
“หญิงดีใจที่หน้าตาคล้ายเดิมแล้ว แต่อาจจะไม่เต็มร้อย เพราะคุณหมอบอกว่าให้รอเวลาด้วย มันได้เท่านี้ก็ดีแล้ว หญิงร้องเพลงได้เหมือนเดิม เพราะตอนที่ป่วยเสียงหญิงแกว่ง หญิงควบคุมเสียงตัวเองไม่ได้ เหมือนทั้งเนื้อทั้งตัวมันเสียหายแล้วก็เลยควบคุมเสียงไม่ได้ หัวใจเต้นเร็ว ความดันขึ้นสูง พร้อมจะหัวใจวายได้ตลอดเวลาที่เราตกใจ”

ปีนี้ผ่าตัดในส่วนไหนบ้าง
“หญิงผ่าตัดที่ใบหน้าและลำคอ ก่อนหน้านี้ใบหน้าและลำคอจะใหญ่มาก อาจจะไม่ได้รับแขกหรือเพื่อนศิลปินที่จะไปเยี่ยม หญิงไม่สะดวกที่จะเจอใคร ก็อยู่กับตัวเอง แต่จะไม่ซึมเศร้า พยายามทำกิจกรรม เดินบ้าง ไปตลาดบ้าง จนทุกอย่างมันดีขึ้น ได้กำลังใจจากทุกคน เจ้านายก็ให้กำลังใจโทรถามข่าว แฟนเพลงก็ให้กำลังใจตลอด แม้กระทั่งวันผ่าตัด หญิงก็โชว์ว่าผ่าตัดนะ มันเป็นพัฒนาการของการรักษา ถึงหลายคนจะมองว่าหญิงผ่าตัดศัลยกรรมมันก็ใช่ หญิงต้องหาหมอที่เก่ง เพราะกลัวจะโดนเส้นประสาทต่างๆ ทำให้เราปากเบี้ยว การแพทย์ไทยไม่ต้องไปถึงเกาหลีก็ได้”ตอนนี้ยังเหลือส่วนไหนที่ยังไม่เข้าที่
“ก็ยังเหลือคอที่ยังใหญ่อยู่ หญิงจะรอให้หายไปเอง เพราะกลัวการผ่าตัดซ้ำซ้อน หญิงคิดว่ามันโอเคแล้วก็ให้มันอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ หญิงผ่าไป 4 รอบแล้ว ที่คอ 2 รอบ และที่ตรงหน้าที่มันไม่เรียบร้อยเป็นการผ่าตัดเล็กๆ เพื่อความสวยงามในส่วนภายนอก แต่ในส่วนของคอด้านในที่มันแน่นมาก แน่นจนถึงต้องลุกขึ้นมากลางดึก สะดุ้งขึ้นมาหายใจ 2-3 ครั้ง หญิงรู้สึกเสียใจมากว่าทำไมชีวิตเราเป็นแบบนี้ ทำไมไม่มีอะไรตอบโจทย์ที่เราต้องการว่าเราสมบูรณ์แล้ว เรามีเงิน มีชื่อเสียงแล้ว เราควรมีเวลาเที่ยวแล้ว”

“ช่วงเวลาที่หญิงร้องเพลงมากๆ หญิงไม่ได้ไปเที่ยวเลย ตั้งใจว่าจะทำหน้าที่ร้องเพลงให้ดี เก็บเงินสร้างเนื้อสร้างตัว เพื่อเวลาที่เราไม่มีงานจ้าง เวลาที่หญิงลีกระแสเงียบลง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของนักร้องที่จะมีทั้งขาขึ้นและขาลง แต่หญิงเชื่อว่าหญิงจะไม่หายไป เพราะหญิงอาจจะเป็นเหมือนพี่ฮาย อาภาพร แม่บานเย็น รากแก่น พี่นาง ศิริพร อำไพพงษ์ แต่ความฮอตความสดใสอาจจะต้องยอมแพ้วัยรุ่นที่ขึ้นมาใหม่ แต่เราก็มาใช้ความเก๋าในพลังเสียงของเราที่ยังแน่นอน ยังเจ๋งอยู่”

เวลาอยู่บนเวทีมีอุปสรรคอะไรบ้าง นอกจากปวดขาเวลาลุกนั่ง “อุปสรรคหญิงลีตอนนี้ ผมร่วงหมดหัวเลย และมีผมเกิดมาใหม่ เพราะเป็นข้างเคียงจากการรักษา แต่หญิงก็ไม่ซีเรียสถึง แม้ผมเหลือนิดเดียวก็จะใส่ผมวิก แฮร์พีซ”

สภาพจิตใจตอนนี้ไม่ได้เครียดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
“ไม่เครียดค่ะ เพราะหญิงยอมรับทุกอย่างได้ ชะตากรรมมนุษย์เกิดมาก็ดับไป แต่เราจะอยู่ยังไงให้มีความสุข อยู่ยังไงก็ได้ให้สบายใจ เมื่อเราต้องเข้าสังคมก็ต้องอยู่ให้ได้ อยู่กับเขาให้เป็น ยิ้มแย้มแจ่มใส สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองมีความสุขต่อไป และเพื่อให้คนที่รักหญิงมาขอถ่ายรูปกับหญิง ให้เขารู้สึกดีใจว่าหญิงลีไม่หยิ่ง ไม่ท้อ หญิงภูมิใจเวลาได้รับคำชมว่าเราเป็นคนไม่ท้อ”

เพราะได้กำลังใจดีจากแฟนหนุ่มด้วยหรือเปล่า
“ก็เรื่อยๆ ค่ะ”

ล่าสุดที่โพสต์ลงกลับมาแฮปปี้เหมือนเดิมแล้วใช่ไหม
“หญิงไม่กล้าคอนเฟิร์มว่าเราจะแฮปปี้แค่ไหน แต่หญิงจะทำให้ดีที่สุด ในฐานะลูกผู้หญิงคนนึง แล้วแต่บุญวาสนา (น้ำตาคลอ) ตอนนี้ก็ยังคุยกันอยู่ค่ะ”ตอนที่เราป่วยเขาดูแลดีไหม “เขาก็ดูแลทางใจ พูดให้กำลังใจเหมือนทุกคนที่อยู่รอบข้างเรา”

เขาไม่ได้หนีหายไปจากเราในช่วงที่ป่วยใช่ไหม
“ก็ไม่ได้หนีหายไปไหน เพียงแต่สิ่งที่เราอยากได้ยินได้ฟัง คำพูดที่เป็นกำลังใจที่อบอุ่น บางทีเขาก็อาจจะเฉยบ้างตามประสาผู้ชายมั้งคะ หญิงก็ไม่แน่ใจ”

ได้คุยหรือปรับความเข้าใจกันหรือยัง “คุยกันค่ะ กับคนนี้คบมา 4 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่เดือน ต.ค.ปี 56 ตั้งแต่ที่หญิงลีเริ่มดังใหม่ๆ เริ่มมีตังค์ มีงาน ชีวิตสำเร็จ ก็เริ่มอยากมีแฟน อยากคบใครสักคน เราอดทนมาตลอด 30 ปี กว่าจะได้เข้าค่ายเพลงใหญ่ กว่าจะได้ปั้นตัวเองกว่าจะสวยให้สมบูรณ์แบบ ฝึกร้องเพลงได้ดี กว่าครูเพลงจะเลือก”

มันมีจุดเปลี่ยนอะไรในชีวิตรักของเรา “ก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หญิงไม่รู้จะตอบยังไง มันเป็นเรื่องภายในที่เราไม่สามารถพูดได้ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นสาวไส้ให้กากิน ก็ไม่ต้องพูดดีกว่า”

กลับมาครั้งนี้ได้ตกลงทำความเข้าใจอะไรกันบ้าง “กลับมาเขาก็อยากจะปรับตัวเข้าหาหญิง แต่เขาก็ยังอยากจะเป็นตัวตนของเขา หญิงก็ยังเป็นตัวตนของหญิง เราพยายามปรับตัวเข้าหากัน แต่วิเคราะห์ดูแล้วมันก็เหมือนกับน้ำกับน้ำมัน ที่เอามาเขย่าผสมเข้ากัน มันเหมือนจะเข้ากัน แต่อีกสักพักมันก็จะแยก น้ำกับน้ำมันมันเข้ากันไม่ได้”

เหมือนเราทั้งคู่กำลังมีปัญหากันอยู่หรือเปล่า
“หญิงมีปัญหามาปีกว่าแล้วค่ะ แต่มันก็ไม่ได้รุนแรงยังพอคุยกันได้ ก็ถามกันและกันว่า คุณจะเริ่มต้นคบคนอื่นไหม ก็เป็นคำตอบที่ไม่มีใครเอ่ยคำว่าจะคบ มันก็เลยเป็นอะไรที่จะคบไปเรื่อยๆ ไม่มีเป้าหมายอะไรในชีวิต”

สถานการณ์ตอนนี้ยังเป็นแฟนกันอยู่ไหม
“สถานการณ์ตอนนี้ (ร้องเพลง) ทดได้บ่ ทดเวลาบาดเจ็บได้บ่ ก็คือทดเวลาบาดเจ็บค่ะ เป็นช่วงเวลาที่วัดใจกัน ว่าเราจะเอาไงดี”

ตอนนี้เราอยู่เพราะความอดทนหรือ
“ลูกผู้หญิงมันก็รักเนอะ และอดทน อยากจะสร้างชีวิต อยากมีความรักที่อบอุ่น อยากแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแต่ถ้ามันไม่ถึงขั้นนั้นมันก็ไม่ต้องถึง อย่าไปประกาศแต่งงานถ้าเราไม่พร้อม เพราะมันจะเสียหายต่อทุกอย่าง วันหนึ่งทะเลาะแล้วเราเลิกกันมันอายเขา ทุกอย่างมันไม่ใช่ มันต้องแน่นอนกว่านี้”

เราอยากแต่งงานแล้วเขายังไม่พร้อมหรือ
“เขาพร้อมอยู่ แต่เขายังเป็นตัวของตัวเอง แต่เราก็ยังอยากให้เขาปรับ ถามว่าเขาเจ้าชู้ไหม เขาก็เคยเจ้าชู้บ้าง เราก็เคยเจ้าชู้ตามประสาวัยรุ่น ในระหว่างที่คบกันเราก็ไม่แน่ใจ เพราะเราไม่รู้ไม่เห็น”

มีปัญหามา 1 ปีแล้ว จะตัดสินใจเลิกไปเลยไหม
“บางทีหญิงก็อยากจะเจอคนที่หญิงชอบ แต่ทำไมหญิงไม่รู้สึกชอบใคร หญิงไม่รู้สึกอยากจะรัก อยากจะไปสัมพันธไมตรีกับใคร หญิงอาจจะหัวโบราณ”

ตอนนี้ยังโอเคและไหวอยู่
“ตอนนี้เรายังอยู่ในภาวะที่คบกันอยู่ เราก็ต้องให้เกียรติเขาว่าเรารักเขา ตอบสื่อว่าคุณมีตัวตนนะ สังคมก็รอดูแฟนของดาราศิลปิน ปัจจุบันสังคมเปิดรับเพียงแต่ว่าเราจะออกตัวแรงหรือว่าน่ารักน่าเกลียดขนาดไหนก็แล้วแต่ หญิงเชื่อว่าสังคมก็คงไม่ว่าอะไรเพราะหญิงอายุ 34 ปีแล้ว หญิงไม่ได้แคร์ว่าจะต้องสวยอมตะตลอดกาล หญิงแคร์ว่าหญิงจะมีความสุขยังไง ผู้หญิงก็ต้องคิดว่าวัยไหนยังมีลูกได้ 38 จะยังมีลูกได้ไหม”

ทุกวันนี้มีความสุขดีใช่ไหม
“หญิงมีความสุขกับครอบครัว กับที่งานแฟนเพลง แฟนคลับและมีความสุขกับสถานภาพที่หญิงเป็น มีบ้านมีรถ นอนหลับกินอิ่ม ส่วนความสุขกับแฟนมันก็มีอยู่นะคะ ก็ดีกว่าไม่มี”

ที่เปิดตัวแฟนเพราะอยากให้เขาเชื่อมั่นว่าไม่ได้ปิดบัง
“ค่ะ อยากให้เขารู้สึกว่าเขามีตัวตน เขาเป็นคนสำคัญ เขาเป็นคนที่เรารักนี่แหละ เขาเป็นคนนอกวงการอยู่ในวงการเพลง เป็นผู้จัดการผับ สายงานบริหารดูแลวงดนตรี ก็มีความเป็นผู้นำพอสมควร”

ดูเรารักเขามาก
“ทำไมหนูถูกถามแต่เรื่องนี้ ก็รักค่ะ รักมากนั่นแหละเนอะ แต่ถ้าเขาไม่ได้รักหนู ก็ต้องเปิดใจให้ตัวเอง เดี๋ยวจะอายุมากไป”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน