หญิงแย้ นนทพร เปิดใจแต่งงานเงียบ ตำรวจรุ่นน้อง เผยเหตุผลเพิ่งเปิดโฉมหน้า ตอนนี้หวานจัดหนัก ขึ้นแท่นคนอวดผัวไปเรียบร้อย

แต่งงานเงียบกับตำรวจหนุ่มรุ่นน้องไปตั้งแต่ปี 61 สำหรับ หญิงแย้ นนทพร ธีระวัฒนสุข
และตลอดหลายปีที่ผ่านมาแม้จะลงรูปหวาน แต่เธอไม่เคยเปิดโฉมหน้าให้เห็นเลย ทุกครั้งที่ลงรูป ก็จะหาสติ๊กเกอร์มาปิดทับใบหน้า หรือเผยให้เห็นเป็นภาพข้างหลังฝ่ายชายเท่านั้น

แต่ไม่นานมานี้ ก็ได้ฤกษ์งามยามดี เปิดโฉมหน้าสามีครั้งแรกในวันเกิดตัวเอง หลังฝ่ายชายยกเค้กมาเซอร์ไพรส์ ตั้งแต่นั้นมาเธอก็เข้าสู่วงการ ค.อ.ผ. (คนอวดผัว) ทันที

ล่าสุด หญิงแย้ ได้เปิดใจถึงเรื่องราวความรัก กับทาง ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ต้องบอกเลยว่าในขณะที่สัมภาษณ์นั้น เวลาที่เธอพูดถึงสามี หญิงแย้ดูมีความสุขกับรักครั้งนี้มากจริงๆ

 

 

“ชีวิตแฮปปี้มีความสุขดี ตอนนี้ก็กำลังสนุกกับการพาคุณอุ๋ง (คุณแฟน) พานางไปทำศัลยกรรม เป็นลีมินอุ๋ง แย้ก็เพิ่งจะลงรีวิวไป befor-after ทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง กระแสตอบรับก็ดีมาก คนก็รู้สึกตื่นเต้นกับแฟนแย้ เพราะจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็คือแย้ไม่เคยเปิดเผยหน้าแฟนเลย จนกระทั่งพาแฟนไปทำหล่อเสร็จปุ๊บอ่ะเปิดหน้าเฉยเลยจ้า

แต่จริงๆ ไม่ได้มีเจตนาว่าที่ผ่านมาแฟนเราไม่หล่อแต่ไม่เปิด อันนั้นไม่ใช่นะ ที่ผ่านมามันยังไม่มีคอนเทนต์อะไร แล้วทางคุณหมอดูชื่อดังหลายท่านบอกว่าถ้าเกิดเปิดหน้าแฟนโดยสาธารณะหรือว่าแถลงข่าวจัดงานแต่ง คุณจะมีโอกาสที่จะเลิกกับแฟนนะ หรือความสัมพันธ์มันก็จะไม่ตลอดรอดฝั่ง เราก็เลยเชื่อคุณหมอดูแล้วกัน แต่ในเมื่อมีทางคลินิกมาทำให้ฟรี เราก็แบบ..น่าสนใจ ก็เลยมาเปิดหน้าแฟนเพื่อรีวิวจมูก คาง คิ้วใดๆ ต่างๆ”

 

 

ก็คือไม่กลัวแล้วที่หมอดูทัก?
“เอาตรงๆ เรามานั่งคุยกับตัวเองแล้วว่ามันจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เราเลิกกัน คือตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างแย้กับอุ๋งก็คือดีมาก เขารับเราได้ทุกอย่าง ขนาดแต่งตัวโป๊ เป็นบ้าก็รับได้หมด หรือบางทีเราเป็นไบโพลาร์ในช่วงที่ใกล้จะมีประจำเดือนฮอร์โมนพลุ่งพล่าน เขาก็รับได้หมดแล้ว ก็มีความสุขที่ได้อยู่กับเขา

เราก็เลยรู้สึกว่ามันจะมีเหตุผลอะไรอีกล่ะที่ทำให้เราต้องเลิกกับเขา เราก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วเป็นเพราะ ค.อ.ผ. ที่ย่อมาจากคนอวดผัว คือเป็นคนที่มีความ ค.อ.ผ. อยู่ในตัวอยู่แล้ว เวลาไปเจอเพื่อนก็จะหอมแก้มโชว์ ก็คือเป็นคนนิสัยอย่างนี้ ชอบอ้อนแฟน มันก็เลยกลายเป็นว่าพอเราเปิดปุ๊บ เราก็จัดหนักเลย ก็เป็นคอนเทนต์คู่รักกันไป”

ชื่ออุ๋งนี้มาจากอะไร?
“เป็นฉายา เป็นชื่อที่แฟนเรียกกัน เราเรียกอุ๋งจนกระทั่งทุกคนเรียกกันว่าอุ๋งหมดเลย แต่เราก็โอเค ไม่ได้จะเก็บคำว่าอุ๋งไว้ใช้คนเดียว คนอื่นก็เรียกได้ น่ารัก อันนี้ก็คือเข้าข่าย ค.ล.ผ คนหลงผัวด้วย แหมไม่ดีเลย แค่พูดถึงก็ระริกระรี้แล้ว ห่างกันแป๊บเดียว สัมภาษณ์ไม่ถึงชั่วโมงก็คิดถึงแล้วเนี่ย (ยิ้ม)”

คือถ้าใครได้ติดตามจะรู้ว่าเข้ากันได้ดีมากคนนี้?
“เคมีตรงกัน คิดอะไรคล้ายกัน อาจจะด้วยความที่อยู่ด้วยกันมานาน คือจริงๆ ตอนแรกอ่ะ คนละขั้วเลยพออยู่กันไปอยู่กันมาปุ๊บ มันก็ปรับจูนเข้าหากันโดยที่เขาอาจจะจูนเข้าหาเรามากกว่านะ ก็เลยทำคอนเทนต์ด้วยกันสนุกสนาน เขาก็ช่วยคิดคอนเทนต์ ช่วยงานเราบ้างถ้ามีเวลา”

ย้อนไปตอนที่เรามีข่าวว่าเราแต่งงานกัน หลายคนก็คือว้าวเลย เพราะอุบเงียบ มาเปิดอีกที ก็คือแต่งเลย เราไปรู้จักกันหรือศึกษากันนานขนาดไหน?
“ก็ประมาณปีนึง แล้วมันเป็นความรู้สึกที่แบบไม่อาจต้านทาน เข้าใจป่ะ (ยิ้ม) คือเราอ่ะคิดว่าเราไม่เหมาะกับเขาหรอก เขาก็คงไม่เหมาะกับเราหรอก มันไม่มีทางเป็นไปได้

คือตลอดเวลาที่ช่วงโสดแน่นอนว่าคนโสดก็จะคุยกับผู้ชายคนนี้คนนั้น ซึ่งในขณะที่เรากำลังเอ็นจอยคุยกับผู้ชายคนนั้นคนนี้อยู่อ่ะ ซักพักนึงเวลาที่เราอยู่คนเดียวคนที่เราคิดถึงก็คือคุณอุ๋ง แล้วเราก็มีความรู้สึกแบบนั้นมาตลอด จนกระทั่งมันมีวันนึงที่ทำให้เรารู้สึกว่าเขานี่แหละคือคนที่ใช่

เหมือนเราอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งสุดท้ายเราอยู่กับอุ๋งแล้วเราสบายใจสุด เหมือนมันเป็นความสุขทางใจเราก็เลยเลือกผู้ชายคนนี้เลย จับรวบหัวรวบหางรวบตึงเลย ปกติตำรวจต้องรวบประชาชน อันนี้ประชาชนรอบตำรวจค่ะ”

 

 

กี่ปีแล้วจากวันนั้นมาถึงวันนี้?
“ประมาณ 3-4 ปี ไม่ได้นับจริงจังว่าคบกันเมื่อไหร่ยังไง เพราะตอนแรกก็เจอกันในฐานะเขามาช่วยงานเรา”

เราคิดว่าจะมีสมาชิกเพิ่มไหม?

“มีแมวตัวเดียวก็ปวดหัวแล้วค่ะ แต่จริงๆ แย้ก็มีความคิดว่าอยากจะมีลูกขึ้นมานะ แต่ก็คุยกับแฟนแล้วนะว่า เออผลิตลูกกันไหม แต่คุณอุ๋งบอกว่าไม่อยากให้ลูกโตมาแล้วเจอกับโควิด ต้องเรียนออนไลน์ ออกนอกบ้านไม่ได้ เจ็บไข้ได้ป่วยไปรักษาต่างๆ ก็ยาก เราก็เข้าใจเขาแหละ

แล้วเราก็นึกถึงตัวเองด้วย เราอายุ 34-35 แล้ว ถ้าไม่มีตอนนี้จะไปมีตอนไหนก็มีความคิดอย่างนั้นบ้าง แต่พอมานึกดูแล้วก็คิดว่าชาตินี้คงไม่มีหรอก จริงๆ ทุกวันนี้คนไม่มีลูกเยอะนะ ก็อยู่ดูแลกันไปเรื่อยๆ ประมาณนั้น แต่แย้โชคดีที่มีหลาน 3 คน ถึงจะแทนกันไม่ได้แต่ในเรื่องของความรู้สึกมันก็โอเคอยู่”

 

 

“มีเรื่องที่จะอัพเดตอีกก็คือพอแย้เห็นอุ๋งทำจมูก ทำคาง ออกมาสวยก็จะไปโมใหม่ไปทำจมูกตามอุ๋ง เพราะจมูกอันนี้ก็ทำมาประมาณ 8-9 ปีแล้ว แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้มีปัญหานะก็สวยเข้ากับหน้าดี แต่จริงๆ แล้วปัจจุบันเนี่ยมันต้องโด่งกว่านี้อ่ะ ก็อยากจะสวยเป็นโค้งสุดท้ายของวัยสาวตอนปลาย ก็เลยจะไปแก้จมูกแล้วก็จะทำคางด้วย คือเรื่องจมูกจะทำ 20 ตุลาคมนี้แล้วเตรียมเป็นดาราหน้าใหม่”

นอกจากนี้มีแพลนจะทำอะไรอีกไหมในร่างกาย?
“ให้ทำอะไรอีกรึ มีอะไรให้ทำอีกรึ คือไม่เหลืออะไรแล้วนะ (แล้วอุ๋งล่ะ?) อุ๋งเหรอ แค่นี้ก็แน่นแล้วนะ คือทำตาอีกก็คือทั้งหน้าแล้วนะ แต่ตาของอุ๋งอ่ะเขาแก้ยาก เพราะว่าเขาเป็นคนชั้นตาหนา พอชั้นตาหนามันก็จะเย็บให้มันเล็กลง คืออาจจะต้องไปทำที่เกาหลี เพราะที่ไทยมองดูแล้วยังไม่มีที่ไหนประสบการณ์ชั่วโมงบินสูงก็เลยยังไม่กล้าให้ทำที่นี่

แต่อาจจะมีปลูกผม แต่ด้วยความที่เป็นตำรวจพอปลูกเสร็จปุ๊บก็อาจจะต้องเกรียนอีกอยู่ดี ก็เลยคิดว่าจะทำดีไหมเนี่ย หรือจะพาไปสักหัวดี สักไรผมให้ผมมันดูเหมือนเข้าบาร์เบอร์ดีๆ คือมีแพลนสวยหล่อกันแบบไม่หยุดยั้งค่ะ

สำหรับคอนเทนต์ใน IG Facebook หรือ YouTube ยังคงสนุกสนานเหมือนเดิมแม้จะเรียนด็อกเตอร์ก็ไม่ได้ใส่ความเป็นด็อกเตอร์เข้าไป แต่ไม่แน่ ถ้าเรียนเริ่มมีความรู้เยอะๆ แล้วอาจจะใส่สาระดีๆ เข้าไปในคอนเทนต์เรามากขึ้น เพราะว่าคนที่ติดตามแย้ก็จะเป็นคนที่วัยเดียวกับแย้ เขาก็น่าจะสนใจคอนเทนต์ที่มีสาระความรู้มากยิ่งขึ้น เมื่อก่อนเน้นบันเทิงประมาณ 80% เลย สาระแค่ 20% แต่อนาคตอาจจะเพิ่มสัดส่วน ของสาระคอนเทนต์ดีๆ ต่างๆ มากขึ้นค่ะ”

 

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน