จำกันได้ไหม? ไข่ตุ้ม ทองเนื้อเก้า ภาพคนใช้แค่ในจอ ตัวจริงแซ่บไฟลุก เผยที่มาความมั่น-เคารพร่างกายตัวเอง พร้อมแจงสถานะหัวใจ

แจ้งเกิดจากบทคนใช้ ไข่ตุ้ม หรือ ละม่อม จากละครทองเนื้อเก้า จนกลายเป็นภาพจำของแฟนละครไปแล้ว แต่ชีวิตจริงของดาราสาว มิน รตวรรณ ออมไธสง บอกเลยว่าแซ่บไฟลุกชนิดที่ต้องขยี้ตารัวเลยทีเดียว ทั้งนี้ สาวมิน ได้เปิดใจกับทาง “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงที่มาของความแซ่บที่เห็นกันผ่านทางไอจีส่วนตัว รวมถึงแง่คิดดีๆ ในการสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง พร้อมแจงสถานะหัวใจและสเป๊กหนุ่มที่ชื่นชอบ

ย้อนเล่าบทบาท “ไข่ตุ้ม” ที่แจ้งเกิด? “มินมีโอกาสได้เล่นละครเรื่องทองเนื้อเก้า เพราะว่ารุ่นพี่ของมินที่มหาวิทยาลัยเขาให้มินไปแคสต์บท ซึ่งจริงๆ แล้วเขาจะเล่นเอง แต่ว่าเขาดัดฟันก็เลยบอกว่าให้ลองไปแคสต์เพราะเราดูบ้านๆ มินก็เลยบอกว่าโอเคๆ ไปแคสต์ดู แล้วก็ได้เล่น”

“ตอนนั้นคืออยากเล่นมากเพราะว่าพี่นุ่น(วรนุช)ได้ย้ายมาช่อง3 ครั้งแรก แล้วก็ดูลำยองมาตั้งแต่เด็ก ประจวบเหมาะกับละครออนแอร์แล้วมันดังขึ้นมาเลย อยู่ดีๆ บทนี้คนก็ติดตามว่าใครจะมาช่วยน้องวันเฉลิม มินก็เลยเหมือนได้อานิสงส์ คนก็เลยรู้จักพอดี กลายเป็นคนเรียกชื่อติดหูเลยว่า “ไข่ตุ้ม ไข่ตุ้ม” ตอนนั้นไม่มีใครรู้เลยว่ามินชื่อมิน ทุกคนก็จะเรียกว่าไข่ตุ้ม”

วงการคนใช้เข้าแล้วออกยาก? “จริงๆ ทองเนื้อเก้าเป็นละครเรื่องที่ 10 ของมินแล้ว มินเล่นละครมาตั้งแต่อายุ 20 ตอนเข้ามหาวิทยาลัยมินเรียนคณะศิลปกรรม เอกการแสดงและกำกับการแสดงที่ มศว. เลยมีรุ่นพี่ที่อยู่ในวงการอยู่แล้ว เขาก็จะชวนเราไปแคสต์เล่นโน่นเล่นนี่ ซึ่งทั้ง 9 เรื่องที่ผ่านมาก่อนหน้าก็เล่นเป็นคนใช้มาตลอด”

“คำว่าวงการคนใช้เข้าแล้วออกยาก มินว่าก็จริงนะ แต่ถ้าอยากออกก็ออกได้ แต่ก็ไม่รู้จะออกไปทำไมไง(หัวเราะ) มินรู้สึกว่าบทนี้พอใครคิดถึงคนใช้ก็ต้องคิดถึงมินอ่ะ มันก็เป็นงานอย่างหนึ่งที่เราทำแล้วเราก็แฮปปี้ด้วย เลยรู้สึกว่ามันไม่ได้มีความจำเป็นจะต้องออก”

“แต่สำหรับบางคนเขาอาจจะมีความรู้สึกว่าโอ๋ย…เล่นเป็นคนใช้อ่ะ แบบมันดูไม่สวยอ่ะ อยากเล่นเป็นบทอื่นที่พัฒนาขึ้น แต่สำหรับมินไม่ได้คิดว่าคนใช้เป็นบทที่แย่เลย เพราะแต่ละเรื่องก็ไม่ได้เหมือนกัน บางเรื่องบางทีฉันเด่นกว่านางเอกก็มี”

ในจอเป็นคนใช้บ้านๆ แต่นอกจออย่างแซ่บ? “ตอนแรกๆ มินก็เป็นเด็กบ้านนอกทั่วไปนี่แหละค่ะ แต่มันก็ค่อยๆ ปรับขึ้น พอเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ แล้วเราเข้ามาอยู่ในคณะที่ส่วนใหญ่มีแต่ดาราด้วย เราก็เห็นรุ่นพี่แต่งตัว เราก็มีการดูแลตัวเองมากขึ้น แต่ตอนนั้นมินยังไม่ได้เป็นคนมีความมั่นใจแบบนี้นะคะ เรื่องความมั่นใจหรือความสวยที่ทุกคนรู้สึกตอนนี้มันค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ”

“แต่ก่อนมินก็อยู่ในสังคมที่เขาพูดว่าเป็นคนขาวสิคนผอมสิถึงจะเรียกว่าเป็นคนสวย ตอนเด็กๆ มินก็คิดอย่างนั้น ต้องหน้าเล็กๆ หน้ารูปไข่ถึงจะเป็นคนสวย แต่เราไม่เคยมีความคิดเลยว่าฉันอยากเป็นแบบนั้น ไม่เคยมีความรู้สึกว่าอยากจะทำศัลยกรรมเลยในชีวิต บวกกับคนรอบข้างไม่เคยมีใครมาบูลลี่ว่าแกไม่สวย แกหน้าใหญ่ เพราะทุกคนเขายอมรับในความสามารถของเรามากกว่า”

จุดเปลี่ยนสำคัญ? “จนกระทั่งมินได้มาเจอสังคมที่เรียกว่าสายฝอ สายฝอส่วนใหญ่ที่คนไทยใช้กันเหมือนว่าเกี่ยวกับเรื่องแฟนอย่างเดียวใช่ไหมคะ แต่จริงๆ ก็ไม่เชิงซะทีเดียว มินได้มีโอกาสบินไปหาเพื่อนและไปเที่ยว ไปเจอสังคมที่เป็นทางนั้น แล้วเขาไม่เคยพูดถึงเราในแง่ที่ไม่ดี บวกกับมินเจอแฟนด้วย เลยทำให้เราเห็นว่าฝรั่งเขาใส่ชุดว่ายน้ำเล่นน้ำ เขาเลยเรียกว่าชุดว่ายน้ำไง มินก็เลยใส่ชุดว่ายน้ำเล่นน้ำบ้าง”

“ตอนแรกเราก็ไม่มั่นใจที่จะใส่เพราะรู้สึกว่ามันโป๊ ไม่ได้เกี่ยวกับรูปร่างนะคะ แต่ไม่มั่นใจเพราะว่ามันโป๊ ทีนี้แฟนเก่ามินเขาก็เลยพูดว่าจริงๆ มันไม่ได้โป๊ ถ้าเราใส่แล้วรู้สึกว่ามันสวยและมั่นใจก็ใส่ อีกอย่างพ่อแม่ต้องภูมิใจนะที่ลูกสวย คือเขาก็มีวิธีการพูดให้เรารู้สึกว่ามันไม่ได้โป๊นะ เราใส่ถูกกาลเทศะ คือทัศนคติทุกอย่างมันค่อยๆ เปลี่ยน แล้วมันก็ถึงเกิดความมั่นใจขึ้นมาทีหลัง”

ฟีดแบ็ก? “มินไม่เคยถูกบูลลี่ในวงการเลย ครั้งแรกที่เป็นข่าวขึ้นมาทุกคนเขียนข่าวมินดีมาก แล้วพอยิ่งมาใส่ชุดว่ายน้ำมินก็นึกว่าตัวเองจะถูกบูลลี่ใช่ไหมคะ แต่เปล่าเลย เขากลับเขียนข่าวมินว่า…รู้ไหมว่าไข่ตุ้มในละครเป็นคนใช้ แต่นอกจอเขาเซ็กซี่มากเลย เขียนข่าวให้มินดูเป็นในแนวทางที่ดี ซึ่งพอมีข่าวออกมาแบบนี้มินกลับเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนมากกว่าด้วยซ้ำ”

“เอาจริงๆ มินก็ไปอ่านฟีดแบ็กว่าเขาพูดถึงเรายังไงกับการที่เราใส่ชุดว่ายน้ำแบบนี้ คนรับได้ไหม กลับกลายเป็นเขาบอกว่าสวยน่ารัก ดูแลตัวเอง มินก็เลยรู้สึกว่ารูปชุดว่ายน้ำที่ฉันลงไปมันไม่ได้สื่อไปในทางที่มันไม่ดีนะ”

เซ็กซี่ขึ้นเรื่อยๆ? “จากที่ใส่ชุดว่ายน้ำตอนแรกอาจจะไม่ได้เซ็กซี่มาก เป็นชุดว่ายน้ำแบบชุดว่ายน้ำ แต่พอสักพักเราเริ่มมั่นใจไง เราก็จะใส่ชุดว่ายน้ำแบบเซ็กซี่ แน่นอนว่ามีคนมองอยู่แล้ว สมมติเราใส่เดินที่ทะเลมันก็จะมีสายตาคนที่เขามองว่าแบบหูย…ก็ไม่ได้หุ่นดีนะหนู ทำไมหนูกล้าอะไรอย่างเนี้ย”

“มันมีสายตาแต่เขาอาจจะไม่ได้เดินมาพูด แต่เราก็ไม่มองอ่ะค่ะ ช่างเขา มันเป็นเรื่องของเขาที่เขาจะรับไม่ได้ แต่พอหลังๆ มินดูแลตัวเองมากขึ้น ออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดี หุ่นมินก็กลายเป็นหุ่นที่สุขภาพดีไป คือเราไม่ได้คิดว่าอยากผอม แค่รู้สึกว่าอยากใส่ชุดว่ายน้ำแล้วดูสวยขึ้น ไม่ปลิ้นหรือเผละออกมา แต่เราไม่ได้คิดจากคนรอบข้างนะคะ มินคิดจากตัวเอง”

เคารพร่างกายตัวเอง? “อย่างที่บอกว่ามินโชคดีที่คนรอบข้างไม่เคยพูดอะไรไม่ดีด้วย เลยทำให้เรารู้สึกว่าไม่ได้มีปมด้อย อันนี้ก็ต้องบอกว่าคนรอบข้างก็สำคัญที่จะสร้างความมั่นใจให้กับอีกคนหนึ่ง เราไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างบรรทัดฐานที่บอกว่าการไม่สวยคืออะไรให้กับคนอื่น เพราะว่าทุกคนมีความสวยเป็นของตัวเอง”

“เราต้องเห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เป็นเรื่องที่แปลก เช่นมีรอยแตกที่ข้างขา หรือรักแร้ดำ มินเคยโดนบูลลี่เรื่องรักแร้ดำ แต่มินก็บอกว่าตัวมินดำขนาดนี้รักแร้มินจะขาวได้ยังไง เราคิดจากหลักความเป็นจริงเลยว่า เธอ…รักแร้ฉันต้องดำอยู่แล้วเพราะว่าฉันตัวดำ ถ้ารักแร้ฉันขาวนั่นแหละแปลก(หัวเราะ)”

อัพเดตหัวใจ? “ไม่เชิงว่ามีใครจับจอง คือมินมีเพื่อนคุย อันนี้ไม่ได้ตอบแบบสวยเลยนะ เพราะว่ามันยังไม่ได้คบกันไง มีคนคุยนั่นแหละ เราก็เปิดโอกาสคุยไปค่ะ สรุปคือยังไม่มีแฟนค่ะ แต่ก็มีเพื่อน(หัวเราะ)”

“ส่วนสเป๊กที่ชอบ ถ้าคุยในเชิงพัฒนามินชอบคนต่างชาติ แต่ต้องบอกก่อนว่าเพิ่งมาชอบคนต่างชาติเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้วเอง ก่อนหน้านั้นมินก็ชอบคนไทยมาตลอดนั่นแหละ แต่พอได้เจอคนต่างชาติแล้วได้เห็นทัศนคติอะไรต่างๆ ก็รู้สึกว่ามันคลิกกับตัวเรามากกว่า”

เคลียร์เลิกแฟนเก่าแล้ว? “ใช่ค่ะ แต่ยังมีข่าวกับเขาอยู่เลย อย่างที่บอกว่าเลิกกันแล้วก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่มินสงสารเขาที่เขาต้องมีข่าวกับมินไปเรื่อยๆ ถ้าเกิดเขามีผู้หญิงใหม่ที่พออ่านข่าวออก ผู้หญิงก็จะคิดว่าเขาเป็นแฟนหนูไง หนูเลยอยากออกมาแก้ข่าวให้เขาว่าไม่ใช่! เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจริงๆ ถ้าเกิดว่าเขาเจอคนใหม่อยากให้รู้ว่าเราจบกันแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน