‘ยุ้ย-ธันน์’มาถูกทาง ไลฟ์สดขายของสุดปัง! – หันมาเอาดีในการเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไปแล้ว สำหรับนักแสดงสาวเจ้าบทบาท ‘ยุ้ย’ จีรนันท์ มะโนแจ่ม กับ นักแสดงหนุ่ม ‘ธันน์ ธนากร’ สามี ที่หันมาเปิดเพจ “ซุปตาร์ออนไลน์ by ยุ้ย จีรนันท์” ไลฟ์สดขายของ งานนี้เรียกว่าได้ผลตอบรับสุดปัง ไม่กี่ชั่วโมงยอดทะลัก 3 ล้านบาท

วันนี้เลยขอสายตรงหาทั้งคู่ เพื่อพูดคุยถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจออนไลน์ไลฟ์สดขายของนี้

ไปยังไงมายังไงถึงมาจับไลฟ์สดขายของออนไลน์จนปัง?

ยุ้ย – “เริ่มจากจะช่วยพี่คนนึงที่ผลิตแบรนด์กระเป๋า แต่ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้ก็ไม่รู้จะช่วยวิธีไหน ในเฟซบุ๊กยุ้ยมีเพื่อนค่อนข้างเยอะและเห็นว่าธุรกิจออนไลน์ตอนนี้มันปัง ก็บอกพี่เขาว่าเดี๋ยวไลฟ์สดขายให้ มีกระเป๋าอยู่กี่ใบขนมาบ้านยุ้ย เขาก็เอามา 60 ใบเต็มรถตู้เลย เราเปิดกล้องไลฟ์สดด้วยเฟซบุ๊กส่วนตัว ปรากฏกระเป๋า 60 ใบสามารถขายได้ในเวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง อันนี้คือจุดเริ่มต้น ไม่คิดว่าจะขายง่าย”

“ขายเสร็จก็มานั่งประชุม เรารู้ทางรอดแล้วว่าจะช่วยเขายังไง แล้วจะต่อยอดธุรกิจตรงนี้อย่างไร ก็เริ่มจากยุ้ยมาทำแบรนด์กระเป๋าตัวเองเป็นชื่อยุ้ย เพราะคนจะได้รู้จัก ก็ให้พี่สาวคนนี้ช่วยดู แต่ถ้าให้ยุ้ยยืนพูดคนเดียว 1-2 ชั่วโมงคงไม่ไหว ก็เลยไปดึงพี่ต่าย ชัชฎาภรณ์ และ เอี๊ยม วรรษพร มาช่วย ก็เลยเกิดเป็นเพจ Cy.Chiranan เป็นแบรนด์กระเป๋า Cy.Chiranan เกิดขึ้นตรงนั้น”

“ส่วนเพจ ซุปตาร์ออนไลน์ by ยุ้ย จีรนันท์ เป็นของยุ้ยกับธันน์ มันต่อยอดมาจากตรงนั้น ซึ่งเรารู้แล้วว่าธุรกิจออนไลน์มันดีมากกับยุคนี้และกับเรา ซึ่งมันก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว”

ธันน์ – “เพจเราเริ่มได้ประมาณ 7 เดือนแต่ถือว่าโอเคมากๆ เพจซุปตาร์ออนไลน์เกิดขึ้นจากร้านอาหารของยุ้ยที่สระบุรีต้องปิดไป ปิดเพราะโควิดรอบ 3 และลูกน้องเราเยอะ และญาติพี่น้องเราก็เยอะ เลยคิดที่จะเปิดเพจขึ้นมาใหม่ อันนี้จะเป็นของครอบครัวที่เราสองคนจะต้องมาขายกันเองเพื่อเลี้ยงครอบครัว ของขายดีมาก”

ยุ้ย – “เพจนี้ค่อนข้างโชคดีที่มีของหลากหลาย อย่างเพจ Cy.Chiranan แค่กระเป๋า แต่พอมาเป็นซุปตาร์ออนไลน์มีทุกอย่างที่เราพยายาม เอามานำเสนอได้”

ธันน์ – “จะมีสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป มีของกินของใช้ ของแฟชั่น หลากหลาย ที่สำคัญซุปตาร์ออนไลน์เหมือนเป็นทางรอดของเพื่อนๆ พวกเราด้วย อย่างที่ ผ่านมาเพื่อนๆ นอกวงการก็มี ในวงการก็มี เขาตกงานกันเยอะ ด้วยทุกอย่างโดนล็อกดาวน์ร้านถูกปิด ขายนู่นนี่ไม่ได้มันก็เหมือนได้ช่วยกันไป”

ยอดขายสูงสุดทำได้ถึง 3 ล้าน?

ยุ้ย – “ไลฟ์ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ของมันหลากหลาย ไม่ใช่ของเราคนเดียว จะมีของกินจากที่นี่ที่นั่น มันเป็นยอดขายต่อวัน จะเป็นประมาณนี้ แต่ก็จะขายหลายอย่าง บางวันก็จะมี พี่อานัส (ฬาพานิช) มีมิกค์ ทองระย้า, บูม กิตตน์ก้อง, น้องอ๊อฟ ชนะพล ฯลฯ ก็จะหมุนเวียนกันมา”

ธันน์ – “อย่างพวกของกินของใช้บางร้านจะส่งมาให้เราด้วยเศรษฐกิจและอะไรหลายๆ อย่าง พวกเราชิมแล้วรู้สึกอร่อยก็นำมาขาย คือทุกอย่างจะผ่านการคัดกรองของเราสองคน ไม่ใช่คิดจะขายอะไรก็ขายได้ เราอยากให้ลูกค้าได้ของไปแล้วมีความสุข ได้ของที่ดีมีคุณภาพและอร่อยจริงๆ”

เพจเราเกิดไวมาก ลูกค้าเยอะมากด้วย?

ยุ้ย – “ด้วยความที่เพจเรามันครึกครื้นตรงที่ไม่ได้มีแค่ยุ้ย กับธันน์ ยังมีเพื่อนในวงการ คนก็เลยรอดู แล้วก็ชื่นชอบ กลุ่มพวกเรา”

ธันน์ – “วันแรกผมยังงงเลย ตอนมาไลฟ์กันสองคนไม่รู้จะไปยังไง ผมเป็นใบ้เลย งงมากกับการพูดใส่กล้องแล้วก็พูดกับคนดู ผมไม่พูด ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องแบบนี้ แต่เห็นภรรยาทำ ถ้าเราจะไม่ทำก็ไม่ได้ ต้องทำเดี๋ยวเงินไม่ออก”

เรียกว่าโควิดรอบนี้กระทบหนักมาก?

ธันน์ – “ใช่ครับ ทุกๆ คนเลย อย่างเกษตรกรบางคนเขาบอกเขาขายไม่ได้เลย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวปิด อย่างเช่นเพชรบูรณ์มะขามหวานที่เพชรบูรณ์ขายไม่ได้ เขาก็ขอบคุณเราที่เราทำให้เขาได้ระบายของ”

ยุ้ย – “คือทุกคนเลย เขาขอบคุณ พอเราได้เอามาระบายของในเพจของเราคนก็ได้กินของอร่อยด้วย เพราะเราได้เลือกมาแล้ว ที่สำคัญเราก็ได้ช่วยชาวบ้าน ช่วยคนที่เขาทำของให้เราด้วย ต้องขอบคุณลูกค้าทุกคนที่ช่วยกันสนับสนุน”

ธันน์ – “คนที่เข้ามาซื้อของในเพจเรา อย่างหนึ่งคือมีชื่อเราเป็นตัวรับประกัน การค้าขายอย่างแรกคือต้องซื่อสัตย์และมีน้ำใจต่อลูกค้าด้วย เพราะเขาก็มีน้ำใจกับเรา เราก็อยากให้เขาได้ของที่ดีและมี ความสุขในการได้ของกลับไป”

เรียกว่าตอนนี้ขายของคืออาชีพหลัก?

ยุ้ย – “ใช่ค่ะ เราสองคนรับละครแค่อาทิตย์ละ 3 วัน อีก 4 วันขออยู่ตรงนี้ เพราะรายได้กลับมามันชัดเจนมาก แล้วตรงที่ไลฟ์ก็คือหน้าห้องนอนเรา แต่งตัวเสร็จก็ออกมานั่งทำงาน เหมือนงานอยู่หน้าห้องนอน ทีมแอดมิน คนแพ็กของต่างๆ ก็คือลูกหลานยุ้ยทั้งนั้น ทำให้เรามีความสุขมากๆ ที่ได้ทำตรงนี้ ครอบครัวยุ้ยทุกคนมีรายได้กันหมด มีอาชีพหมด ไม่อย่างนั้นคงต้องตกงานแน่ๆ เพราะร้านอาหารปิด”

มีแบบเพื่อนๆ จะมาขอคำแนะนำบ้างไหมในเรื่องการเปิดเพจ?

ยุ้ย – “มีค่ะ เราเข้าไปช่วยอยู่เรื่อยๆ หรือของมิกค์ ทองระย้า ที่กำลังจะเปิดเราก็จะช่วย มันต้องจับมือร่วมกัน เราจะคิดว่าเราขายของเองอย่างเดียวก็ได้สบายแล้วไม่ต้องไปช่วยคนอื่นหรอก ไม่ได้คิดแบบนั้น เราอยากช่วยทุกคนพี่ๆ รอบข้างเราให้ดีที่สุด ถึงยุ้ยไม่ได้ไปร่วมไลฟ์ก็จะเอามาช่วยแชร์ให้ในเพจตลอด”

ดาราก็หนักเหมือนกันรอบนี้?

ธันน์ – “หนักทุกวงการครับ งานก็ไม่ได้ทำ ไม่มีค่าครองชีพ เงินเดือนต้องจ่ายทุกเดือน ปัจจัยชีวิตของแต่ละคน ทุกคนต้องใช้เงินทุกวัน ค่าบ้านค่ารถของแต่ละคน เพราะทุกอย่างมันหยุดชะงักมาเป็นปี”

แบบนี้เรื่องทายาทก็ต้องเบรกไว้ก่อน?

ยุ้ย – “ที่ยังมีไม่ได้ เพราะยุ้ยติดละครอีก 2 เรื่อง คือถ้าไม่ติดโควิด ทุกอย่างจะจบไปหมดแล้ว จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ทีนี้มันเลื่อนไปหมด แล้วก็ไม่รู้อีกว่าสถานการณ์ ต่อไปข้างหน้าจะเป็นยังไง ไม่กล้าวางแผนอะไรเลยตอนนี้”

ธันน์ – “ตอนนี้ก็ทำเท่าที่ทำได้ไปก่อน หลายคนถามว่าเป็นดารามาขายของทำไม คือเราไม่ได้เกี่ยงอาชีพ มันเป็นอีกอาชีพนึงที่สุจริต และอีกอย่างอาชีพนี้ทำให้เราได้ช่วยคนอื่นด้วย ช่วยเกษตรกร ช่วยคนรอบข้าง ทุกอย่างมันจะเป็นลูกโซ่”

แต่ธันน์น่าจะแฮปปี้ที่สุดเพราะมีเงินเดือนแล้ว?

ธันน์ – “ใช่ครับ เพิ่งเคยมีเงินเดือนครั้งแรกในชีวิตก็ช่วง 6-7 เดือนที่ผ่านมานี้ล่ะครับ (หัวเราะ) ยุ้ยเขาอยากให้ผมมีเงินเก็บส่วนตัวบ้าง เผื่อไปใช้อะไรที่อยากใช้ เมื่อก่อนจะเอาอะไรก็ขอเขา จริงๆ ผมเป็นคนใช้เงินน้อยมาก สมัยก่อนยุ้ยจะให้อาทิตย์นึง 2-5 พัน ให้เติมน้ำมัน ผมก็บอกเอาแค่นิดเดียว”

ยุ้ย – “คือถ้าให้ 5,000 บาท คืนกลับมาให้เราแน่ๆ 3 พัน เขาเอาติดกระเป๋าไว้ 2,000 บาท เป็นคนไม่ค่อยพกเงินแล้วก็ไม่ค่อยใช้เงิน มีอะไรจะให้ยุ้ยเก็บหมด คือเราก็อยากให้มันเป็นสัดส่วน อะไรที่เป็นชีวิตส่วนตัวของเขาอยากซื้ออะไรของเขาก็เอาไปเลย มันเป็นส่วนตัวของเขา ตัวเราเองก็มีส่วนตัวด้วยเหมือนกัน จะได้เป็นส่วนของใครของมันไปเลย”

อนงค์ จันทร

++++

หมายเหตุ : ข่าวนี้เผยแพร่ครั้งแรก วันที่ 20 ต.ค. 2564

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน