แพร เอมเมอรี่ นักแสดงสาว ย้อนเล่าเหตุการณ์ปมวัยเด็กเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพิ่งเข้าใจในตอนโต ลั่นอย่าเอาบรรทัดฐานของตัวเองไปเทียบกับเด็ก

จากรณีที่ “หนึ่ง จักรวาล” นักดนตรี โปรดิวเซอร์ดนตรี และผู้กำกับดนตรีชื่อดัง ลงคลิปวิดีโอที่กำลังหยอกล้อและหมั่นเขี้ยวกับลูกสาว จนถูกกระแสดราม่าเดือดถล่มยับถึงความไม่เหมาะสม ในขณะที่โลกโซเชียลหันมาพูดถึงประเด็น sexual harassment หรือ ล่วงละเมิดทางเพศ ที่เกิดขึ้นกับเด็ก

ล่าสุด แพร เอมเมอรี่ นักแสดงลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ที่เคยมีผลงานแสดงทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 มาหลายเรื่อง รวมถึงเคยเป็นอดีตสมาชิกเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง “บับเบิ้ลเกิร์ล” หรือที่รู้จักใน “แพร บับเบิ้ลเกิร์ล” ออกมาเล่าแชร์เหตุการณ์ในอดีตในวัยเด็ก ที่ตอนเธอเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่เพิ่งเข้าใจในตอนโต

โดย แพร เอมเมอรี่ เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวว่า ร่างกายนี้เป็นของเรา และเราก็มีสิทธิ์ทุกอย่างกับร่างกายนี้ เรามีสิทธิ์ที่จะบอกว่า มันโอเค หรือไม่โอเค ถ้ามีใครมาก้าวก่าย หรือมายุ่งกับร่างกายของเรา ไม่ว่าจะมาจากความหวังดีหรือไม่ เราก็มีสิทธิ์ที่จะบอกว่ามันไม่โอเค และเราไม่จำเป็นจะที่จะต้องอธิบายเหตุผลด้วยซ้ำว่าทำไมมันไม่โอเค ถ้าเรารู้สึกไม่ดี

แต่กว่าที่แพรจะคิดได้แบบนี้ คือตอนที่โตแล้วนะ เพราะ ตอนเด็กแพรเคยเป็นเด็กคนหนึ่งที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ที่เพิ่งเข้าใจว่ามันคือ sexual harassment ในตอนโต

แพรเคยเป็นเด็กคนนึงที่ตื่นเต้นเวลารถไอติมผ่านมาหน้าบ้าน แพรจะวิ่งออกไปซื้อไอติมทุกครั้งที่มีรถผ่าน และด้วยความที่เราเป็นเด็กตัวเล็กๆ ไม่เกิน 10 ขวบ เราได้แต่กระโดดกับปีนตู้ไอติมเพื่อก้มลงไปเลือก

วันนั้นแพรจำได้แค่ว่า คนขายไอติมบอกว่าจะช่วยอุ้มให้เลือกไอติม แต่แพรจำไม่ได้ว่า เขาใช้การอุ้มวิธีไหนที่ทำให้แพรรู้สึกเจ็บ เราจำได้ว่าวันนั้นเราใส่กระโปรง เขาอุ้มเราอยู่สักพัก แล้วก็วางเราลง แพรจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าวันนั้นได้กินไอติมไหม จำได้แค่ว่าเจ็บ และไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไร และไม่เคยพูดหรือบอกใคร

หลังจากนั้น แพรไม่เคยวิ่งออกไปซื้อไอติมอีก และโตมาเป็นคนที่ไม่ชอบใส่กระโปรง ไม่ชอบถ้ามีใครมาถูกตัวโดยที่เราไม่รู้ตัว และมีความกลัวและระแวงถ้าเจอผู้ชายแปลกหน้า ถึงแม้วันนี้จะโตแล้ว และเข้าใจว่า เหตุการณ์บางอย่างในวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับวันนั้น แต่มันก็เป็นความรู้สึกแบบอัตโนมัติที่เกิดขึ้นเอง

ที่พูดมาทั้งหมด เพราะจากเหตุการณ์ที่เจอนี้ทำให้รู้แจ้งจากใจตัวเองเลยว่า เด็ก “ไม่รู้” ว่าสิ่งที่เขากำลังเจออยู่มันคืออะไร , เด็ก “ไม่รู้” ว่าอะไรคือความเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม , เด็ก “ไม่รู้” ด้วยซ้ำว่า มันโอเค หรือไม่โอเคสำหรับตัวเขา ถ้าไม่มีใครบอกหรือสอน แต่ที่เกิดขึ้นแน่นอนคือความรู้สึกบางอย่างที่เด็กคนนั้นไม่เข้าใจในวันนั้น จะส่งผลกับเขามาจนโตไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ในวันที่เราเป็นผู้ใหญ่ และมีความเข้าใจในโลกมากขึ้น ก็อยากให้เรานึกถึงจิตใจของเด็กให้มากๆ เพราะเขากำลังเรียนรู้จากเรา ทั้งที่เราตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ มันจะส่งผลอะไรบางอย่างกับเด็กคนนึงได้ทั้งนั้นค่ะ และอย่าเอาบรรทัดฐานของตัวเองไปเทียบกับเด็ก ว่าถ้าเราโอเคแบบนี้ เด็กก็ต้องโอเคเหมือนกัน

ขอบคุณอินสตาแกรม p_emery

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน