ฝน ศนันธฉัตร ให้กำลังใจ ฟรัง นรีกุล หลังถูกดราม่าเดือดในโลกโซเชียล

ฝน ศนันธฉัตร ให้กำลังใจ / วันที่ 28 พ.ย. ที่ The Pud English Garden เลียบด่วน เอกมัย-รามอินทรา นักแสดงสาว ฝน ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล เดินทางมารวมพิธีบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง “The World of Killing People – ฅ่า”

ฝน ศนันธฉัตร ให้กำลังใจ

หลังเสร็จงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่ให้กำลังใจ ฟรัง นรีกุล ที่ก่อนหน้านี้ถูกสาวปริศนาออกมาแฉ จนเป็นเรื่องร้อนระอุในโลกโซเชียล และติดเทรนทวิตเตอร์ในชั่วข้ามคืน พร้อมอัพเดตผลงานหลังออกมาเป็นนักแสดงอิสระ รวมถึงเรื่องที่ลงเรียนคณะนิติศาสตร์ เกรดเฉลี่ยของเทอมที่1 ออกมาเรียกว่าไม่ธรรมดา และเข้าใจปัญหาของเด็กที่กำลังเรียนด้วยวิธีออนไลน์

ได้พูดคุยกับ ฟรัง นรีกุล บ้างไหม มีให้กำลังใจบ้างไหม กับปัญหาที่เกิดขึ้น? “คะ มีคะ ก็ทักไป เห็นข่าวก็ทักไป ซึ่งเรารู้สึกว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนอยู่แล้ว ไม่ใช่ดารานักแสดง หมายถึงมันไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ว่าอะไรก็ตาม จริงแท้แค่ไหนร้อยเปอร์เซ็นต์ คนซ้ายบอกอย่างคนขวาบอกอย่าง สิ่งที่เราทำได้เราก็จะบอกว่า โทษทีพอดีเห็นข่าว เป็นกำลังใจให้นะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาได้

ฝน ศนันธฉัตร ให้กำลังใจ

ค่อนข้างเครียดแค่ไหน กังวลใจแค่ไหน? “คือหนูก็ไม่ได้อยากโทรไปเพราะรู้สึกว่าเขาก็น่าจะมีเรื่องที่ต้องจัดการอยู่แล้ว ไหนจะเรื่องเรียน ก็เลยบอกว่า อยู่ตรงนี้เสมอนะ มีอะไรก็โทรมาเท่านั้นมากกว่า”

กับการเป็นนักแสดงอยู่ที่สว่าง หลายๆ ปัญหา เรามีการจัดการตัวเองยังไงบ้าง? “จริงๆ เป็นเรื่องยากมากที่จะปกป้องตัวเองยังไงเนอะ อย่างสมมุติว่าหนูเคยมีข่าวในด้านลบ ซึ่งไม่จริงเลย ก็คือตรงข้ามไปหมดเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ยากที่เราจะอธิบายให้คนอื่นฟัง ดังนั้นสมมุติเรามีพื้นที่ในโซเชี่ยล เราอาจโพสต์ไปโพสต์หนึ่ง แต่ถ้าคนอื่นไม่เข้าใจคือมันก็ต้องยอมทำใจ เพราะเราไม่มีทางเปลี่ยนความคิดหรือความเชื่อคนอื่นได้ แม้เรื่องนั้นจะไม่จริงเลยก็ตาม ก็คือเหมือนต้องดูแลใจตัวเองแล้วก็ให้กำลังใจคนที่เราแคร์เยอะๆ”

ฝน ศนันธฉัตร ให้กำลังใจ

ในมุมนักเรียนกฎหมาย และที่เคยมีประสบการณ์ คิดจะเอามุมนี้มาช่วยเหลือตัวเองหรือเพื่อนๆ อย่างไรบ้างไหม? “จริงๆ หนูก็ยังไม่ได้มีความสามารถถึงขั้นจะเอากฎหมายไปประยุกต์ใช้ได้ขนาดนั้น แต่เราได้ตระหนักรู้ว่าเรื่องแบบนี้กฎหมายทำอะไรได้บ้าง กฎหมายทำอะไรไม่ได้ คือสมมุติว่ามีเรื่องฟ้องร้องมันจะมีศัพท์ที่แบบว่าคำนี้สามารถฟ้องได้ คำแบบนี้ฟังแล้วเจ็บใจมากแต่มันฟ้องไม่ได้เลย แล้วก็เรียนรู้เอาไว้ เก็บเรียกว่าเป็นข้อมูล ก็รู้ดีกว่าไม่รู้ แต่ไม่ได้หมายความว่า รู้แล้วเราจะไปทำอะไรได้ขนาดนั้น”

ออกมาเป็นนักแสดงอิสระแล้วเป็นยังไงบ้าง? “อันนี้เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ เรื่องแรกตอนออกมาก็เลือกรับไว้ คือจริงๆ แล้วความต่างจากนักแสดงในสังกัดมาเป็นอิสระ คือเหมือนเรามีโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ เข้ามา เราก็สามารถพูดคุยได้เร็วขึ้นคุยได้ง่ายขึ้น ตัวเราเองก็เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำอะไรใหม่ๆ ที่แบบตื่นตาตื่นใจเหมือนออกจากเซฟโซนมากขึ้นอะไรแบบนี้”

ฝน ศนันธฉัตร ให้กำลังใจ

แพลนอะไรบ้างที่บอกว่าใหม่ๆ ประเภทไหนบ้างที่อยากทำ? “ก็จริงๆ ปีหน้ามีหนังสองเรื่อง แล้วก็มีละครหนึ่งเรื่อง คือเธอ (Bad Romeo) มี พี่ญาญ่า-อุรัสยา กับ พี่มาริโอ ทางช่องสาม เป็นละครหลังข่าวน่าจะช่วงกลางๆ ปี แล้วก็เดือนกุมภาพันธ์มีเรื่อง ใจฟู..สตอรี่ เล่นคู่กับ ลี-ฐานัฐพ์ และก็มีนักแสดงคนอื่นๆ พีช-พชร, มินนี่-ภัณฑิรา ก็เป็นหนังภาพยนตร์เลย ซึ่งแพลนออนช่วงวันวาเลนไทน์ อันนี้เป็นหนังรักแบบดูแล้วใจฟู หรือแบบมีดราม่าเบาๆ ตามสไตล์หนังรักที่มันจะมีหลายมุมมอง แล้วก็มีเรื่องนี้ที่ถัดมาเป็นช่วงกลางๆ ปีค่ะ”

แสดงว่ามีความหลากหลายมากขึ้นทั้งคาแร็กเตอร์และงานที่รับมากขึ้น? “ค่ะ มีหนังผี หนังรัก แล้วก็ละครที่ค่อนข้างโรแมนติกดราม่าเลย ปีหน้าสามโปรเจ็กต์ที่รอออนก็คือสามแนวเลยค่ะ”

เห็นข้อจำกัดบ้างหรือยัง กับการเป็นนักแสดงอิสระ มีอะไรเกิดขึ้นบ้างไหม? “ข้อจำกัดน่าจะเป็นตัวเรามากกว่า ว่าเราชอบงานแบบไหน มองตัวเองยังไง หรือว่าอยากลองอะไร น่าจะเป็นเรื่องความต้องการ ความอยากรู้อยากลองของเราล้วนๆ เลย ที่ลิมิตหรือไม่ลิมิต”

นอกจากทำงานหนักแล้ว ล่าสุดยังเรียนปริญญาตรีอีกใบหนึ่ง? “ใช่คะ หาทำ (หัวเราะ) อย่างที่บอกว่าช่วงปีสองปีที่ผ่านมา เหมือนมีธุระที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย ก็คุยกับทนายแล้วก็กลายเป็นว่า รู้สึกว่าจริงๆ แล้ว ทุกวันนี้ชีวิตเราเกี่ยวกับกฎหมายทั้งนั้นเลย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย เซ็นสัญญาทำงาน แล้วเราไม่มีความรู้เลย รู้สึกว่าจริงๆ แล้วการไม่รู้มันก็เหมือนเสียเปรียบแล้ว แล้วมันก็เป็นประโยชน์ของเราด้วย ก็เลยตัดสินใจว่าถ้าจ้างทนายชั่วโมงละหลายหมื่น ก็ไปเรียนเองเลย”

“แล้วก็เผื่อว่าถนัดด้านนี้หรือว่าชอบขึ้นมาจริงๆ เผื่อในอนาคตอยากไปทำเป็นทนายอาสา เพราะว่าตอนที่หนูมีธุระต้องคุยกับทนายแล้วรู้สึกว่าจริงๆ มันต้องใช้เงินในการพูดคุยกับทนายเหมือนกัน แล้วรู้สึกว่าเราเป็นคนเดือดร้อนนะ วันหนึ่งมีคนเดือดร้อนเหมือนเราแล้วทุนทรัพย์ไม่มี ถ้าวันนั้นเรามีความสามารถ เราก็อยากจะไปช่วย ถ้ามีนะคะ ถ้าเรียนจบและยังทำได้อยู่ ก็มีความตั้งใจว่าอยากทำ แต่ต้องเรียบจบก่อน ตอนนี้เพิ่งปีหนึ่งเอง”

ผลการเรียนออกมาดีเลย? “ผลการเรียนแฮปปี้ ตอนนั้นโควิด กองก็ออกไม่ได้ งานละครก็ทำไม่ได้ ยูทูบก็ไม่ได้ทำเลย ก็เลยมุ่งมั่นกับการเรียนอย่างเดียว ตื่นมาก็นั่งเรียนออนไลน์ ตกเย็นก็อ่านหนังสือไป ก็เลยได้คอนเซ็นเทรด ก็เกรดดีหน่อย”

แฟนๆ บอกว่าสมุดเล็กเชอร์แต่ละเล่ม แต่ละวิชาก็ถือว่าหนาเลย? “หนามากเลย แต่อย่างที่บอกว่าเรามีเวลา เหมือนเราจบมาแล้วใบหนึ่ง เราก็พอจะรู้ว่าเราต้องจัดการยังไงกับชีวิต แต่จริงๆ แล้วเรื่องการเรียนออนไลน์เป็นเรื่องยากมากๆ ไหนสัญญาณอินเตอร์ต้องดีไหม เราต้องตั้งใจยังไง บางคนอยู่กับครอบครัว เสียงดังซ้ายขวา คือทำให้เราเข้าใจปัญหาน้องๆ ที่เรียนออนไลน์ตอนนี้ ก็เลยได้มีการออกมาพูดถึง เพราะว่าประสบการณ์ตรง โอ้โห้ เราโตขนาดนี้ สมาธิเอย ความเข้าใจเอย เพื่อนร่วมคลาสก็ไม่มี จะติดต่อคุณครูก็ยาก มันมีอุปสรรคหลายอย่าง ก็เลยมีคลิปออกมาแชร์ให้แฟนๆ ในยูทูบด้วย”

แต่ตอนนี้ก็ยังเรียนในรูปแบบออนไลน์ใช่ไหม? “ต้องเรียนออนไลน์อยู่สำหรับเทอมนี้ เพราะสถานการณ์มันค่อนข้างจะยังไม่เคลียร์ขนาดนั้น แต่ปีหน้าอาจจะกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ค่ะ”

การสื่อสารกับครูในรูปแบบไหน? “คือเหมือนคุณครูเขาก็จะต้องปรับตัวว่า ปกติสอนที่โรงเรียนเราสามารถถือไมค์พูดกับนักเรียนได้ สื่อการสอนไม่ต้องแน่น แต่ตอนนี้ก็จะมีแอพพลิเคชั่นต่างๆ ต้องหัดใช้ซูม มีกูเกิลคลาส มีสไลด์ มีสื่อการสอนที่แบบมันย่อยง่าย เข้าใจง่ายแล้วไม่ต้องใช้เวลาเยอะ ก็เห็นว่าคุณครูหลายท่านก็ปรับตัวตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างที่บอกปีหนึ่งแล้วอะ กว่าทุกอย่างมันจะค่อยๆ ปรับมามันต้องใช้เวลา”

ทำบ้านอยู่ด้วย หมดไปเท่าไหร่แล้วตอนนี้? “บ้านเสร็จแล้วแต่ว่าก็เกิน เพราะว่าใครทำบ้านจะรู้เลยว่ายิ่งทำยิ่งอยากเพิ่มหรืออยากแก้ แต่ว่าก็เป็นตัวเลขที่รู้ตั้งแต่ต้นไม่ได้โชคร้าย เจอบางคนที่แบบว่าเสร็จแล้วมายื่นบิลว่างบเกิน คือเรามีการพูดคุยมาตลอดว่าอันนี้แบบนี้ อันนี้ถือว่าโอเค แต่จริงๆ ก็มีแพลนจะซื้อบ้านใหม่ เพราะอันนี้รีโนเวท โควิดเป็นเหตุสังเกตได้”

ก็สนุกกับการทำยูทูบไปด้วย? “ใช่ คือรู้สึกว่ามันก็เป็นพื้นที่ที่เราโอเค เรายังอยู่ เราก็ทำให้ดีที่สุด ได้ทำเป็นเหมือนสตูดิโอในบ้านไปด้วย เพราะรู้สึกว่าเราจะได้ไม่ต้องออกไปข้างนอก ปลอดภัยดี”

อยากเป็นยูทูบเบอร์แบบจริงจังไหม? “ถามว่าอยากเป็นแบบจริงจังไหม คือ ในตั้งใจทำยูทูบเพราะว่าอยากคุยกับแฟนๆ โดยตรง คือปกติจะเห็นเล่นละครเรื่องนี้ก็เป็นคนแบบนี้ คนก็จะรู้จักเราตามคาแร็กเตอร์ แต่พอมาเป็นยูทูบ คือหนูอยากพูดอะไรก็ได้ที่เราเป็น อยากแชร์อะไรก็ได้ คือมันเหมือนให้เห็นไลฟ์สไตล์ในอีกมุมหนึ่งของเรามากกว่า แต่ว่าหนูไม่ใช่ยูทูบเบอร์สายคอนเทนต์ที่แบบว่าตอนนี้มีกระแสนี้ แล้วจะเสิร์ฟแฟนๆ เป็นการพูดคุยเป็นส่วนใหญ่แบบอัพเดต”

ขอบคุณรูปจากไอจี sananthachat

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน