สมจิตร ปักหลักสู้ ปัญหารุมเร้า ภรรยาป่วยหนัก ลูกชายสมาธิสั้น

วันที่ 4 ธ.ค. สมจิตร จงจอหอ เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว “เขาทราย แกแล็คซี่ มวยไทย ยิม” ย่านรัชดาภิเษก ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องอาการป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเองของภรรยา อุ๋ม ศศิธร

ซึ่งอาการหนักถึงขั้นสั่งเสีย หลังแพทย์เตือนให้ระวังเรื่องไต พร้อมเผยถึงอาการสมาธิสั้นของลูกชาย น้องกำปั้น

ทราบว่าภรรยาป่วยเป็นโรคพุ่มพวง? “อาการป่วยมันเริ่มตั้งแต่ต้นปี เราก็พาไปตรวจแล้วเจอโรคพุ่มพวง(SLE)ครับ เราไปหาหมอรักษาตามที่หมอบอกกินยาสเตียรอยด์วันละ 10 กว่าเม็ด กินเพื่อกดภูมิตัวเองเอาไว้ หลังจากที่กินไปมันก็ทำให้ตัวเองบวมขึ้น เนื่องจากร่างกายขาดโปรตีน แล้วไตก็เหมือนจะมีปัญหา รักษาอยู่เดือนกว่าๆก็รู้สึกว่ามันไม่ดีขึ้น เลยพาเขาไปที่รพ.จุฬาลงกรณ์ครับ

หลังจากที่ไปหาหมอวันแรกเจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ หมอสั่งแอดมิตในวันนั้นเลย ซึ่งเราตกใจมากวันนั้นมาจากต่างจังหวัด หมอสั่งแอดมิตเราก็ทำตามที่หมอบอก หมอก็เรียก หมอโรคไต หมอกระดูก หมอผิวหนัง ทุกอย่าง จนสุดท้ายรักษาอยู่ 12 วัน

อาการอาทิตย์แรกไม่สามารถลงจากเตียงได้ เพราะขาบวมมาก แล้วก็มีแผลผุพองที่ข้อเท้า ทำให้เขาไม่สามารถขยับตัวออกจากเตียงได้ เป็นเรื่องร้ายๆที่สุดในชีวิตที่เคยเจอมาครับ รู้สึกสงสารเขามาก เขาน้องไห้ บอกไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้








Advertisement

หลังจากอาทิตย์นึงผ่านมาก็เริ่มดีขึ้น ร่างกายตอบสนองกับตัวยา ดีขึ้น แต่หมอเขาบอกว่าร่างกายขาดโปรตีนมาก ฉะนั้นให้เสริมโปรตีนเข้าไปด้วยการกินนม และกินไข่ขาว พยายามกินยา อาหารเสริมเข้าไปทำให้ 12 วันที่นอนรพ.อาการดีขึ้น อาการที่บวมขึ้นมา 10 กว่ากิโล ภายในไม่ถึงเดือนลดลงเกือบ 10 กิโลกรัมก็กลับมาเป็นปกติ

ตอนนี้ก็เลยพักรักษาตัวอยู่บ้าน หมอก็ห้ามว่าไปเจอคนเยอะๆ เพราะภูมิตัวเองต่ำ ถ้าหากไปติดเชื้ออะไรที่มันเกี่ยวข้องกับระบบภายในจะทำให้มีโอกาสเสียชีวิตง่าย ฉะนั้นต้องดูแลรักษาตัวอยู่ที่บ้านอย่างดี โดยที่ไม่ให้ไปเจอกับผู้คนเยอะๆ พักผ่อนเยอะๆ กินอาหารตามหมอสั่ง ตอนนี้ถือว่ากลับมามีชีวิตใหม่ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว”

จะมีโอกาสเป็นโรคแทรกซ้อน?ตอนนี้คุณหมอบอกว่าระวังเรื่องเดียวคือเรื่องไต ยาบางทีกินวันนึง 20 กว่าเม็ด ณ เวลานี้นะ เราก็พยายามคุมทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องไตให้ได้ ถ้าไม่มีไตหรือโรคอื่นมาแทรกซ้อน ก็อยู่กับโรคนี้ได้ แต่ต้องกินยาอยู่ทั้งหมด 2 ปี อาจจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงอยู่ที่เราดูแลตัวเอง

เราก็ห่วงเรื่องไต เพราะยาที่กินมันเยอะมาก หมอก็พยายามหาอะไรอย่างอื่นที่กินแล้วดูแลรักษาไต ควบคู่กันไป เพราะฉะนั้นผมว่า ถ้าเรารักษาตามวิธีหมอบอกทั้งดูแลรักษากินยา”

ได้ยินว่าภรรยาถึงขั้นสั่งเสียเอาไว้แล้ว? “เขารู้สึกว่าปวดขาเหมือนกระดูกโดนบิด ผมก็ไม่เข้าใจว่ากระดูกโดนบิดมันเป็นแบบไหน ผมนึกจินตนาการไม่ออก เขาบอกว่ากระดูกเขาเหมือนโดนบิด ขาที่เขาแตะพื้นเหมือนเข็มทิ่มแทงเป็นร้อยๆเข็ม เขาก็จับมือเราแล้วบอกว่าเขาสู้เต็มที่แล้ว

เราก็ขอให้มีกำลังใจต่อไป ผมพยายามบอกเขาว่าไม่เป็นไรหรอก ถึงมือหมอแล้วอย่าคิดมาก เดี๋ยวค่อยๆรักษา เดี๋ยวก็หายและดีขึ้น แต่ตัวเขาเองถอดใจไปแล้ว ณ เวลานั้น เขาห่วงลูก เพราะ 10 กว่าวันไม่เจอกันเลย เราก็อยู่กันแค่ 4 คนพ่อแม่ลูก ก็ทำให้เขามาสั่งผมไว้ว่าถ้าเขาไม่ไหวก็สู้ๆนะเพื่อลูก

ผมก็สั่งเขาว่าไม่ได้นะจะตายไม่ได้ถ้าเขาตาย ให้พี่ตายดีกว่า เพราะถ้าเขาตายไป ผมจะเลี้ยงลูกยังไง ผมลูกผู้ชายไง ออกนอกบ้าน ทำงานหาเงินเข้าบ้าน ถ้าเขาตายผมจะรีดผ้าให้ลูกยังไง มันคิดไม่ออก จะไปรับ-ส่งลูกยังไง เพราะที่ผ่านมาเราไม่เคยทำ

แต่ถ้าเราอยู่บ้านก็จะได้ทำช่วย เลยบอกว่าถ้าอุ๋มจะตายให้พี่ตายดีกว่า ต่างคนต่างร้องไห้ก็รู้สึกว่าวันนั้นมันสุดจริงๆนะ สำหรับเราสองคน หลังจากที่รักษาผ่านมาแล้วเขาเห็นสัจจธรรมของชีวิตว่าคนเราอย่าประมาทในการใช้ชีวิต วันนึงอยู่ด้วยกัน เห็นกัน แต่บางอาจจะต้องตายไปโดยไม่ได้สั่งเสียกัน เพราะงั้นอยู่ด้วยกันขอให้มีความรักต่อกัน

เราจะคุยกันเสมอว่าถ้ามาใครพรวดพราดตายไปเนี่ย อย่างน้อยเราจะรู้ว่าเรามีความรักให้กัน ไม่ได้โกรธเคืองกันก็จะเป็นความรู้สึกที่ดี ณ วันนี้ก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะครับ ตอนนี้รักษาตัวก็ดีขึ้น แต่ก็ต้องกินยาเรื่อยๆพยายามดูแลเขาให้ดีที่สุด ให้เขาอยู่กับอากาศที่ดี อาหารที่ดี ให้อารมณ์ดีอย่างเครียด แค่นี้เราก็จะยืดอายุเขาให้ได้มากยิ่งขึ้น”

ได้ยินว่าลูกชายมีอาการสมองช้า? “สมองช้าเป็นลูกชาย น้องกำปั้นอายุ 20 ปี แต่สมองเขาช้ากว่าอายุจริง 5 ปี ฉะนั้นมันเหมือนอารมณ์เด็กสมาธิสั้นครับ พอเราบอกเขาให้ทำสิ่งนี้ เขาจะนั่งงงๆ แล้วเขาก็ลืม ต้องจ้ำจี้จ้ำไชเขาถึงจะทำ เราเลยพยายามคุยกับเขาบ่อยๆ พยายามบอกเขาบ่อยๆให้พัฒนาการดีขึ้น

ตอนนี้เขาก็พูดรู้เรื่องนะ แต่ด้วยการเรียนของเขาไม่เก่ง เรื่องของไอคิวถ้าเทียบนักเรียนมี 40 คน เขาจะอยู่ที่ 39 แต่อีคิวเขาดี หมายถึงการพูดคุยกับผู้ใหญ่ เป็นมิตรกับทุกคน

เด็กสมาธิสั้นจะมี 2 อย่าง คือหนึ่งก้าวร้าวอารมณ์ฉุนเฉียวกับอยู่คนเดียวนิ่งๆเงียบๆ แล้วก็ดูอะไรซ้ำๆ ฟังซ้ำๆ น้องกำปั้นเป็นแบบที่ 2 ฟังซ้ำๆ มองช้าๆ เนิบๆไม่ก้าวร้าว ด้วยความโชคดีตรงนี้คือเด็กจะไม่ออกไปเที่ยวข้างนอก ไม่เกเร ไม่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ ไม่กินเหล้าเมายา อาจจะเป็นสิ่งที่ดี ตอนนี้ก็พยายามให้เขามียาทาน และให้เขาพูดคุยเยอะๆกับเพื่อนฝูงและครอบครัว เราก็อยู่ใกล้ชิดเขาบ่อยๆ ทำให้สมองเขาดีขึ้น”

สร้างกำลังใจให้ครอบครัวยังไง ในช่วงที่โดนปัญหาถาโถมเข้ามา? “แน่นอน ผมเชื่อว่าในช่วงของโควิดหลายคนมีปัญหาในเรื่องของธุรกิจบ้าง เรื่องของการเป็นอยู่การทำงาน ผมเองก็โดยครับ เราไม่รู้จะไปบอกใคร ไม่รู้จะไปเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากใคร

สุดท้ายแล้วเราก็ต้องพึ่งตัวเอง พึ่งคนในครอบครัว กำลังใจหาได้มาจากคนรอบข้าง จากภรรยาและครอบครัวของเรา ขอให้ทุกคนมีกำลังใจกับตัวเองครับ อย่าท้อแท้ อย่าหมดหวัง

ความหวังอยู่ข้างหน้าอยู่ที่ว่าเราสู้แค่ไหน ถ้าเราสู้เต็มที่แล้ว ไม่ไหวก็คือไม่ไหว แต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่นและความจะสู้ มีจิตใจที่จะต่อสู้อะไรมันก็ผ่านไปได้ เราก็จะให้กำลังใจกัน ดูแลกันตลอดไป ขอให้ทุกคนในสังคมไทยเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน สู้ๆทุกคนครับ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : somjit2001

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน