เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่โรงภาพยนตร์เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าเอสพลานาด รัชดาภิเษก ชาคริต แย้มนาม ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์รัก AEC “คิดถึงทุกปี Memories of New Years” พร้อมอัพเดตพัฒนาการ “น้องโพธิ์” ลูกชายในครรภ์ของแอน-ภัททิรา ภรรยาสาว

โดยชาคริตเผยว่า อายุครรภ์ 20 สัปดาห์แล้ว เริ่มดิ้น ตามลำดับที่หมอบอกว่าเข้าช่วง 4 เดือนครึ่ง เดือนที่ 5 มีอาการถีบช่วงตี 2 ด้วย คุณแม่ตื่น น้องจะหลับ พอคุณแม่พยายามจะหลับ น้องจะตื่น ผมก็จับท้องเขาตลอด สัมผัสลูก คุยกับเขาทุกวัน เราอาจจะคิดไปเอง แต่มันก็เป็นความชื่นใจอย่างหนึ่งว่า พอเขาได้ยินเสียงเรา เขาจะดิ้นเป็นพิเศษเหมือนกำลังแดนซ์ตลอด ก็บอกเขาเป็นลูกพ่อนะลูก ปกป้องพ่อด้วย อย่าให้แม่มาทำอะไรพ่อ (หัวเราะ)

“ส่วนภาพอัลตร้าซาวด์น้อง มันเป็นจังหวะการหันของเงามากกว่า เลยดูเหมือนจมูกโด่งมาก ถ้าดูดีๆ มันจะเป็นกะโหลกกับเนื้อเยื่อหุ้มชั้นแรก เป็นเด็กที่โครงกระดูกใหญ่มาก ต้อง 28 อาทิตย์ถึงจะเห็นรายละเอียดหน้าตาของเขาจริงๆ เขาก็แบ่งความเหมือนหน้าตาพ่อแม่คนละครึ่ง ผู้ชายก็ให้เหมือนแม่ ผู้หญิงเหมือนพ่อ ยังไงก็ลูกเรา”

“ผมตั้งชื่อเล่นให้ลูกว่า น้องโพธิ์ ส่วนชื่อจริงยังทะเลาะกันอยู่ ยังคิดกันอยู่ ลองเอาชื่อมาผสม หรืออาจจะลองไปถามพระ ชื่อจริงก็ยังมีเวลาอยู่ ส่วนชื่อเล่น แอนให้เกียรติผมเป็นคนตั้ง เพราะคิดไว้นานแล้ว ถ้าเกิดผมมีลูก ผมอยากให้ลูกชื่อนี้”สุขภาพคุณแม่เป็นยังไงบ้าง
“แข็งแรงขึ้นมากครับ เขาไม่ได้พูดกับเรา ไม่ได้สื่อสารเป็นคำพูด แต่เขาโชว์ให้เห็นทั้งในเรื่องการลุกขึ้นมาเดิน กินข้าวเองได้ ไม่กินอาหารปั่นแล้ว กลับมาเคี้ยวอาหารใหม่ กล้ามเนื้อดีขึ้น เวลาไปเยี่ยมคุณแม่ที่บ้าน เขาจะโผมากอดลูกสะใภ้ จะกอดหลาน จับท้องแอน ผมก็ยืนอยู่ข้างๆ เห็นแม่ลูบท้องแอน บางครั้งนานถึง 10 นาทีเลยทีเดียว แม่มีความสุขมากจนเดี๋ยวนี้เหมือนลืมลูกไปแล้ว พอเราถามว่าไม่กอดลูกบ้างหรอ เขาก็หันมาตบๆ แบบขอไปที แล้วก็หันไปเล่นกับหลานในท้องต่อ”

คุณย่าเห่อหลานมาก
“เห่อครับ ต้องบอกว่าเด็กมหัศจรรย์จริงๆ เขามากับสิ่งดีๆ เขาได้รับความรักจากทุกๆ คน และเขาทำให้เกิดสิ่งปาฏิหาริย์กับคุณแม่และหลายคน อย่างเพื่อนที่ไม่คิดจะแต่งงาน อยู่ดีๆ กลับมาเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิต เฮ้ยกูอยากแต่งงาน อยากมีครอบครัว คือทั้งๆ ที่เขายังไม่เกิดเลย แต่ความสุขที่เขาสร้างให้กับเรา สร้างให้กับสิ่งที่เราใช้ชีวิตปกติๆ เรียบง่าย มันทำให้คนอื่นเริ่มมั่นใจในความรักมากขึ้น แล้วก็ดีใจที่เด็กคนนี้วิเศษจริงๆ”

อยากให้แม่แข็งแรงขึ้น
“เป็นสิ่งที่เราคิดไว้ตลอดว่าน่าจะเป็น เพราะอย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่าตอนแรกก็ยังเคยคุยเล่นๆ คุณแอนเขาบอกว่าถ้าเกิดมีลูก คุณย่าต้องหาย เราก็เฮ้ย ไม่ใช่พูดเล่นๆ พูดปุ๊บมาปั๊บ บางคนก็ปีสองปี แต่นี่มาเลย ก็แปลกๆ ตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว พอติดเสร็จปุ๊บ บอกคุณแม่ คุณแม่ก็ดีขึ้น วิถีชีวิตเขาเปลี่ยน คือกำลังใจของเขาก็เปลี่ยน จากที่เขาท้อไม่อยากเป็นภาระ ตอนนี้เขามีจุดหมายใหม่ คือเขาต้องอยู่เพื่อจะได้เล่นกับหลาน กอดหลาน บางคนเห็นอาการแล้วถึงกับบอกว่า เผลอๆ เห็นแบบนี้ถ้ากลับมาเป็นปกติได้จะหนาวจะตกใจ”เชื่อไหมว่าที่แม่ดีขึ้นเพราะหลาน
“เขาบอกว่าเรื่องแบบนี้อย่าไปลบหลู่ แต่การที่เขากลับมาขนาดนี้ที่เราประคองจะ 2 ปี มันมหัศจรรย์เหลือเกิน ทำให้เรายิ้มไปกับเหตุการณ์กับทุกสิ่งทุกอย่างกับสถานการณ์ ตั้งแต่แอนเดินไปที่บ้าน ตั้งแต่วันนั้น วันที่เขาเจอกันครั้งแรก มาเรื่อยๆ เขาก็เหมือนเริ่มแข็งแรงขึ้น พยายามควบคุมอารมณ์ คือตอนนี้ต้องบอกว่าด้วยอายุ ด้วยความเหนื่อยล้าของสมองบางทีควบคุมไม่อยู่ เศร้าคือดิ่งเลย เวลาจะเอาอะไรเหมือนเด็ก ปรี๊ดก็ปรี๊ดลั่นเลย เหมือนเขารู้ว่าเขาเป็นอย่างนี้ได้แค่เฉพาะคนในบ้าน แต่กับคนอื่นเหมือนเขาต้องการให้แอนเข้าใจเขา”

“แม่ผมเขาเป็นคนไม่เคยสนใจอะไรในโลกอยู่แล้ว เขาแมนๆ แต่ตอนนี้คือเห็นความพยายามจะอยากอยู่ ตอนแรกเราก็ยังไม่เข้าใจ แต่คิดกลับไปว่าคนเป็นแม่ ถึงเขาอาจจะยังไม่ปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เซนส์ของคนมันบ่งบอกอะไรได้บางอย่าง แล้วเขาก็บอกถูกด้วย เราเห็นพัฒนาการของเขาที่ลุกขึ้นเดินเหิน กลับไปปั่นจักรยานออกกำลังกายอยู่กับที่ ปั่นจนต้องบอกว่าพอเถอะ พอได้แล้ว พอพูดแล้วเขาฟังก็โอเค คือเราจะเห็นพัฒนาของเขาที่มีการเปลี่ยนอารมณ์ทุกอย่างดี สำหรับลูกคนหนึ่งคงไม่ขออะไรที่มันมากไปกว่านี้แล้ว โดยเฉพาะมันเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กับความรักครอบครัว กับลูกที่กำลังจะมาอะไรแบบนี้ สำหรับตอนนี้ผมว่าเป็นช่วงเวลาที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด” ชาคริตทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน