หยอง ลูกหยี ป้อง ตูน บอดี้สแลม ซัดพวกไม่ช่วย ก็หุบปาก ! โต้หิวแสง ตกอับ ท้ามาดูที่ทำมาหากิน

 

กำลังเป็นประเด็นดราม่าร้อนอยู่ในขณะนี้เมื่อ “ตูน บอดี้สแลม” อาทิวราห์ คงมาลัย ลุกขึ้นมาทำโครงการก้าวเพื่อน้องปีที่ 2 เพื่อเป็นการวิ่งหาทุนการศึกษาให้เด็กยากจน 109 ราย และเป็นโครงการวิ่ง สานต่อจากก้าวเพื่อน้องเวอร์ชวลรัน ปี 2563

โดยหลังจากมีการประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าว ชาวเน็ตต่างพากันพูดถึงเป็นวงกว้าง กระทั่งมีการติดแฮชแท็ก #พี่ตูนวิ่งทำไม โดยหลายความเห็นไม่เห็นด้วยกับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ให้เหตุผลว่าการช่วยเรื่องการศึกษาควรเป็นหน้าที่ของรัฐมากกว่า

ล่าสุด ทางด้านตลกคนดัง หยอง ลูกหยี ได้มีการแสดงความคิดเห็น โดยออกมาปกป้องพี่ตูน ที่ออกมาผุดโครงการวิ่ง แล้วโดนด่า

ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากที่พี่ตูนกลับมาวิ่งอีกครั้งหนึ่ง?

“ถามความรู้สึกพี่ใช่ไหม ทุกครั้งที่พี่ตูนทำพี่ก็สนับสนุน พี่ก็เห็นด้วยทุกครั้งอ่ะ คือเขามีพาวเวอร์ เขามีคนรัก มีแฟนคลับ เวลาเขาทำแล้วมันได้เงินไปทำคุณประโยชน์ให้กับประชาชน กับคนบ้านเรา กับแผ่นดิน มันก็เป็นเรื่องดีนะ ทำไมจะต้องไปว่า วิ่งขอเงินอีกแล้ว คือพวกคุณไม่ต้องมาว่าก็ได้ เมื่อวานพี่ให้สัมภาษณ์ไปช่องหนึ่ง คนก็เข้ามาด่ากันว่า พี่เสือกหิวแสง ก็มาสัมภาษณ์พี่ พี่ก็พูดไป พี่มองว่ามันเกิดประโยชน์มันได้เงินและได้ช่วยเหลือคน มันก็เป็นเรื่องดี มันเป็นการสร้างกุศลอีกทางหนึ่งอ่ะ

ครั้งที่แล้วเขาวิ่งเพื่อช่วยซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ใช่ไหม มันก็ได้รับประโยชน์กันไปเยอะแยะ ครั้งนี้พี่ก็ยังไม่รู้รายละเอียดหรอก เมื่อวานเขาโทรมาสัมภาษณ์ วันนี้พี่ก็เลยเข้าไปดูว่าเออเขาจะช่วยเหลือเด็กๆ เด็กทั้งประเทศไทยลำบากกันเยอะ เด็กที่ด้อยโอกาสเด็กเสียโอกาสมีมากมาย มันก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยเด็กได้ มันอาจจะไม่มาก แต่มันก็เป็นการเริ่มที่ดีนะ พี่ว่าถ้าเขาทำแล้วมีคนช่วย มีคนบริจาค เขาก็อยากจะสร้างกุศลในหลายรูปแบบนั่นแหละ จริงๆ คนพวกนี้เขาจะสร้างไม่หยุดหรอก ถ้าถามพี่ก็เห็นด้วย ถ้าไม่ทำกันก็อยู่เฉยๆ หุบปากไปซะ จะมาแซะมาด่ามาว่าทำไม ในเมื่อเขาทำความดี”

โซเชี่ยลดราม่า ติด #พี่ตูนมาวิ่งทำไม ส่วนตัวพี่รู้ลึกถึงรายละเอียดไหมว่าทำไมเขาถึงดราม่ากัน?

“ไม่รู้ พี่ไม่รู้ไง พี่ไม่ได้รู้ ไม่ได้ไปใส่ใจขนาดนั้น ลูกน้องบอกว่ามีคนเข้าไปด่า ไปว่าพี่ พี่ก็เลยบอกว่า เอออันไหนแรงๆ ก็แคปไว้ เท่านั้นเอง ไม่เป็นไร อยากด่าก็ด่ามา พี่พูดตามความรู้สึกของพี่มันผิดอะไร พี่เห็นด้วยไงคือทำแล้วมันเกิดประโยชน์มันดีกับประเทศ มันดีกับคนทางบ้าน มันดีกับประชาชน เขาเกิดมาเป็นคนทำคุณงามความดีได้ขนาดนี้ คุณไม่ส่งเสริมเขาเหรอ

ตอนนั้นพี่พูดเรื่องลิซ่าเขาก็ด่าพี่ หาว่าพี่ไปเกาะกระแส เกาะแสง เกาะอะไร พี่ไม่ได้หิวแสง พี่ไม่หลงแสง พี่หนีแสงด้วยซ้ำ พี่อยู่ในป่าด้วยซ้ำตอนนี้พี่ทำไร่ทำนา พี่อยู่ในป่า มีหนังพี่ก็มาเล่น มีรายการพี่ก็มาออก เพราะว่าพี่เป็นฟรีแลนซ์ มาด่าพี่ทำไม พี่ก็อยู่ของพี่อย่างมีความสุข อยู่ในป่าในดง หาว่าพี่ตกยากรู้จักพี่ดีหรือยัง มาดูความเป็นอยู่ที่บ้านลพบุรี ว่าพี่เป็นอยู่ยังไง ไปดูไร่พี่บ้าง ไปดูร้านพี่บ้าง ก็แล้วแต่ใครจะคิดยังไงก็ช่างเขา ทำแล้วมันดีก็ให้เขาทำไปสิ เขาจะทำอะไรให้มันเกิดประโยชน์แล้วมันผิดเหรอ

คนที่ด่าพี่เดี๋ยวพี่จะเชิญรวบรวมให้มันได้เยอะที่สุดแล้วพี่ก็จะเชิญทัวร์ทั้งหลายไปเที่ยวบ้านพี่ไง แรงๆ มาเถอะ บางคนใช้เฟซปลอมมา ทีมงานพี่เก่ง พี่นิ่งมานาน พี่ไม่เคยทำเลย จะเริ่มทำ แล้วก็ทำไปแล้ว ทัวร์คันเดิมๆ คันเก่าๆ ที่วนเวียนไปวนเวียนมา ด่าแรงๆ ก็จะจัดให้เขาหนักๆ แล้วก็พวกเพจที่เอาพี่ไปตัดต่อด่ารัฐบาล เอาภาพเก่าสมัยกปปส. สมัยไหนมาตัดมาต่อ เอาเสื้อที่พี่ใส่สมัยลง ส.ส. ประชาธิปัตย์ ไปด่าคนอีสาน พี่เจอหมดแล้ว เดี๋ยวพี่เชิญไปที่บ้านพี่ ไม่ต้องห่วงหรอก จะทำให้มากที่สุด แล้วก็จะเอาเงินไปสร้างที่วัดเจดีย์ 108 พระองค์ พี่จะเอาไปซ่อมให้ได้มากที่สุดให้สวยที่สุดที่เขาค้อ”

เรียกว่าใครด่านี่คือเตรียมฟ้อง?

“ไม่ต้องห่วงครับ พี่ไม่เคยคิด หลังๆ สงสารแม่ แม่ก็เตือนบอกให้หยุดเถอะลูกเอ้ย ทำมาหากิน คือเขาถามผมมา ผมก็ตอบหมดแหละแม่ ผมขอโทษแม่แล้วกัน แม่ไม่อยากให้ใครมาว่ามึง แต่มันก็ดี แม่ก็บอกว่ามันก็เป็นการสะเดาะเคราะห์อย่างหนึ่ง”

ส่วนเรื่องของพี่ตูน พี่ได้มีการให้กำลังใจกัน หรือมีการหลังไมค์ไปหาบ้างไหม?

“คือผมมาอยู่กับพี่แอ๊ด ผมจะเจอพี่แอ๊ด คาราบาว บ่อย แล้วตูนเป็นหลานแท้ๆ ของพี่แอ๊ด ส่วนตูนผมไม่ได้สนิทสนมอะไรเลย ผมเคยไปให้กำลังใจตอนที่เขาวิ่งมาจากภาคใต้ บ้านผมอยู่พุทธมณฑลหลังหนึ่งตอนนั้น ตอนนั้นผมก็ไปยืนดักอยู่ที่พุทธมณฑล เขาวิ่งผ่านผมไป ผมก็โบกมือเท่านั้นแหละ เขาก็โบกมือกลับ แต่ไม่รู้ว่าเขาเห็นว่าเป็นผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ผมเห็นเขาสร้างความดี เห็นเขาเป็นคนดี จะไปว่าอะไรเขาล่ะ เขาอยากทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ก็ทำไปสิ ไอ้พวกที่อยู่ตรงข้ามก็เข้ามาแซะเข้ามาด่า ประเทศไทยเอ้ย (หัวเราะ)”

สุดท้ายอยากจะฝากบอกอะไรกับคนที่เข้ามาแซะเข้ามาด่าไหม?

“ไม่บอกหรอก บอกยังไงก็ไม่มีประโยชน์ พวกนี้มันฝังลึกเข้าไปข้างใน ใครจะทำดียังไงแค่อยู่ตรงข้ามมันมันก็ไม่สนใจแล้ว มันรู้จักผมเหรอ แค่ล่าสุดไปต่อยมวยการกุศลและเจ็บตัวเพื่อสร้างการกุศล ก็เข้ามาด่า ต่อยกับกูไหม ไอ้สัx เอากับกูไหม คือเยอะแยะ ลูกน้องส่งมาให้ดู แต่พี่ไม่ใส่ใจคนพวกนี้ งานพี่ก็แล้วแต่ ใครจ้างไม่จ้างพี่ก็พูดไปตามความรู้สึก พี่ก็อายุเยอะแล้ว เอาตรงๆ พี่ก็อยากพักผ่อน ทำธุรกิจ ถ้าอยู่เมืองไทยไม่ได้ ก็ไม่อยู่ พี่ก็มีร้านอาหารอยู่ที่ต่างประเทศหุ้นกับพวกมาตั้งนานแล้ว แต่คนเป็นตลกก็ยังอยากแสดงตลก คนเป็นดาราก็อยากเล่นหนังและละครนั่นแหละ แต่ทีนี้เราก็ต้องยอมรับว่าวันหนึ่งศิลปินมากขึ้น เราก็ต้องหาอย่างอื่นทำทดแทน”

“พี่เข้าใจอยู่แล้วคนมาด่า ประเทศไทยมันมีกี่เสี่ยงมันมีกี่ฝั่ง มองเจาะลึกเข้าไป มาด่าพี่ว่าพี่โง่ ว่าพี่ควาย ก็สถานการณ์วิกฤติโลกมันเป็นอย่างนี้ยังไม่หยุดกันอีกเหรอ บ้านเมืองมันก็วุ่นวายอยู่อย่างนี้แหละ รัฐบาลเขาก็หาวิธีทดแทนอยู่ทุกเรื่องทุกราว มีรัฐบาลไหนให้ได้ขนาดนี้บ้าง บางครอบครัวได้เป็นแสนๆ อาจจะทั่วบ้างตกหล่นบ้างมันก็เป็นเรื่องธรรมดา พี่ไม่ได้รู้จักหรอกประยุทธ์อะไร นายกฯพี่ไม่รู้จัก เพียงแต่พี่มองว่ามันเหมาะไหมมันใช่เวลาไหมล่ะ

ม็อบพวกนี้เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าใครอยู่เบื้องหลัง ใครให้ทุนมารู้กันบ้าง คนไทยรู้กันบ้างสิ แค่นั้นเอง เพียงแต่ว่าคนบางคนเคยมีรายได้สมัยโน้น ยุคโน้นเอามาเปรียบเทียบกันมันไม่ได้ บ้านเมืองมันเปลี่ยนไปเราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ เหมือนโควิด ถ้ามันอยู่กับเราไปตลอดกาลจะทำยังไง บ้านเราก็มีมาตรการถือว่าดูแลได้ดีขนาดนี้ ต่างประเทศก็วุ่นวายเหมือนกัน พี่มีธุรกิจอยู่ต่างประเทศพี่รู้ แต่พี่ก็พูดไม่ได้”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน