อิ๋งอิ๋ง พิธีกรดัง เปิดใจร่ำไห้สุดช้ำ ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย สามีนอกใจไปคั่วหมอนวด

อิ๋งอิ๋ง สิทธิณี พิธีกรดัง เปิดใจสะอื้นสุดช้ำ ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เหลือเวลาอีกไม่นาน หมดลมไปแล้วรอบหนึ่ง ตื่นมาพบความจริง โดนสามีนอกใจไปคั่วหมอนวด

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด พิธีกรชื่อดัง ‘อิ๋งอิ๋ง’ สิทธิณี กิตติสิทโธ ล้มป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมานาน 3 ปี ซ้ำร้ายโดนสามีที่แต่งงานอยู่กินกันมานาน 15 ปี นอกใจไปคั่วหมอนวด สุดเจ็บปวดกับคำพูดฝ่ายชาย บอกเห็นหน้าแล้วหมดอารมณ์ โดย อิ๋งอิ๋ง ได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ร่ำไห้น้ำเสียงสะอื้นเจ็บปวด ถึงมรสุมชีวิตที่ต้องเผชิญ หมดลมหายใจไปแล้วรอบหนึ่ง แต่หมอยื้อชีวิตกลับมาได้ ตื่นมารับรู้ความจริงสุดช้ำ คนที่อยู่ข้างๆ มาตลอด 15 ปี ทรยศหักหลังไม่ซื่อสัตย์ ทั้งที่ตัวเธอดูแลสามีมาอย่างดีตลอดเวลาที่ผ่านมา

“อิ๋งพ่ายแพ้ในชีวิตแล้ว แพ้หมดทุกอย่างจริงๆ (ร้องไห้) เรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนฟ้าผ่ากลางหัวใจมันรับไม่ได้กับชีวิตที่เป็นแบบนี้”

“มีผู้หญิงโทร.เข้ามา แล้วถามเขาว่า ที่รักทานข้าวหรือยังจ๊ะ แค่นี้มันก็ความแตกแล้ว อิ๋งให้เขาเลือกระหว่างอิ๋งกับผู้หญิงคนนั้น เขาบอกเขาเลือกผู้หญิงคนนั้น เพราะว่าทำให้เขามีความสุข ผู้หญิงคนนั้นเป็นหมอนวดกระปู๋ให้ผู้ชาย ซึ่งเขามีผัวแล้วด้วย ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่โทร.เข้ามา เราก็คงไม่รู้เรื่องหูตาไม่สว่าง”

“วันที่เกิดเรื่อง 21 ธ.ค. 64 อิ๋งไล่เขาออกจากบ้านเดี๋ยวนั้นเลย อิ๋งเผาของเขาที่มีอยู่ทั้งหมดที่เขาเอาไปไม่หมดทิ้งหมดเลย รูปแต่งงานเผาทิ้งหมด เพราะไม่อยากเก็บไว้เป็นเสนียดทางใจ จนถึงวันนี้ไม่เคยเจอหน้าอีกเลย และไม่ขอคิดจะเจออีก ชาติหน้าชาติไหนก็ขอให้อย่าได้เจอผู้ชายเลวๆ แบบนี้เลย”

เป็นครั้งแรกที่จับได้ว่าเขานอกใจ? “ที่ผ่านมาอิ๋งจับไม่ได้ เคยทะเลาะกัน แล้วจับเขาไปบวชแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันก็ไม่ดีขึ้น คนมันเลวยังไงมันก็เลว อิ๋งแยกห้องนอนกับเขามาตั้งแต่แต่งงานกันมา 14 ปี เพราะเขาจะเอาตูด แต่อิ๋งไม่ยอม ก็เลยแยกห้อง ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยเป็นสามีภรรยากันเลย ไม่เคยอยู่ร่วมห้องกันอีก แต่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ครั้งนี้เรา จับได้คาหนังคาเขาเลย แล้วเขาปฏิเสธไม่ออก ซึ่งเขาทำมานานแล้วไม่ใช่เพิ่งทำ แต่อิ๋งเป็นคนที่ไม่ได้สังเกต ให้เกียรติทุกอย่าง ไม่ยุ่งโทรศัพท์เขา”

“ที่อิ๋งแยกห้องนอนกับเขาเพราะรับความวิปริตทางเพศเขาไม่ได้ เขาอยู่เป็นเพื่อนชีวิต อยู่เป็นกำลังใจให้ อิ๋งไม่ได้ต้องการให้ผู้ชายมานอนด้วยหรือว่ามีเพศสัมพันธ์ อิ๋งไม่ได้ต้องการ อิ๋งต้องการเพื่อน เพื่อนที่เป็นเพื่อนจริงๆ เพื่อนที่ซื่อสัตย์ เราขอแค่นั้น แต่อิ๋งกลับไม่ได้มันเลย เราเคยพูดกันแล้วว่า ถ้าศีลไม่เสมอกัน เขานอกใจวันไหน ขอให้เขาฉิบหายตายโหง สาบานกันขนาดนี้”

“ไม่ยื้อไม่รั้ง เพราะว่าอิ๋งทำดีมาตลอดแล้ว ในฐานะเป็นเมียอิ๋งดูแลสามีอย่างดีขนาดนี้ ให้เขาไปหาเมียที่อื่นหาเมียคนไหนก็ได้ที่ดูแลผัวได้ขนาดนี้ ให้เขาไปหาเลยชาตินี้ อิ๋งถึงถามตัวเอง ที่ร้องไห้เสียใจ เราไม่ดีตรงไหนเหรอ (ร้องไห้)”

“เราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ไม่มีลูกด้วยกัน เพราะความวิปริตทางเพศของเขา อิ๋งถึงไม่ได้มีลูกกับเขา เขาน่าจะได้ทั้งสองอย่างหญิงและชาย ไม่งั้นเขาจะมาขอเอาตูดทำไม ถ้าเขาไม่วิปริตทางเพศ อิ๋งโชคร้ายที่แต่งงานมาแล้วเจอผู้ชายแบบนี้เลย อิ๋งอยู่มาได้ยังไง 15 ปี อิ๋งไม่เคยว่าอะไรเขาเลย เขาจะวิปริตทางเพศเราก็ไม่เคยว่าเขา รับได้ แยกห้องกันนอน เป็นเพื่อนกันอยู่ในบ้าน อยู่เป็นเพื่อนกัน แต่เขายังอยู่ไม่ได้ เขาบอกเราให้ความสุขเขาไม่ได้ ก่อนที่จะไปเขาบอกเขาเห็นหน้าอิ๋งเขาก็ไม่แข็งแล้ว พูดอย่างนี้เลยค่ะ”

ถ้าเขากลับมา จะใจอ่อนยอมคืนดีไหม? “ไม่ เพราะอิ๋งยังนึกถึงคำพูดทุกคำที่เขาพูดว่า แค่เห็นหน้าก็ไม่แข็งแล้ว กับทุกอย่างที่เขาทำ เราจำไว้เป็นบทเรียน”

นอกจากคำพูดทำร้ายจิตใจ โดนทำร้ายร่างกายด้วยไหม? “วันสุดท้ายเราแย่งกระเป๋าปืนกัน เพราะถ้าเห็นหน้าตรงไหนจะยิงทิ้งทั้งคู่เลย เขาแย่งกระเป๋าปืนจากอิ๋งแล้วเอากระเป๋าปืนฟาดใส่เรา แล้วถีบอิ๋ง พี่สาวก็มาแยกมารั้งเราออก กระชากลากถูยิ่งกว่านิยายอีก ถ้าวันนั้นไม่มีพี่สาวอยู่ด้วยก็ไม่รู้ว่าสภาพเราจะเป็นยังไง คงถูกเขาทุบน่วม เป็นครั้งแรกที่เขาทำร้ายร่างกายเรา”

ในใจตอนนี้ยังเคียดแค้นเขาอยู่? “อิ๋งอยากให้ทุกคนรู้ว่าคนอย่างเขาเห็นแค่หน้าไม่รู้ถึงเบื้องลึกของหัวใจ อยากให้คนรู้ว่าผู้ชายคนนี้แหละที่เลี้ยงมันมา 15 ปี มันทำอย่างนี้กับคนที่มันรัก อิ๋งไม่อาย 15 ปีที่ทนอยู่กับความทุกข์ เราผิดหวังในตัวเขามาก และรู้สึกว่าเราโง่ด้วย ที่ผู้ชายมาพูดว่าเห็นเราก็ไม่แข็งแล้ว ไม่มีอารมณ์ (ร้องไห้)”

“อิ๋งไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้ว ผู้ชายมาพูดใส่หน้าอย่างนี้ หมดความเชื่อมั่นในตัวเอง เขาทำแบบนี้กับอิ๋งได้ยังไง คนที่รักเขาที่สุด แค่เห็นหน้าก็ไม่มีอารมณ์แล้ว อิ๋งจำคำพูดนี้ไปจนวันตาย จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่ละคำของเขาทำร้ายจิตใจเรามาก (ร้องไห้)”

ที่ผ่านมาให้เงินเดือน ดูแลสามีดีทุกอย่าง? “เขาไม่ต้องทำอะไรเลย เขาตื่นบ่ายสองบ่ายสาม พอสี่โมงก็แต่งตัวออกไปข้างนอกทุกวัน ไม่ต้องทำอะไร อย่างมากก็แค่อาบน้ำตัดขนแมวให้ รายได้ทุกอย่างในบ้านเราดูแลรับผิดชอบคนเดียวหมด อิ๋งดูแลซัพพอร์ตแบบนี้มาตั้งแต่ต้นค่ะ ให้เงินเดือนเขาใช้เดือนละ 4-5 หมื่นบาท ทุกเดือน 15 ปี”

“ให้รถเบนซ์สปอร์ตคันหนึ่ง มีเบนซ์ธรรมดาให้อีกคันหนึ่ง อิ๋งยึดรถที่ให้เขาคืนมาหมดแล้ว พอเขาหมดใจเปลี่ยนไปมาก เวลาไปไหนด้วยกันเขาเดินนำลิ่วไม่สนใจ ทิ้งเราเลย ตัดสินใจผิดที่เอาผู้ชายคนนี้เข้ามาในชีวิตคิดผิดมาก ทำไมเราดีขนาดนี้ทำไมเขาถึงไม่เห็นคุณค่า”

“ระยะหลังๆ มาเขาผิดสังเกตตรงที่ว่า เขาไปหาหมอแล้วบอกว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเห็นอิ๋งป่วยติดเตียง หมอมาสั่งอิ๋งบอกให้ปล่อยเขาออกนอกบ้าน อิ๋งก็เลยงงว่าเขาก็ออกทุกวันแล้วทำไมมาป่วยเป็นซึมเศร้า แล้วทำไมมาขอให้หมอพูดว่าปล่อยให้เขาออกนอกบ้าน เขาก็ออกทุกวันอยู่แล้ว เขาทำหน้าที่ดูแลอิ๋งแค่พาไปหาหมอเดือนละครั้ง จัดยาให้กินทุกคืน เท่านั้นค่ะ วันหนึ่งเจอหน้าเขาไม่ถึงชั่วโมงเลยค่ะ”

“เขาบอกอยากเป็นผู้จัดการมรดก ถ้าอิ๋งตายไป เขาจะมาขอดูแลทรัพย์สินทุกอย่าง เขาถามอิ๋งเสมอ แต่เราเพิ่งมาสังเกต ถ้าอิ๋งตายแล้วเขาจะอยู่ยังไง เขาถามแต่ประโยคนี้ เคยคิดไหมถ้าอิ๋งตายแล้ว พี่จะอยู่ยังไง ตอนแรกเราเรียกทนายมาแล้วจะทำพินัยกรรมแล้ว จะให้เขาเป็นคนดูแลทั้งหมด อย่างที่ดินที่เชียงใหม่ก็กะว่าจะยกให้ รถเขาอยากได้ก็จะให้ มีผู้หญิงโทร.เข้ามาซะก่อน ทุกอย่างก็เลยพัง เขาพูดน่าสงสารว่า ถ้าหนูตาย แล้วพี่จะทำอะไร พี่ไม่เคยทำงาน พี่จะเริ่มต้นอาชีพใหม่ยังไง”

“อิ๋งทำรายการกอล์ฟขึ้นมาให้เขา รายการกอล์ฟพาราไดซ์ 500-600 เทป อิ๋งปั้นให้เขาทำมาตลอด เพราะรู้ว่าเขาชอบตีกอล์ฟ ทำตัวป๋า ทำตัวเสี่ย ไปหาผู้หญิง แต่เงินเราทั้งนั้น รายการที่เขาทำเราผลิตทุกอย่างดูแลทุกขั้นตอน เบื้องหลังเราทำทั้งนั้น ผู้หญิงก็รู้ว่าอิ๋งเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขายังทำกับเราอย่างนี้เลย”

ครั้งแรกที่โพสต์ปัญหาชีวิตครอบครัว? “มันสุดๆ ของชีวิตแล้ว มันไม่มีอะไรให้อาย ไม่มีอะไรให้ปิดบังใครอีกแล้ว นี่คือเรื่องจริงของชีวิตที่อิ๋งเผชิญมาตลอด 15 ปี อิ๋งไม่รู้จะปิดทำไม อิ๋งอยากให้คนรู้ว่าคนที่คุณมองว่าโชคดีที่สุดมันไม่ใช่อย่างที่คุณเห็น ที่สำคัญอิ๋งใกล้ตายแล้ว หมอบอกว่าอิ๋งอยู่ได้อีกไม่นาน ล่าสุดหมอเรียกเขากับน้องสาวอิ๋งเข้าไปบอกว่า อิ๋งอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงสิ้นปี”

“อิ๋งเป็นมะเร็งรังไข่แล้วลามมาที่ปอดกับต่อมน้ำเหลือง เป็นมา 3 ปีแล้วค่ะ ไปหาหมอทุกเดือน หมอบอกกับทุกคนว่าอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ ไม่ได้จัดการให้รีบทำซะ เพราะไม่รู้ว่าจะไปวันไหน เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว อิ๋งช็อกคีโม อิ๋งตายไปแล้ว ความดันต่ำตกมาอยู่ที่ 70 อิ๋งไม่รู้เรื่องอะไรตายไปแล้ว เขาปั๊มช็อตอิ๋งขึ้นมา ให้อิ๋งตื่นขึ้นมาพบกับความจริงวันนี้ว่า คนที่อยู่ข้างๆ เราไม่ซื่อสัตย์ อิ๋งไม่สมควรตื่นมาเลย ไม่ควรตื่นมารับรู้ความชั่วช้าของคนๆ นี้ (ร้องไห้)”

หลังจากนี้วางแผนชีวิตตัวเองยังไง? “ถ้าไม่ตายก็ต้องเดินต่อ อิ๋งคงไม่ฆ่าตัวตายหรอก ขอให้ตายเองหมดลมหายใจไปเอง ถ้าอิ๋งไม่ตื่นก็จบแค่นั้นแหละ เขากับผู้หญิงของเขา เหมือนมะเร็งร้ายที่มาเกาะกินชีวิตเรามานานเหลือเกิน อยากได้สมบัติเรานักใช่ไหม”

“หมอส่งจิตเวชมาดูแลกลัวอิ๋งฆ่าตัวตาย อิ๋งยังไม่คิดฆ่าตัวตาย ก็ต้องการรักษาต่อ ไม่ได้ทิ้งเรื่องการรักษา เขาไม่มีค่าพอที่จะทำให้ชีวิตเราแย่ไปมากกว่านี้ได้อีก”

“อิ๋งไม่ดีตรงไหน ทำไมทำกับอิ๋งแบบนี้ เขาคงไม่อ่านไม่สนใจอะไรเพราะเขาไม่เล่นโซเชี่ยล ชีวิตนี้ชาตินี้อย่ากลับมาเจอกันอีกเลย ทุกภพทุกชาติ ขอให้จบกันแค่ชาตินี้ชาติสุดท้าย กับผู้หญิงคนนั้นขอให้ครองคู่มีความสุขกันสมใจ ไม่ต้องมาคอยสมบัติเรา ให้เขาหากันเอง เริ่มต้นชีวิตใหม่กันเอง อิ๋งไม่ใช่ตู้เอทีเอ็มธนาคารที่จะให้เขามากดเงินเอาไปใช้บำรุงบำเรอความสุขกัน”

“อิ๋งถามตัวเองเสมอ อิ๋งตื่นขึ้นมาเจอเรื่องราวร้ายๆ แบบนี้ทำไม ฟื้นขึ้นมาทำไม ทำไมสวรรค์ไม่ปล่อยให้อิ๋งหลับแล้วไม่ต้องตื่นอีกอย่างเมื่อวันนั้น หมอให้ตื่นขึ้นมาอีกทำไม ให้มามีชีวิตรับรู้เรื่องความทุกข์วันนี้ อิ๋งไม่ฆ่าตัวตายหรอก บาปกรรมในชาตินี้มันก็เยอะพอแล้ว อิ๋งจะไม่ไปเพิ่มผลกรรมของพี่ในชาติหน้า อิ๋งไม่เหลือพ่อไม่เหลือแม่ ทุกวันนี้อยู่ตัวคนเดียว ใช้ชีวิตแบบโดดเดี่ยวที่สุด”

“อิ๋งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสักกี่วัน อิ๋งไม่อยากตื่นมารับรู้ความจริงว่าชีวิตมันบัดซบขนาดนี้ ถามว่าใครโชคร้ายเหมือนอิ๋งบ้าง เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แล้วยังต้องมาเจอผู้หญิงโทรศัพท์เข้ามาทำร้ายครอบครัวจนไม่เหลืออะไรเลย”