วันที่ 26 ธ.ค. ที่ อาคารเจเคเอ็น แกลเลอรี่ ศาลายา จัดเปิดอาคาร “JKN Gallery Salaya The Arts Of Inspirational WorK Space” ซึ่งมีหัวเรือใหญ่ ‘แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ กรรมการผู้จัดการบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด(มหาชน) เป็นคนเปิดงาน พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกงานในครั้งนี้ รับเคยกังวลภาพลักษณ์สาวประเภทสองเป็นผู้บริหาร-กลับเป็นจุดขาย เผยขอสวยเหมือน ‘ใหม่-ดาวิกา’ ปีหน้างัดทำสวยตั้งแต่คอยันเท้า ประกาศตัวพร้อมมีสามีอย่างเป็นทางการ
โดย แอน เผยว่า “เรากำลังสร้าง JKN แกลอรี่ ศาลายา ที่ในอนาคตต่อไปจะเป็นปฎิมากรรมของชาติ ภายใต้คอนเซ็ปต์ หิมพานต์ forest ตอนนี้สร้างไป 2 ตึกแล้ว ยังเหลืออีก 2 ตึก ลงทุนไปทั้งสิ้นพันกว่าล้าน เป็นการรวมตัวของเหล่าทวยเทพและความเชื่อของสัตว์ในวรรณคดี คอนเซ็ปต์ตรงนี้ยังไม่มีในประเทศไทยมาก่อนแล้วมันก็ตรงกับความเป็น JKN ของเรา ที่ขายคอนเทนต์อินเดียและรากเหง้าประเทศไทย เป็นที่รวมจุดกำเนิดทางวรรณกรรม เรื่องราวของศิลปะวัฒนธรรมบนละคร บนแผ่นฟิล์ม ก็เหมือนการเอาคอนเทนต์ของเรามาต่อยอดนี่แหละ มันเป็นทั้งความมงคลและตอบโจทย์การทำธุรกิจของเราเองด้วย”
“เรามีภาพวาดและรูปปั้นของเหล่าเทพเยอะมากๆจากทั่วโลก แต่จะเป็นไปทางอินเดียเยอะเพราะเราเดินทางไปบ่อย ก็จะมารวมตัวกันที่แกลอรี่ของเรา แล้วก็จะมีหล่อปั้นเองด้วย ภายในพื้นที่15 ไร่ เราจะเปิดให้ทัวร์มาเยี่ยมชม มีช็อปปิ้งมอลล์ 24 ชั่วโมง เราก็ติดต่อกับทัวร์ตามที่ต่างๆ ไว้แล้ว เพราะตรงนี้ของเราคือความภาคภูมิใจของชาติ เป็นศูนย์รวมองความเป็นไทยไปสู่ทั่วโลก และคอนเทนต์โลกมาสู่เมืองไทย ค่าเข้าชมกำลังคิดอยู่ว่าจะเก็บหรือไม่เก็บดี ยังไม่ได้คิดตรงนั้น ต้องรอดูอีก3ปี”
ปีนี้ดูเป็นปีทองของJKN
“ใช่มากๆ เลย เราหยิบจับอะไรก็ขายดิบขายดีไปหมด คือเราไม่มีของเหลือในมือเลยเพราะขายได้หมดทุกอย่าง ขายอะไรก็ดี ทำอะไรก็ดีไปหมด ชีวิตเปลี่ยนมากๆ เลยปีนี้ มหามงคลเหลือเกิน ขาดอยู่อย่างเดียวคือไม่มีสามี อย่างอื่นดีหมด หมอดูก็บอกแต่ว่าให้ดูใจไปเรื่อยๆ (หัวเราะ)”
เราเป็นสาวประเภท 2 อย่างนี้มันขัดกับความน่าเชื่อถือในความเป็นผู้บริหารมั้ย
“ตอนแรกเรากลัวมากเลยนะ แต่พอถึงคราวจริงๆ ไม่กระทบ ลูกค้ากลับชอบด้วยซ้ำ เพราะสมัยนี้เขาวัดกันที่ผลงาน เพราะผลงานเราดีคนก็มองข้ามผ่าน ซึ่งความเป็นเราแบบนี้มันกลับกลายเป็นจุดขายด้วยซ้ำ กลายเป็นจุดเด่น เรามีสมอง ผลงานของเราทำให้คนมองข้ามตรงนี้เราไปและกับให้เกียรติเรามากๆ ด้วย ด้วยความที่มันคุยกันในสเกลหลายพันล้าน”
“15ปีที่ผ่านมาหลังจากที่เราไปเรียนเมืองนอกแล้วกลับมาประเทศไทย เราเป็นผู้ชายมาตลอด เพราะเราต้องเก็บความเป็นจริงของตัวเราไว้ เราก็ไม่กล้า เรามาเปิดตอนที่เราพร้อม ตอนที่เรามีฐานะ มีเงินเป็นพันล้าน แต่กว่าแม่จะรับได้ก็ 3 ปีเลยนะ ไม่คุยกันเลย นี่กำลังจะย้ายกลับเข้าบ้าน ย้ายออกจากคฤหาสน์ก็กำลังจะกลับไปคฤหาสน์ทรายทองเหมือนเดิม(หัวเราะ) คือเราต่อสู้เพื่อให้คนยอมรับเรา เราไม่เถียงนะ เราไม่เคยไปด่าใครกลับถ้าเขาไม่ยอมรับเรา กลับขอบคุณเขาที่ให้วิชาชีวิตว่าเปลี่ยนแรงกดดันให้เป็นแรงผลักดันซะเพื่อให้เราได้พิสูจน์ตัวเอง เราดีเขาก็เงียบ ถ้าเขายิ่งพูดไม่ดีกับเราในอดีตเขาเสียหน้าเอง เราไม่ต้องไปเสียเวลากับโลกใบเล็ก เราดูโลกไปใหญ่ดีกว่า มองให้กว้างๆ เดินทางจุดเดิมไปสู่สังคมที่ดีและใหญ่กว่า เราพิสูจน์ตัวเอง”
ที่บอกว่าเป็นจุดดีด้วยซ้ำคือยังไง
“คือคนเรามันต้องหาจุดแปลกที่แตกต่าง ไม่อย่างนั้นการตลาดจะจำเราได้เหรอ เดินมาก็ผู้ชายคนนึงใส่สูท ผูกไท เดินมาผู้หญิงคนนึงก็แต่งตัวเรียบร้อย มันก็ไม่มันส์สิ แล้วเราขายละคร เหมือนเอ ศุภชัยขายศิลปินก็ต้องมีคาแรคเตอร์ให้คนจดจำ คือเดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนมีแต่คนจ้องจะถ่ายรูปเรา เดี๊ยวนี้ไปกินข้าวต้องหาที่หลบไปกิน แต่มันก็ช่วยทางการค้าเราไปเลยนะ มันทำให้เราเป็นที่จดจำและยอมรับเรา เราขายละครถ้าไม่ใช่ผู้หญิงข้ามเพราะเราว่าขายไม่มันส์ ถ้าชายจริงหญิงจริงขายแล้วมันทื่อๆ ไม่สนุก ผู้หญิงก็ออกจริตไม่ได้เท่าเรา เรามันปี๊ดป๊าดได้ สุดเหวี่ยงได้ คนฟังก็มันส์ดี แต่บอกเลยว่าตอนแรกโคตรยาก ต้องขอบคุณเกาหลีมากๆ ที่เปลี่ยนหน้าให้แอน ทำให้เราสวยได้ขนาดนี้”
มีคนบอกว่าเราสวยเหมือนบุ๊คโก๊ะตอนนี้
“ถ้าสวยเหมือนบุ๊คโก๊ะขอกลับไปหน้าเหมือนเดิมดีกว่า(หัวเราะ) เราก็สวยด้วยกันมาตั้งแต่แรกๆ แอนเองเป็นคนพาบุ๊คโก๊ะไปทำมาเองในช่วงแรกๆ แอนขอสวยแบบใหม่-ดาวิกาได้มั้ยอ่ะ ทำไมช่างแต่งหน้าโกหกแอน เขาบอกว่าแอนหน้าเหมือนใหม่-ดาวิกามาโดยตลอด ตอนทำสวยเอารูปใหม่ ให้หมอดู หมอยังไม่ทันดูเลย 3วินาที เอารูปวางคว่ำ คงคิดในใจว่าหนังหน้าอย่างแกคงจะได้หรอก(หัวเราะ)”
มีแพลนจะทำอะไรเพิ่มอีก
“ตั้งแต่คอยันเท้าปีหน้าจะเปลี่ยนใหม่หมดเลย จะทำหมดทุกอย่าง แม้กระทั้งรีแพร์ด้วย(หัวเราะ) ยังไม่ทันใช้ก็รีแพร์แล้ว เราเป็นกระทิงข้ามเพศ อึดถึกสู้เต็มที่เพราะปีหน้าเราจะพร้อมมีผัวอย่างเป็นทางการ คือตอนนี้ไม่เป็นทางการมันเยอะมากแล้วไง อยากได้แบบทางการ ก็จะไปทำนมที่เกาหลี ขอคัพดี ไปวัดมาแล้วขอไซต์ 40 ก็ใหญ่ แต่ว่าเหมาะกับตัวเราเพราะว่าเราเป็นคนโครงใหญ่ ส่วนจิมิกำลังคิดอยู่ว่าจะทำที่ไหน ทำเสร็จเราก็จะเป็นผู้หญิง 100 เปอร์เซ็นต์เต็มที่แล้ว ประกาศได้เลยว่าน้องๆ ผู้ชายทั้งหลาย ถ้าต้องการการอุปการะคุณก็บอกมา แม่พร้อมมากแล้ว ตอนนี้แม่โคตรพร้อมบอกเลย ลูกๆ พร้อมมั้ยเท่านั้นเอง”
