แตงโม ภูมิใจ คว้าปริญญาตรี หวังนำความรู้ ช่วยสังคม เผย ไม่มีใครแก่เกินเรียน

แตงโม ภูมิใจ คว้าปริญญาตรี – เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 65 ที่มหาวิทยาลัยรังสิต ได้มีพิธีประสาทปริญญา ประจำปี 2564 โดยมีนักแสดงสาว “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะสาขาวิชาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง (ผู้นำนักบริหารกิจการเพื่อสังคม : Ex-LSE) วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม

ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.41 ซึ่งก่อนหน้าเจ้าตัวหยุดเรียนไปหลายปีเนื่องจากทุ่มเทในการทำงานวงการบันเทิง แล้วกลับมาเรียนใหม่อีกครั้งจนใช้สำเร็จการศึกษา ในวัย 37 ใช้เวลาเรียนเพียง 2 ปี

โดย แตงโม เผยว่า “จบสักที โมเรียน 2 ปีค่ะ ก่อนหน้านี้เราอยู่ในวงการบันเทิง ทำงานในวงการเต็มตัว จะมีช่วงที่เรียน Nursing Assistant (NA จบไปใบหนึ่งแต่คนก็ไม่ค่อยได้สนใจข่าวดีๆ สักเท่าไหร่ คนก็เลยคิดว่ายังไม่ได้จบการศึกษาอะไร

เป้าหมายอยากจบปริญญาตรีให้คุณพ่อ?จริงๆ อยากเรียนจบปริญญาตรีให้คุณพ่อ แต่ว่าโทกับเอก อยากทำให้ตัวเอง ตอนนี้เราเรียนจบป.ตรีแล้ว จะต้องรับตั้งแต่ ส.ค. 64 ปีที่แล้ว แต่ด้วยโควิดก็เลยต้องรับล่าช้า แต่ตอนนี้เรียนป.โท มาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว เรียนสาขาเดิมเหมือนปริญญาตรี

การเรียนในยุคโควิดที่ผ่านมา? “โมยังโชคดีโมได้เรียนในช่วงที่โควิดยังไม่ได้ระบาดมาก เรายังมาที่มหาลัยได้บ้าง มีแค่ช่วง 2-3 เดือนหลังที่เราต้องเรียนอยู่ที่บ้าน อาจจะลำบากตรงการรวมกลุ่มทำงานอาจจะได้น้อยลง ใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆ ในการประชุมมาช่วยเยอะหน่อย เราก็ได้เรียนรู้ในอีกแบบหนึ่ง”

การใช้เทคโนโลยีสำหรับเจนเราเป็นอุปสรรคไหม? “โมว่าเป็นอะไรที่ห้ามคิดว่ามันเป็นอุปสรรคแล้วมองข้าม เพราะว่าเด็กสมัยใหม่เขาใช้แบบนั้นกัน ถ้าเกิดเราไม่ใช้สิ่งเหล่านี้ให้กลายเป็นว่าลูกหลานจะต้องมานั่งสอนเราอีกทีหนึ่ง”

ไม่แก่เกินเรียน?ไม่มีใครแก่เกินเรียนจริงๆ เพราะคำว่าเรียนมันทั้งในและนอกห้องเรียนอยู่แล้ว ในเมื่อนอกห้องเรียนเรายังเรียนรู้ตลอดชีวิตได้ เพราะฉะนั้นในห้องเรียนก็เหมือนกันค่ะ ไม่ว่าอยู่ตรงไหนก็ตาม”

สาขาที่เรียนต่อยอดอะไรในอนาคตได้บ้าง? “ก็ตรงตามสาขา ใครถามว่าเรียนอะไรก็คือ นวัตกรรมสังคมผู้นำสังคมและการเมือง ก็ทำประโยชน์เพื่อสังคมและการเมืองค่ะ

หลังจากนี้จะได้เห็นเราทำเพื่อสังคมอยู่เรื่อยๆ? “จริงๆ เราทำมาตลอดอยู่แล้ว แต่คนไม่ค่อยดูกันหรอกค่ะ โมก็แค่นำสิ่งที่ได้เรียนมาบวกกับสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วให้มีน้ำหนักมีทางเป็นไปได้มากขึ้นที่เราจะทำโปรเจ็กต์ของเราเองได้มากขึ้นค่ะ”

งานสังคมที่สนใจเป็นหลัก อยากทำเพื่อพัฒนาสังคม? “ที่ทำเป็นหลัก โมเลี้ยงลูกมาหลายเจนแล้ว จนเขาจบปริญญา มีครอบครัว โมยังทำมาอยู่เรื่อยๆ ปีหนึ่งโมไม่ได้เลี้ยงแค่คนเดียว ถึงแม้เราจะเอาตัวแทบไม่รอด แต่เราก็มีเด็กในอุปการะ ในส่วนสังคมโมยังรับเป็นวิทยากร การแนะแนวทางใช้ชีวิตในเรื่องซึมเศร้าอยู่ค่ะ

มีใครเป็นแบบอย่างต้นแบบในการพัฒนาสังคมไหม? “ต้นแบบในการพัฒนาสังคม เป็นพระเยซูค่ะ เพราะว่าอย่างที่ทุกคนรู้ คริสเตียนพระเจ้าส่งพระเยซูมาล้างบาปแทนคนทั้งโลก เพราะฉะนั้นคนทั้งโลก คืองานสังคมชุดใหญ่แล้วเหมือนกัน ถ้าโมทำอะไรได้โมก็อยากให้ครั้งหนึ่งมันได้เยอะที่สุด มันจะได้ประโยชน์มากที่สุดค่ะ”

วางแผนปูทางเป็นนักการเมืองด้วยไหม?วันนี้ไม่น่า วันหน้าไม่แน่ค่ะ ต้องดูก่อนค่ะว่าตัวเราเองมีบทบาทกับประเทศชาติได้มากแค่ไหน ถ้าเกิดว่าเราเป็นแค่เสียงเล็กๆ เราก็ควรจะเริ่มต้นเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปก่อน

วันหนึ่งที่เรามีสิทธิ์มีเสียงเราอาจจะเอาใช้ตรงนั้นช่วยแก้ปัญหา แต่ ณ เวลานี้เราทำอะไรได้เล็กๆ น้อยๆ พี่ๆ ในวงการที่ทำเพื่อสังคม เขาไม่จำเป็นต้องมีพรรค แต่เขามีใจจิตอาสาที่จะทำ เขาก็สามารถทำได้อย่างพี่ได๋ ไดอาน่า

ไม่ได้เป็นนักการเมือง เป็นส.ส.? “อันนั้นมันยังระบุไม่ได้อยู่แล้ว เพราะว่าประสบการณ์ไม่มีค่ะ”

เอาปริญญาไปให้คุณแม่?ใบปริญญาเอาจริงๆ มันแค่ใบประกอบแค่นั้นเองว่าเธอจบปริญญาแล้วนะ โมไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่ากับการที่ว่าโมมาเรียนแล้วได้วิชากลับไปในตัว มันรีเทิร์นแล้วรู้สึกดีค่ะ ใบปริญญาก็เลยไม่ได้วางแผนว่าจะเอาไปให้ใคร ใครอยากได้เดี๋ยวให้ คุณแม่อาจจะอยากได้”

อยากบอกพ่ออะไรไหม?คุณพ่อรู้หมดแล้วค่ะ เพราะว่าช่วงที่เรียนอยู่ที่นี่มีกิจกรรมไปต่างประเทศ ไปต่างจังหวัด คุณพ่อไปด้วยตลอด คุณพ่อจะสนิทกับอาจารย์ที่นี่ทุกคนเลยค่ะ โมว่าคุณพ่อมองลงมาก็ปรบมือให้เรา สักที ไม่เสียดายเลยที่คุณพ่อไม่เห็นในวันนี้”

พี่เบิร์ด แฟนให้ของขวัญอะไร?น่าจะเป็นคำอวยพรแหละ และให้เชื่อมั่น มั่นใจว่าเราทำได้ และสามารถที่จะทำต่อไปได้อีก แต่ถามว่าของขวัญให้ตัวเอง สำหรับการเรียนจบ 3.41 มันก็คือของขวัญแล้วล่ะ เพราะว่าไม่ได้มาเล่นๆ

ถ่ายรูปเซ็กซี่ หุ่นกลับมาแซ่บเหมือนเดิมแล้ว? “ก็เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดค่ะ อย่างที่เห็นว่าผลตอบรับมันก็จะดีถ้าเราเป็นตัวของตัวเอง โมคิดว่าโมมีอายุมากระดับหนึ่งแล้วนะ ลูกก็มี เรียนก็จบแล้ว ทำอะไรก็ได้แล้วล่ะ แล้วคุณแม่ชอบมาก คือโมลดลงไปแค่ 3 โล อาจจะเห็นว่ารูปร่างมันลงเยอะ จากไขมันเป็นกล้ามเนื้อ”

 

ลดน้ำหนักลง 3 โล มีโปรเจ็กต์อะไรหรือเปล่า? “จริงๆ มันไม่ได้มีโปรเจ็กต์อะไรนะ เพียงแต่มันเล่นละครไม่ได้ ออกกล้องไม่ได้ ผู้ใหญ่ก็ติงมาบอกว่าก่อนเปิดกล้องขอลงสัก 3 โลเป็นอย่างต่ำได้ไหม ช่วงแรกๆ ไปถ่ายก็ยังทำไม่ได้ ชุดยังแน่น สักพักก็ใช้เวลานิดนึง สรุปก็ลดใน 3-4 เดือน

เราก็ควบคุมอาหาร ทานผักเยอะๆ ทานกับข้าวเยอะๆ แต่ข้าวแป้งน้ำตาลลดลงไปให้น้อยที่สุด น้ำอัดลมพยายามให้เหลือน้อยที่สุด ทานให้ชุ่มชื่นหัวใจไปวันๆ อย่าไปทานน้ำอัดลมตลอดเวลา จะลดอีกไหมเหรอ ในตัวเลขน้ำหนักยังไม่ค่อยโอเคเลยนะ แต่ว่าหุ่นตอนนี้ถ้าลดลงไปกว่านี้น่าจะติดยาแล้วล่ะ คนมันจะทักว่าเป็นอะไร”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน