หมอเจี๊ยบ โพสต์ฟาดปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้เกี่ยวกับระบบการจราจรของไทย อ่านแล้วจุกอกมาก จริงทุกบรรทัด หลังจากเกิดเหตุการณ์เพื่อนรัก “หมอกระต่าย” เสียชีวิต
นับเป็นเรื่องเศร้าของวงการจักษุแพทย์ ต่อการสูญเสียครั้งสำคัญของบุคลากรดีๆ อย่าง “หมอกระต่าย” หรือ “พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล” จักษุแพทย์อนาคตไกล ซึ่งจบแพทย์เฉพาะทางถึง 2 สาขาที่ขาดแคลน ทั้งสาขาจอตาและสาขาม่านตาอักเสบ ก่อนจะถูกผู้ขี่จักรยานยนต์บิ๊กไบก์ชนเสียชีวิต ในระหว่างเดินข้ามทางม้าลาย เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา
ในขณะที่ หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินท์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับ หมอกระต่าย ได้โพสต์รูปคู่กัน พร้อมข้อความอาลัย ระบุว่า “รักแกเสมอและตลอดไป ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันจนแก่กะโหลกกะลา แต่เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
ล่าสุด (25 ม.ค.65) หมอเจี๊ยบ ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวอีกครั้ง หลังเพื่อนรัก “หมอกระต่าย” เสียชีวิตในระหว่างเดินข้ามทางม้าลาย
โดยโพสต์ภาพที่มีข้อความว่า “ต้องใหญ่โตถึงระดับไหน? ถึงจะเปลี่ยนแปลงการคมนาคมขนส่งและการจราจรในบ้านเมืองนี้ได้ ในเมื่อทุกคนเห็นและรับปัญหาเหมือนกัน
แถมพูดถึงในเรื่องของ ทางเท้า ทางจักรยานต่างๆที่ไม่ปลอดภัยและใช้งานไม่ได้จริง , ทางม้าลายที่มีไว้ให้รถไปก่อน , ไฟทางสวยงามทั่วประเทศต้องติดให้เยอะๆ เพราะใช้งานจริงมันจะติดบ้างไม่ติดบ้าง , ทางกลับรถบนถนนใหญ่สายหลักในจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำบ่อยๆ เลยต้องเอาแบริเออร์มากั้นปิดตาย , ใช้งบไปแก้ซ่อมทางรายปีที่ยังไม่ทันพังก็ซ่อมวนไปทั้งปี
ป้าย “ง่วงไม่ขับ” “ง่วงจอดพัก” เต็มถนนสายหลักแต่ไม่มีจุดปลอดภัยที่ให้จอดได้ , ป้ายจำกัดความเร็วและป้ายบังคับต่างๆที่ขัดกันเอง , คนจอดรถกันตรงที่ห้ามจอด หรือ ไม่ควรจอด , รถเมล์จอดรับส่งผู้โดยสารที่เลนส์กลางและบางทีไม่ต้องหยุดสนิท วิ่งชะลอให้คนวิ่งตาม , ขนส่งมวลชนที่ขาดแคลนทั้งปริมาณและคุณภาพ , ปัญหามอเตอร์ไซค์และ taxi เกลือนเมือง
รวมถึง ส่วนที่คิดว่าพอจะสะดวก BTS/MRT ก็ปรับราคาโครตแพงไปเรื่อยๆจนคนไม่ไหว , ขนส่งมวลชนระบบรางของประเทศที่ห่วย เลยต้องใช้รถพ่วงวิ่งขนส่งเกลื่อนเมือง , รถเก่าๆรุ่นที่เคยเห็นก็ยังต่อ พรบ. ได้ออกมาวิ่งกันปกติ , คนโดยสารรถส่วนตัวอย่างไม่ปลอดภัย , คนขี่มอเตอร์ไซค์ก็ยังไม่ใส่หมวกกันน๊อค , ใบรับรองแพทย์ไปออกใบขับขี่ที่แทบจะอะไรก็ได้หมด และอายุเท่าไรก็ขับรถได้ พร้อมทิ้งท้ายว่า ลองมองรอบตัวว่ามีใครไม่เคยสูญเสียคนที่รักจากระบบการจราจรของไทย คงจะไม่มี
นอกจากนี้ หมอเจี๊ยบ โพสต์ข้อความอีกว่า “ไม่อยากเรียกว่าเกิดอุบัติเหตุ เพราะการเรียกว่าอุบัติเหตุจะถือว่ามันป้องกันไม่ได้ ส่วนตัวคำว่า จิตสำนึก ก็ซื้อส่วนหนึ่งแต่ไม่ทั้งหมดซะทีเดียว เพราะจริงๆคนในประเทศที่เค้าพัฒนาแล้ว ไม่ได้มีจิตสำนึกเหมือนกันหมดทุกคน
แต่เค้ากลัวกฎหมาย และบทลงโทษที่รุนแรง จึงไม่กล้าทำผิดและปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด การแก้ปัญหาที่เป็นไปได้จริงภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องเริ่มต้นมาจากที่โครงสร้าง ไม่ใช่ด้วยการแค่หวังว่าให้มนุษย์แต่ละคนจะมีจิตสำนึกกันเอง #ส่งหมอกระต่าย #RIPKT #อยากให้เป็นจุดเปลี่ยนประเทศไทย”
ขอบคุณอินสตาแกรม jeab_lalana
หมอเจี๊ยบ โพสต์ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ อ่านแล้วจริงทุกบรรทัด หลังเกิดปมหมอกระต่าย
หมอเจี๊ยบ โพสต์ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ อ่านแล้วจุกอก จริงทุกบรรทัด หลังเกิดปม
