ชูชัย ไม่ได้แฉพระเอกดัง แค่เตือนต้องมีความรับผิดชอบ

หลังจากที่โพสต์คลิปพูดถึงวีรกรรมของพระเอกดัง ชูชัย ชัยฤทธิเลิศ เจ้าของแบรนด์เพชรชื่อดัง ยืนยันชัดเชนว่าไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียด แต่ที่ออกมาพูดถึงพระเอกดัง ที่มีข่าวอยู่ตอนนี้ เพราะแค่อยากสอนในฐานะผู้ใหญ่ และเคยร่วมงานด้วย ทั้งนี้ไฮโซชื่อดัง ได้เปิดใจกับ ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า

“เบื้องต้นตอนที่ได้ยินข่าว มันทำให้เราย้อนกลับไปคิดถึงตอนที่เราจ้างงานเขา แล้วพี่คิดว่าจริง อันนี้เบื้องต้นนะ เพราะว่าตอนที่ติดต่องานไปก็ลักษณะนี้ เขามีข้อแม้ว่าถ้ามีการสัมภาษณ์ต้องแยก ห้ามประกบคู่เด็ดขาด กับแอน ทองประสม พี่ก็งงว่าเป็นเพราะอะไร แต่ใจเราคิดว่าเป็นเพราะอยู่กันคนละช่องหรือเปล่า นั้นแยกก็แยก แต่พอเดินแบบเสร็จปุ๊บก็กลับเลย แม้แต่ลาพี่ยังไม่มีเลยนะ หายไปเลย

ทีนี้การหายไปเลย มันก็ควรมีการโทรกลับมานิดนึง ว่าขอโทษนะครับผมติดธุระ ผมต้องรีบไปถ่ายแบบ ถ่ายละคร มันควรจะเป็นแบบนี้ไม่ใช่หายไปเลย มันเหมือนกับเราจ้างมาไม่ค่อยได้อะไร มันเหมือนมาเดินแบบ

เราต้องการให้เขามายืนตรงแบ็กดรอป มันจะมีโลโก้เรา และก็สัมภาษณ์ จะทำให้คนรู้จักในแบรนด์เรายิ่งขึ้น พูดง่ายๆ แอน ทองประสม และทุกคนรอได้ครึ่งชั่วโมง น่ารักมาก สมกับเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการ แต่เวียร์ไปเลย

พี่เป็นคนที่เข้าใจคน เขาอาจจะติดธุระ เขาอาจจะถ่ายแบบหรือเขาอาจจะใครป่วย หรือไปหาแฟน อ่ะช่างมันเถอะมันผ่านไปแล้วจบ แต่ก็จะรู้สึกว่าเราไม่เคยเจอแบบนี้เลยในชีวิต ตั้งแต่จ้างนายแบบหรือดารามา ไม่มีเคสนี้ คนนี้เป็นคนแรก พอมีข่าวนี้ออกมาก็รู้สึกว่ามันคงจะจริง แล้วพี่ก็เชื่อว่าตอนนี้ก็จริงนะจ๊ะ”

ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับเขามาก่อนไหม? “ครั้งแรกเลย คืองานของพี่ เขาเรียก เจมส์ออฟโทรน ก็เอานางเอกช่อง 3 ที่ยิ่งใหญ่ ดาราชายช่อง 7 ที่ยิ่งใหญ่ พูดง่ายๆ เอาตัวพ่อตัวแม่มาประชันกัน ตัวแม่ให้ความร่วมมือดีมาก ตัวพ่อไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี เขาเดินแบบจบ แต่เขาไม่สัมภาษณ์ เวลาทำงานเขารับตังค์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เขาทำงานเราอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ พี่ก็รู้สึกไม่ดี”

ตอนที่ดีลงานมาได้แจ้งเขาก่อนหรือเปล่าว่าต้องสัมภาษณ์หลังงาน? “ตกลงแล้วว่าต้องสัมภาษณ์ โดยที่เขายังบอกเลยว่า เขาจะสัมภาษณ์ให้ แต่ขอแยกเดี่ยวไม่รวมกับใคร ซึ่งเราก็โอเค แต่พอถึงเวลาจริงๆ ปุ๊บ ไม่รู้ไปไหน เผ่นไปเลย งงมาก”

เรียกว่าโกรธกันไปเลย? “ไม่ได้เกลียดหรืออะไร เข้าใจ เพราะว่าพี่เป็นคนปฏิบัติธรรม พระท่านว่าถ้าเราเข้าใจเราจะไม่เสียใจ พี่ก็พยายามเข้าใจ อาจจะติดแฟน อาจจะต้องไปถ่ายละคร หรือว่าไปอีเวนต์ใหม่อะไรอยางนี้มั้ง แต่อย่างน้อยก็ควรโทรมาหาเรานิดหนึ่ง ว่าพี่ขอโทษนะครับผมติดธุระ ถ้าเขาไม่ว่างก็ให้ผู้จัดการโทรมา แต่นี่เงียบเป็นเป่าสากไปเลย”

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่? “3 ปีแล้วนะ ก่อนโควิด คือที่ออกมาพูดไม่ใช่ว่าเชิงระบาย พอดีมีประเด็นมา แล้วก็มีคนที่อยู่ในเหตุการณ์เมื่อ 3 ปีก่อน โทรมาบอกว่าเธอรู้เรื่องเวียร์ไหม เราก็ตอบว่าไม่รู้เรื่อง

เขาบอกว่านี่เขาทำอย่างนี้ เธอจำได้ไหม ที่พวกเราเม้าธ์กันว่าทำไมอีตานี่รีบเผ่นไปเลย พี่มีความเห็นอย่างไร พี่ออกมาพูดนิดนึง คนจะได้รู้ประมาณนี้ พี่ไม่ใช่คนที่จะมาหาเรื่องอะไร แต่เพื่อนๆ รักพี่ พี่ควรมาพูดนิดหนึ่ง อย่างน้อยจะทำให้เป็นตัวอย่างรุ่นหลังดูว่าอย่าทำอย่างนี้อีก ความดังมันเกิดจากสื่อ ทุกอย่างเกื้อกัน

ถ้าไม่มีสื่อก็ไม่ดัง แต่ถ้าสื่อไม่มีดาราก็ไม่มีข่าวเขียน พี่บอกเสมอว่าถ้าอะไรที่วินทั้งคู่เราต้องทำ อะไรวินเขา ไม่วินเราอย่าทำ อะไรวินเราไม่วินเขาก็อย่าทำ อะไรที่ไม่วินทั้งคู่ ยิ่งไม่ต้องทำ อะไรที่วินทั้งคู่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะทุกคนแฮปปี้

อย่างน้องนักข่าวรอบนี้ไม่วิน ส่วนเวียร์ก็ไม่วิน จริงๆ มันไม่มีอะไรนะ ประโยคที่เขาพูด คำว่าเหี้- จังเลย 4-5 พยางค์ เปลี่ยนเป็นพูดว่า โทษนะพี่ไม่ว่างนะเที่ยวนี้ ค่อยเที่ยวหน้า ทำไมไม่พูดคำนี้จบเลย น้องก็เข้าใจ

ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดประเด็นแบบนี้ พี่เข้าใจว่าน้องก็เสียใจนะ พี่อยู่ในวงการนี้ ถ้ามีใครคนนึงที่เราไม่รู้จัก อยู่ดีๆ มาด่าเราอีไฮโซจอมปลอม สมมตินะ เจ็บนะ ต่อให้คนนั้นเราไม่รู้จัก ไม่ใช่ดาราดัง พี่เสียใจ และคิดว่าทำไมอยู่ดีๆ มาด่าฉัน แต่นี่ดาราท็อปตัวพ่อมาด่าน้องนักข่าว น้องย่อมเสียใจ

ตอนหลังน้องนักข่าวก็ออกมาขอโทษ เพราะว่ามีคนแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ว่าน้องมาสร้างกระแส พี่เชื่อว่าน้องไม่ทำหรอก เขาจะสร้างกระแสไปเพื่ออะไร แต่มันเป็นประเด็นที่คนคิดไม่ถึงมากกว่า เวียร์ก็เสียหาย น้องก็เสียหาย พี่เชื่อในเวรกรรม อะไรที่เราเบียดเบียนคน หรือเบียดเบียนใจคนมันจะมีผล

แต่ทางฝ่ายนักแสดงเขาก็บอกว่าเขาไม่ได้พูดคำนั้น? “เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เราไม่สามารถไปตัดสินได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่พี่คิดว่าคนมันจะหูแว่วได้ถึง 2 ครั้งเหรอ แต่ไม่อยากคอมเมนต์ มันเป็นได้ทุกอย่าง มันมีหลักฐานยืนยันไหม ถ้ามีหลักฐานก็เอาออกมายืนยัน

แต่พี่ว่าน้องนักข่าวเขาออกมาขอโทษแล้วก็คงจบแล้วล่ะ น้องเขาก็ไม่ได้อยากจะดังด้วยกระแสตัวนี้ เช่นเดียวกับพี่ ไม่ใช่ว่าออกมาพูดเพื่อว่าพี่ต้องมาดัง แต่พี่อยากสอนในฐานะเป็นผู้ใหญ่เป็นไฮโซ เป็นเซเลบ และเคยร่วมงาน ทุกๆ คนเวลาที่จะทำอะไรต้องมีมารยาท และก็มีจรรยาบรรณ เพราะมีเยอะเหลือเกินที่เต้าข่าว

แล้วด่าดาราไปมีชู้ ไปขึ้นคอนโดตอนดึก ซึ่งไม่เป็นจริงอันนั้นก็ผิดจรรยาบรรณ นักข่าวก็ใช่ว่าจะดีหมด ดาราก็มีเป็นความจริงแล้วบิดเบือน เช่น เบนโล คนรับไม่ได้เลย เห็นไหมว่าหายไปจากวงการ แล้วก็มีดาราหลายคนที่เป็นแบบนี้ สื่อก็ไม่เล่นด้วยหลายปี จนบางคนลืมไปแล้วถึงกลับมาใหม่ แต่งานเขาก็หายไปเยอะไม่เหมือนเมื่อก่อน”

กลัวแฟนคลับของเขาจะมาโจมตีเราไหม? “พี่ไม่ได้พูดอะไรไม่ดี พี่พูดความจริง ณ วันนี้พี่ออกมาพูดว่าเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ เพราะว่ามันเป็นความจริง แต่ก็ไม่โกรธ เหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว แต่รู้สึกลึกๆ ว่า เราไม่เคยเจอแบบนี้ เขาอาจจะมีเหตุผลของเขา คนเราเวลาที่เราจ้างคนทำงาน ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องเสียสละ ต้องซื่อสัตย์ 3 อย่างนี้ทำครบไหม

ถ้าทำครบไม่มีปัญหา แต่อันนี้รับผิดชอบไม่เต็มที่ เหมือนกับคำว่าซื่อสัตย์ก็ขาดหายไป ไม่ได้โกรธ เพียงแต่ว่าพอมันมีข่าวมันกระแทกใจพี่ทันทีว่าเหตุการณ์นี้ฉันก็เจอมาเหมือนกัน ไม่ได้โกรธน้องเลยนะ ยังรักน้องเวียร์ สามารถร่วมงานได้นะคะ เพราะทุกอย่างมีเหตุผลหมด”

ขอบคุณรูปจากไอจี : chuchai_c2

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน