ไก่ วรายุฑ เผยความในใจ ‘ต้อย เศรษฐา’ คือการสูญเสียสิ่งมีค่าของวงการบันเทิง

ไก่ วรายุฑ เผยความในใจ / เป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ ‘ต้อย’ เศรษฐา ศิระฉายา และครอบครัวเป็นอย่างมาก สำหรับ ‘ไก่’ วรายุฑ มิลินทจินดา ผู้จัดละครชื่อดัง
ไก่ วรายุฑ เผยความในใจ

เมื่อคืนวันที่ 22 ก.พ. ไก่ วรายุฑ ได้เดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย ที่ ศาลา 1 ศาลาเตชะอิทธิพร วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร สถานที่ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล สวดอภิธรรมคืนที่ 2 ‘ต้อย’ เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติ

ไก่ วรายุฑ ได้เผยความในใจว่า “ตอนที่พี่ต้อยเข้ามาเล่นละคร เราก็ค่อนข้างสนิทกัน มีกลุ่มแชร์ที่เอาไว้พูดคุยสังสรรค์กัน เจอกันทุกเดือน และเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศกัน ก็ทำให้เราเกิดความรัก และสนิทสนมกว่าคนที่ร่วมงานกันเพราะเราได้ไปเที่ยว กินนอนอยู่ด้วยกันเป็นอาทิตย์ๆ”

“เมื่อถามถึงนิสัยใจคอของพี่ต้อย พี่ต้อยตลก สนุกสนาน มองโลกแง่ดี ช่างยิ้ม ช่างคุย สมัยก่อนแรกๆ เราโชว์ตัว แต่เรากับ อูม วิยะดา ก็ขึ้นร้องเพลงกับพี่ต้อย เชื่อไหม วรายุฑกับวิยะดาสามารถทำให้เศรษฐา ล่มได้บนเวที พี่ต้อยบอกไก่ทีหลังฉันจะไม่ร้องกับแก (หัวเราะ)”
ไก่ วรายุฑ เผยความในใจ

อยู่กับพี่ต้อยก็คือมีแต่ความสุขตลอด? “มีแต่เสียงหัวเราะตลอด รอยยิ้ม มีความสุขตลอด” (แต่ ณ วันนี้จะไม่มีอีกแล้ว?) “พี่ต้อยอยู่ในใจ พี่ต้อยเขาอยู่ในเสียงเพลง อยู่ในใจของเราทุกคน โอเคท่านจากเราไปแต่ร่างกาย แต่จิตใจหัวใจเราจะยังอยู่กับพี่ต้อย เราคิดถึงเมื่อไหร่ก็จะดูรูป คิดถึงเมื่อไหร่ก็ฟังเพลง เราก็จะได้ยินเสียงพี่ต้อยอยู่ พี่ต้อยป่วยเป็นอะไรพวกเราก็รู้ ติดตามข่าวตลอด เศร้าใจ เสียใจในสิ่งที่พี่ต้อยป่วย การจากไปทุกคนเสียใจ แต่พี่เขาอยู่ก็คงทรมานไปอีกนาน พี่ต้อยได้ไปที่ดีๆ แล้ว อยู่ต่อก็ทรมานไปอีกตั้งเยอะแยะ เพราะฉะนั้นพวกเราระลึกถึงตลอด เจอหน้าเพื่อนฝูงก็พูดคุยกันแต่เรื่องพี่ต้อย”

ความรู้สึกเขาจากไปแค่ร่างกายเท่านั้น? “ใช่ ไปแค่กาย จิตใจของเขาของเราก็รวมกันอยู่ในความเป็นกลุ่มพี่น้อง” (สิ่งที่ขอยึดเป็นต้นแบบจากพี่ต้อย?) “พี่ต้อยเป็นคนดี เป็นคนจริงใจ ไม่เคยเห็นเขาโกรธใครเลย พี่ต้อยไม่เคยโกรธใครเลยจริงๆ พี่ต้อยเอ็นดูและรักทุกคน ยิ่งน้องๆ ยิ่งใครๆ ใครอยากไปปรึกษาหารือ พี่ต้อยจะให้คำปรึกษาให้ตลอดเวลา”

ถึงเขาจะทุกข์เขาก็ไม่เคยมาเล่าหรือมาระบายให้ใครฟังเลยใช่ไหม? “เขาจะแค่บอกว่าเฮ้ยไก่ พี่ป่วยว่ะ พี่ไม่สบายว่ะ พูดแค่นั้น แต่แกก็มารวมกลุ่ม สนุกสนานกันอยู่” (ได้คุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?) “พี่ต้อยแกเป็นคนชอบเล่นไลน์เหมือนกันนะ เราจะทักกัน นู่นนี่นั่น คุยกันถามกันตลอดเวลา ส่งสติ๊กเกอร์ พูดคุยกันในโทรศัพท์ตลอด จนสุดท้ายอี๊ฟเลยสั่งพ่อเขา ไม่ให้เล่นไลน์ ไม่ต้องตอบใครแล้ว ก็เลยห่างไป แต่เราก็ตามดูอยู่ตลอดเวลา”
ไก่ วรายุฑ เผยความในใจ








Advertisement

เวลาคุยกันได้อัพเดตเรื่องสุขภาพไหม? “ก็ถาม แต่ไม่ได้เจาะลึก แต่เรายังติดต่อกันอยู่ วันนี้พี่อย่างนี้ ก็คือคุยกันประมาณนี้ ไม่ได้เจาะลึก” (เรียกว่าครั้งนี้เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการบันเทิง?) “ใช่ ทั้งวงการบันเทิง วงการเพลง แกเป็นศิลปินที่เป็นศิลปินแห่งชาติ เป็นอะไรที่ทุกคนยอมรับ ทุกคนรัก การสูญเสียพี่ต้อยไป คือการสูญเสียสิ่งมีค่าของวงการบันเทิง แต่ถึงตรงนี้เราก็ต้องทำใจ และเขาก็ยังอยู่กับเราไปตลอด เขาร้องเพลงให้เราฟังเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าเราอยากฟังเพลงเขา”

หลายคนห่วง อาเปี๊ยก ได้มีโอกาสพูดคุยกันยังไงบ้าง? “พี่เปี๊ยกเนี่ย เราห่วงก่อนพี่ต้อยจะป่วย เพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่เปี๊ยกนั่งกินข้าวกันแถวสีลม พี่เปี๊ยกกำลังจะยกช้อนขึ้น แต่ช้อนหลุดมือหล่น ทุกคนตกใจมากเลย อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ไวมากโทรศัพท์ทันที พี่ไก่ พี่หน่อง เอารถตู้ออกไปส่งที่โรงพยาบาลก็ไม่เป็นอะไรมาก ก็อยู่จนมาถึงปัจจุบันนี้ เป็นสโตรกแต่เราถึงโรงพยาบาลก่อน ทุกคนอยู่ด้วยกันตอนนั้น หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขารักกันมากนะ ด้านจิตใจเขาอาจเศร้า อาจจะนิ่งไป แต่เราว่าอี๊ฟเป็นคนตลก เป็นคนสนุก อี๊ฟพูดคุยกับพ่อแม่ได้ทุกเรื่อง เพราะฉะนั้นหลานลูกก็คงจะทำให้พี่เปี๊ยกหายเศร้าได้ ในระยะแรกอาจจะหนักหน่อย แต่ต่อไปก็อาจจะเบาลง”
ไก่ วรายุฑ เผยความในใจ

“พี่ต้อยเป็นบุคคลที่ทุกคนรัก เพื่อนในกลุ่มเรารักและห่วงหาอยู่ตลอดเวลา เวลาเราไปไหนไปเที่ยวกันพี่ต้อยจะสร้างความสนุกสนาน สร้างเสียงหัวเราะให้เราตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปทำบุญที่อินเดีย หรือจะไปที่ไหนก็จะมีเสียงหัวเราะให้ แดดร้อน ฝนตกยังไง ก็ทำให้เรารู้สึกไม่เหนื่อยไม่ร้อน เราจะพยายามคิดอยู่เสมอว่าพี่ต้อยยังอยู่กับเรา ความเสียใจมันก็มี แต่เราต้องทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นพี่ต้อยยังอยู่ในหัวใจของทุกๆ คน ที่รักและคิดถึงพี่ต้อย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน