เต้ นันทศัย เผยประสบการณ์เส้นทางนักเลง เคยติดเหล้าหนักกัดสมอง ถ่ายเป็นเลือด ร่างกายทรุด ระบบภายในพัง จนต้องพบจิตแพทย์

นักแสดงหนุ่ม เต้ นันทศัย พิศลยบุตร เผยประสบการณ์เส้นทางสายนักเลง เคยติดเหล้าหนักมากถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา และ ธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้วมีข่าวว่าเต้จะไปอยู่ต่างประเทศ? “ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยว่างยาวๆ เลยครับ ถ่ายละครตลอด ช่วงที่ผมไปบ้านเราน่าจะมีปัญหาโควิดรอบที่3 อย่างหนัก แล้วละครที่ผมถ่ายไปทยอยปิดกล้องจนหมด แล้วเรื่องใหม่ก็ยังไม่เปิด ก็เลยมีโอกาสได้ไปต่างประเทศนานๆ เกือบ 5 เดือนครับ”

ไปเพราะติดสาวหรือเปล่า? “ก็ไปด้วยกันครับผม เรียกว่าไปดูลู่ทางความมั่นคงของอนาคตดีกว่า ผมโชคดีมีเพื่อนอยู่ที่อเมริกา เขามีร้านอาหารอยู่ที่นั่น 11 สาขา กำลังเปิดสาขาที่ 12 พอผมมีโอกาส มีเวลาว่างเยอะก็ลองไปดูถ้าไปอยู่จริงๆ จะอยู่ได้ไหม พอไปอยู่สนุกมากเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ที่ชอบมากที่สุดคืออากาศที่นั่น แล้วเราไปอยู่ได้เรียนรู้ทุกอย่าง ถ้าจะเปิดทำอะไรบ้าง ผมก็ได้ทำทุกอย่างเลยที่ร้านอาหารมี”

ได้ข้อสรุปว่าจะไปอยู่ที่นู้นเลยไหม? “พอกลับมาปุ๊บ เราอยู่ในช่วงวางแผนอนาคตแล้ว รู้แล้วถ้าไปอยู่นั่นจริงๆ ต้องทำยังไง แต่ยังไม่ไปเร็วๆ นี้ ยังอยากทำงานที่นี่อยู่ ช่วงแรกๆ ก็อาจจะทำงานที่นี่ ถ่ายละครที่นี่สัก 8-9 เดือน แล้วไปดูงานที่นู้นสัก 3 เดือน นี่คือการวางแผนเบื้องต้น อนาคตจะเป็นยังไงก็รอดูครับ ตอนนี้เพื่อนผม พี่ชายผม ไปอยู่นั่นแล้วพี่เจ จินตัย”

แล้วเจเขาจะกลับมารับงานที่นี่อีกไหม? “ไม่ครับ”

ทำไมเลือกไปเปิดร้านอาหารที่นั่น ไม่เปิดที่เมืองไทย? “ถ้ามาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่สำหรับธุรกิจอาหาร คือผมก็ไม่มีความรู้ในการเปิดร้านอาหาร เพื่อนผมเขาทำมานานแล้ว เขาวางแผนให้หมดเลย”

เต้คบกับแฟนมากี่ปี? “20 ปีครับผม เจอกันครั้งแรกใครปิ๊งใคร ผมชอบเขาก่อนครับ เขาเป็นเพื่อนของเพื่อน ซึ่งพอผมชอบ ผมก็ไม่ได้คุยกับเขาเลยตั้งแต่วันนั้น แต่ผมรู้จักเพื่อนเขา ผมก็เลยเข้าทางเพื่อนเขาว่าบอกให้หน่อยนะว่าชอบ”








Advertisement

สมัยนั้นเจ้าชู้ไหม? “ผมไม่เจ้าชู้ครับ แต่ ณ ตอนนั้นผมคบใครก็เลิกง่าย ตอนนั้นวัยรุ่นด้วย ความอดทนหรือคิดแต่ตัวเอง เลยไม่เคยคบใครเกิน 1 ปีเลยครับ ตอนนั้นที่เจอคุณเก๋ผมอายุ 20 ปีจนถึงวันนี้ก็ครบ 20 ปีพอดี ซึ่งหลังจากเจอนั้นก็คบกับเขายาวเลย”

เพราะคุณเก๋อายุมากกว่าด้วยไหม เขาเป็นผู้ใหญ่ เลยเหมือนรู้ทางเรา? “จริงครับ ทุกวันนี้เขาเป็นทั้งภรรยาผมเป็นทั้งแม่ผม เขาเป็นคนที่ปรับเปลี่ยนทัศนคติในชีวิตผมทุกอย่าง ตอนนั้นผม 20 เขาอายุ 26 ห่างจากผมประมาณ 6-7 ปี ซึ่งผมก็คิดว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข แต่สิ่งที่เขาทำให้ผมคือเขาปรับเปลี่ยนทุกอย่างในชีวิตผมเลย ณ ตอนนั้นผมยังเด็กอยู่ ได้มาใช้หมด แต่พอคบกับเขา เขาวางแผนให้หมดเลยใช้อย่างนี้ไม่ได้ ผมบอกเลย ถ้าผมไม่เจอเขา ตอนนี้ผมอาจจะไม่ได้นั่งตรงนี้แล้วก็ได้ ผมอาจจะหลุดออกจากวงการไปแล้วก็ได้”

ช่วงอายุ20 เต้ดังมากๆ การเปิดตัวแฟนก็ยากมากๆ เราต้องแอบคบกันไหม? “ไม่เลยครับ เราไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ไม่เคยหลบๆ ซ่อนๆ หรือแอบอะไร ก็แปลกดีเหมือนกัน ไม่มีผลกับคู่ผมเท่าไหร่”

มันมีช่วงจังหวะที่เราเขวบ้างไหม? “ไม่มีเลยครับ ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ผมรู้สึกว่ายิ่งผูกพันกันมากขึ้น แต่ก็มีบางช่วงเขาบอกผมเหมือนกันว่า ถ้าเธอไม่รักตัวเอง เรารักเธอนะ แต่ถ้าเธอไม่รักตัวเองเราก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะช่วงชีวิตผม ณ ตอนนั้นมีเรื่องราวเยอะแยะมากมาย”

เพื่อนๆ พูดยังไงถึงแฟนเราบ้าง? “ส่วนใหญ่เพื่อนจะกลัวแฟนผม คือเกรงใจครับ เวลาเพื่อนๆ มีปัญหาอะไรก็จะโทรมาปรึกษากับเก๋ตลอด”

มีเรื่องที่คุณเก๋ดุคุณเต้หรือเพื่อนๆ ไหม? “ถ้าดุผมก็เรื่องสมัยก่อนกินเหล้าจัด กินหนักเกินไปกินจนแบบเฮ้ย…เธอคิดว่าพรุ่งนี้จะไม่ได้กินแล้วเหรอ กินแบบถวายชีวิต”

เวลาที่เราติดเพื่อนหนักๆ คุณเก๋เขาทำยังไง ให้เราเพลาๆ ลง? “เขาพูดเสมอว่าคนเราต้องรักตัว ต้องดูแลตัวเองนะ ถ้าเรารักตัวเองไม่ได้ เราจะรักคนอื่นได้ไง เขาก็สอนเรา เตือนเรา”

คบกัน 20 ปีมีแพลนจะแต่งงานบ้างไหม? “เอาจริง ผมอยากจัดงานแต่งมากครับ แต่ทางแฟนเขาบอกอย่าจัดเลย เปลืองเงิน เอาเงินไปทำธุรกิจ เอาไปลงทุนดีกว่า เขาพูดเสมอว่าไม่ต้องจัดนะงานแต่ง แค่เราตื่นมาเจอกัน หันมายิ้มให้กันตอนเช้าแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แต่วันนึงจัดแน่นอนครับ แต่อาจจะจัดแบบเล็กๆ กันเองแบบครอบครัว”

วางแผนจะมีลูกไหม? “ผมอยากมีลูกตั้งแต่ 25 ไม่เกิน 30 แต่พอถึงเวลาจริงๆ ณ ตอนนั้นยังไม่พร้อม พอเวลาผ่านไปจนถึงตอนนี้เราคุยกันแล้วว่าน่าจะไม่มีแล้ว น่าจะอยู่ด้วยกัน 2 คนตายายแล้วครับ”

เต้บอกว่าสังคมไม่น่าอยู่? “สังคมทุกวันนี้อย่างที่เราเห็นๆ กันก็น่ากลัวนิดนึง แต่ไม่รู้คิดมากไปเองหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าผมมีความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่แล้ว ไม่มีลูกไม่เป็นไร ผมเอาความรักของผมให้เขาคนเดียวก็พอแล้วครับ”

ที่คุณเก๋บอกถ้าไม่รักตัวเองแล้วจะ… ตอนนั้นเราติดเพื่อน แล้วก็ติดแอลกอฮอล์ด้วยไหม? “หนักมากครับ ผมดื่มตั้งแต่วัยรุ่นเลยครับ ตั้งแต่สมัย 10 กว่า พอคบเขาอายุ 20 ยิ่งช่วงพีกของชีวิตเลยดื่มทุกวัน ติดเหล้า แล้วดื่มทีข้ามวันข้ามคืน อยู่อย่างนั้นมาเป็นเวลา 10 ปี จนอายุ 30 มันมีผลต่อร่างกายเยอะครับ ข้างในเริ่มไม่ไหว ผลภายนอกเวลาเราออกกล้อง เราเห็นเลยหน้าเราเริ่มบวม หุ่นเริ่มพัง แล้วภายในมันเริ่มแย่ เชื่อไหมว่าผมหนักจนถ่ายเป็นเลือด นั่งถ่ายชักโครกเชื่อไหมว่าเลือดพุ่งติดประตูห้องน้ำเลย จนผมไม่ไหวแล้วต้องไปหาหมอตรวจร่างกาย และหาหมอจิตแพทย์จะทำยังไงให้เลิกแอลกอฮอล์ให้ได้”

เราเจออะไรในร่างกาย? “มันเริ่มทำลายอวัยวะภายใน โดยเฉพาะเริ่มกัดสมอง คิดอะไรก็ต้องนึก มันก็มีผลต่อชีวิตในการทำงานเหมือนกัน แต่เวลาทำงานผมจะไม่ดื่ม”

เป็นอยู่นานไหมอาการติดแอลกอฮอล์? “เป็นอย่างนี้มาเป็นปีครับ พอเป็นอย่างนั้นรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ต้องไปหาคุณหมอ แฟนผมติดต่อคุณหมอ หาที่คุย หาจิตแพทย์ดีๆ ให้ พอไปคุยคุณหมอก็ให้ยามากิน ยาตัวนี้มันทำให้ไม่อยากแอลกอฮอล์ พอดื่มมันรู้สึกเหม็นๆ ไม่ค่อยอยากกิน ผมกินยาอยู่ประมาณ 1 เดือน พอผมกิน ผมรู้สึกเหมือนเป็นคนป่วยยังไงไม่รู้ ผมเลยบอกว่าผมไม่อยากเป็นคนป่วย ผมจะไม่กิน ผมจะเลิกไปหาหมอ ผมจะหักดิบเอา เลิกกินแล้วก็เปลี่ยนชีวิตใหม่ ดูแลเรื่องอาหาร คุมอาหาร แล้วก็ออกกำลังกาย เลยเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต ก็ต้องขอบคุณเขาจริงๆ ถ้าไม่มีเขา ผมก็คิดไม่ได้”

วันที่เราถ่ายออกมาเป็นเลือดแล้วพุ่งติดประตูเนี่ย กลัวตายไหม? “จังหวะนั้นก็กลัวครับ แต่พอจังหวะจะกิน ลืม ไม่สนใจไม่แคร์”

ตอนนั้นคุณเก๋มียื่นคำขาดอะไรไหม? “เขาบอกว่าเธอไม่รักตัวเอง ไม่ดูแลตัวเอง เราก็อยู่ด้วยกันไม่ได้แล้ว เขาบอกเรารักเธอนะ แต่เธอต้องรักตัวเองก่อน มันก็ทำให้ผมคิดได้แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเอง”

ทุกวันนี้ถ้าสมมติมีปาร์ตี้เรายังดื่มไหม? “ทุกวันนี้ยังมีดื่มบ้างครับ แต่ไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดื่มเป็นโอกาส”

เห็นว่าเป็นนักเลงมาก่อน? “เป็นนักรบ เวลาไปเที่ยวไปกินเหล้า ไปเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นธรรมดาครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเพื่อน ใครทำเพื่อนผมไม่ได้ ใครทำเพื่อนผมไม่ยอม พอมีเรื่องกันผมก็เป็นตัวเปิดเลย ตัวเริ่ม เอาเป็นว่าเมื่อก่อนเพื่อนผมเริ่มกลัวผมแล้ว ผมใจร้อนมาก สองมือรวมกันรอยเย็บต้องมี 30 เข็มครับ ส่วนมากโดนแก้ว”

ตอนนั้นเราห่วงไหมว่าคนจะหาว่าเราเป็นดารานักเลง? “ยุคนั้นโชคดีครับ โทรศัพท์ยังไม่มีกล้อง โซเชียลยังไม่มี เวลามีเรื่องจะรู้แค่กลุ่มเล็กๆ ตรงนี้ ถ้าเกิดเป็นตอนนี้เรียบร้อยครับ”

มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมาทักเต้ ว่าถ้าเต้ใช้ชีวิตแบบนี้อาจจะไม่มีชีวิตยืนยาวได้? “ตอนผมอายุ 10 กว่า 20 ผู้ใหญ่ที่เป็นเจ้าของสังกัดที่ผมอยู่ อายุไม่ถึง 25 หรอก คือผมใช้ชีวิตเสี่ยงมาก”

เขาเม้าธ์กันว่าจริงๆ เต้เหมือนเป็นไบ เป็นเกย์หรือเปล่า? “อาจจะเป็นช่วงนึงที่ผมถ่ายเซ็กซี่ค่อนข้างเยอะ ก็อาจจะมองได้ แต่จริงๆ ไม่ได้เป็น สิ่งที่ผมโดนเยอะมากที่สุด คือผมไปเข้าห้องน้ำ ผมจะโดนแอบดูน้องชายเยอะมากครับ ผมบอกเลยแอบดูตรงโถปัสสาวะคือเรื่องธรรมดาเลย ไปยืนปุ๊บจะมาละ จนผมต้องมองหน้าเขาเลย กล้าอย่างนี้เลยเหรอ แรกๆ เราก็เกรงใจ หลังๆ ก็ต้องพูดแรงๆ แบบมองอะไรวะ หลังๆ เริ่มโมโห ซึ่งเรื่องแบบนี้ปกติเลยครับ ปีนตอนเข้าห้องส้วม แล้วไม่ได้โดนครั้งเดียวนะ โดนบ่อยด้วย จนทุกวันนี้ผมไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ เข้าปุ๊บผมสังเกตสองข้างก่อนเลย มีคนอยู่ไหม มีคนตามไหม”

คนที่ปีนดูเราเพศไหน? “ผู้ชายครับ ตามเข้ามาในห้องน้ำชาย ซึ่งผมเคยเจอแบบผมไปเข้าห้องน้ำหนึ่ง พอเข้าไปปุ๊บ มีเข้ามาห้องข้างๆ ทันทีเลย ผมโดนบ่อย เลยสังเกตเป็นเงา ปวดก็ปวด ปลดออกหมดแล้วนะ แต่ยังไม่ปล่อย เชื่อไหมไม่ถึง 5 วินาทีมือเขามา”

ฝากอะไรถึงคนที่ชอบมาส่องเราหน่อยไหม? “อย่ามาดูกันเลยครับ เราก็มีเหมือนกัน แค่อาจจะไม่เท่ากันแค่นั้นเองครับ”

คลิปสัมภาษณ์ เต้ นันทศัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน