เป้ย เครียดหนัก รับบทแทน แตงโม เข้าฉากวันแรกร้องไห้

วันที่ 23 มี.ค. ที่ บ้านปลายนา กองถ่ายละครเรื่อง คุณชาย นักแสดงสาว เป้ย ปานวาด บุญยรัตกลิน ได้เปิดใจถึงเรื่องที่มารับบท จันทร์ สานต่อบทบาทที่ แตงโม นิดา แสดงไว้เป็นเรื่องสุดท้าย

รู้สึกอย่างไรกับการสานต่อบท ‘จันทร์’ ในครั้งนี้ ? “วันแรกที่ผู้ใหญ่ติดต่อมา จำได้ตอนนั้นแพลนของเป้ยคือหลังจากจบละครเรื่องล่าสุดไปที่กลับมาเล่นละครอีกครั้งก็ตั้งใจว่าจะพักก่อนจะอยู่กับลูกก่อน แล้วก็อยู่ในช่วงระหว่างดูบทด้วยก็คิดว่าจะกลับมารับเล่นละครอีกทีช่วงพฤษภาคมเป็นต้นไป

แต่พอผู้ใหญ่โทรมาเรื่องนี้ ตอนนั้นก็ 70เปอร์เซ็นต์ แล้ว ก็มีในใจอยู่ว่าเราน่าจะเล่นแต่ว่ายังไม่ได้แจ้งผู้ใหญ่ไปเพราะว่าอยากจะขอดูบทก่อนว่าสามารถเล่นได้ไหม ขอทำการบ้านก่อนจะรับ เพราะว่าถ้าอยู่ๆรับปากไปเลย แล้วถ้าเกิดเราทำได้ไม่ดี

มันก็คงไม่ดีเท่าไหร่กับการจะมาสานต่อแทนโม ก็เลยขออนุญาตทางผู้ใหญ่ทำการบ้านก่อนจะให้คำตอบดีกว่า พอทำการบ้านได้อ่านบทแล้ว ก็ต้องมานั่งคุยเรื่องคาแรกเตอร์กับผู้ใหญ่ พี่หวอ (วรวิทย์ ขัตติยโยธิน) ผู้กำกับฯด้วยว่าจะต้องเล่นให้ออกมาในรูปแบบไหนเพราะว่ามันค่อนข้างจะใกล้เคียงกับคาแรกเตอร์ละครก่อนหน้านี้เรื่อง วานวาสนา ก็จะต้องเล่นยังไงให้แตกต่างต้องทำการบ้านค่อนข้างเยอะ”

เราอยากสานต่อจากบทจาก แตงโม ทั้งคาแรกเตอร์ ลุกส์ตัวละคร? “คือก่อนหน้านี้เป้ยต้องบอกตรงๆว่าเป้ยมีการคุยกับผู้ใหญ่อยู่แล้ว เป้ยกับโมกลับมาในช่วงเวลาใกล้เคียงกันมาก โมห่างหายจากการเล่นละครไป 2 ปีเหมือนกัน เป้ยก็เกือบ 10 ปี ในช่วงระหว่างที่รับละครมันเป็นช่วงที่ใกล้กันเลย

เลยถามผู้ใหญ่ โมเป็นยังไงบ้าง ได้ยินว่าเล่นเรื่องนี้ ดีจังๆ เลยส่งกำลังใจฝากไป สู้ๆนะ เป้ยเชื่อคือหลังจากที่ได้อ่านข้อความที่โมส่งหาผู้ใหญ่ ความรู้สึกของเรามันเหมือนตอนที่เรากลับมาก่อนที่จะเปิดกล้องเลย อยากวางคาแรกเตอร์แบบนี้ อยากทำแบบนี้เราก็เลยรู้สึกถึงความตั้งใจนั้นว่าโมอยากให้มันเป็นแบบนี้

โมวางบทของตัว จันทร์ เป็นแบบนี้พอมาสานต่อมีความรู้สึกอยากตั้งใจทำให้เหมือนที่โมวางไว้ก็คือ เล็บแดงปากแดงเพื่อที่คนดูจะได้เพิ่มความอินแล้วก็ผมก็เป็นสีเข้ม เป้ยก็มีการไปตัดผมและย้อมสีผมให้เข้มขึ้น”

วันที่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าเล่นแน่นอน นึกถึงแตงโมยังไงบ้าง? “ก่อนที่จะรับปากจะเล่นตอนเห็นบทก็นึกถึงโมแล้วก็บอกโม ขออนุญาตเขาก่อน นึกในใจ ถ้าโมอนุญาตให้เราเล่นก็ขอให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นอะไรแบบนี้ คิดในใจแบบนั้นไป”

พอได้มาเล่นเป็นยังไงบ้าง ? “โห.. ฉากแรกที่เพิ่งเข้าไปเมื่อวันก่อน น้ำตาไหลเลย พอถ่ายเสร็จมันมีความรู้สึกกังวลหลายอย่าง กดดันหลายๆอย่างคือเรากดดันตัวเราเองนะ ทุกๆอย่างคือ พี่ๆทีมงานทุกคน ผู้กำกับฯนักแสดงทุกคนให้กำลังใจเราอย่างดีมาก

แต่ด้วยอะไรหลายอย่างพอเรารับบทอยู่ในจุดๆนี้แล้ว พอเบื้องหลังมันจะมีความคิดมากมายที่มันต่อสู้กับเรา มันจะมีคำถามว่า เราจะเล่นได้ไหม มันมีความกังวล มีความกลัวทุกอย่าง เราจะเล่นได้ไหม

เราจะทำได้ดีหรือเปล่า คนจะให้โอกาสเราไหม คือมันมีเข้ามาเยอะมาก แล้วความกังวลนั้นมันก็ทำให้เป้ยรู้สึกกดดันตัวเอง แล้วทำให้เป้ยค่อนข้างจะเครียดในการทำการบ้าน

พอเข้าฉากวันแรก พอเป้ยเล่นปุ๊บ ออกมาจากฉากแล้วเป้ยก็น้ำตาไหลเลย แต่พอเรารู้ว่า เฮ้ย!มันเกิด เราถ่ายไปแล้วเรารู้สึกมันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ เราต้องไม่กดดันตัวเอง คือเรารีบมาคุยกับตัวเองเลยว่าวันแรกที่เราคิดว่าเรารับ 70 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่ได้บอกผู้ใหญ่แต่เราบอกว่าเรามีคำตอบแล้วว่าเรามีคำตอบ 70 เปอร์เซ็นต์ มันคืออะไร

เราตั้งใจจะทำให้โมไม่ใช่เหรอ ทำไมไปกดดันตัวเองแบบนี้ มันไม่ดีเลย มันทำให้เราเล่นไม่ดีนะ ก็เลยต้องเปลี่ยนความคิดว่าเราจะต้องมีความสุขกับการเล่น แล้วเราได้ทำให้โมมากกว่ากดดันแล้วมาทำให้ตัวเองเครียด โชคดีที่ทีมงานรวมถึงนักแสดงทุกคนให้กำลังใจ มันก็เลยดีขึ้น”

ได้บทมาวันแรกไม่กล้าอ่าน? “ไม่กล้าอ่านเลย ไม่กล้าจับเลย เราอาจจะคิดเยอะด้วย เป้ยเป็นคนคิดเยอะ แต่เวลามันก็ทำให้ดีขึ้น และความตั้งใจ พอเราจับจุดได้ว่าเราเริ่มเครียด เริ่มกดดัน คนรอบข้าง สามี ลูกบอกทำไมแม่ดูเครียด กว่าเล่นละครเรื่องล่าสุดที่ห่างไป 10 ปี กลายเป็นว่าละครเรื่องนี้เป้ยเครียด

เขาเลยถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า พอมีคนเริ่มทัก เราก็เริ่มบอกตัวเองว่าเป้ย ไม่ได้นะ ภายใต้การแสดงถ้าเรามีความเครียด หรือความไม่มั่นใจ มันจะออกมาไม่ดี สิ่งที่เราตั้งเป้าว่าจะทำให้โม กลายเป็นว่าจะทำไม่ได้ แล้วก็ทำได้ไม่เต็มที่ เราต้องรีบปรับตัวเองให้ได้ทันที เป้ยจะบอกคนอื่นว่าพอมายืนอยู่จุดๆนี้มันก็ยากนะที่จะทำให้ได้ดี และเต็มที่อย่างเราตั้งใจไว้”

 

ตั้งใจเล่นให้โม ไม่ได้จะมาเล่นแทน? “เป็นความคิดของเป้ย ไม่อยากให้คนมองว่าเป็นการมาเล่นแทน แต่เป็นการมาเล่นให้เพื่อโม เป็นการมาสานต่อให้โมในสิ่งที่โมทำทิ้งไว้ให้ไปได้ด้วยดี เป้ยเห็นความตั้งใจของโม เขาคงไม่สบายใจแน่ๆ ถ้ามีสิ่งอะไรที่เรายังทำค้างไว้อยู่ ก็อยากให้โมไม่ต้องเป็นห่วงตรงนี้ เป้ยจะทำให้ดีที่สุด”

ความกดดันลดลงแล้ว? “ลดลงแล้วค่ะ คือมันต้องรีบเปลี่ยน พอเรารู้แล้วว่าซีนแรกมันไม่ได้นะ เหมือนต้องเตือนตัวเอง ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นว่า 2-3-4 มันจะกลายเป็นไม่ดีไปเรื่อยๆ ฉะนั้นเราจะมาช่วยสานต่อตรงนี้ทำไม ให้คนอื่นเล่นไม่ดีกว่าเหรอ เราก็ต้องเตือนตัวเอง จะเป็นอย่างนี้ไม่ได้ ต้องขอบคุณทุกๆคน นักแสดงทุกคนให้กำลังใจหลังจากที่เราได้เข้าฉากวันนั้นแค่ฉากเดียว น้องตงตงส่งข้อความมาหาว่าสู้ไปด้วยกัน เราก็ดีใจ”

ได้อ่านคอมเมนต์ ฟีดแบ็กจากแฟนๆบ้างไหมหลังจากที่เรารับเล่นบทนี้? “เราก็ดูเฉพาะในไอจีเราเท่านั้นเอง แต่ก็จะมีเพื่อนๆมาบอกบ้าง ต้องขอบคุณสำหรับกำลังใจ เป้ยเข้าใจคนที่รักและเป็นแฟนคลับของแตงโมก็จะเฝ้ารอ ติดตามว่าจะเป็นยังไงต่อไป เป้ยก็ขออนุญาตเป็นคนที่มาสานต่อตรงนี้แทนโม ขออนุญาตแล้วกัน”

เพื่อนมาหาบ้างไหม? “เป้ยไม่รู้ว่าเป้ยคิดไปเองรึเปล่า เป้ยไม่อยากจะแตะ เอาเป็นว่าเรารับรู้ได้ถึงสัญญาณที่มันดี ความรู้สึกที่มันดี ขออนุญาตเก็บไว้ดีกว่า”

ก่อนหน้านี้เห็นมีไปวางดอกไม้? “มีไปวางค่ะ ก็เล่าให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ก็ไปทำบุญให้ ก็ทำบุญที่เป้ยทำได้ ด้วยเป้ยนับถือศาสนาอิสลาม เป้ยก็ทำบุญในรูปแบบของเป้ย แล้วเป้ยก็ยังจะมีแพลนอีกหลายๆแพลนที่เราอยากจะทำให้โมได้รับ มีการส่งข้อความไปหาแอนนา แต่ยังไม่ได้ซื้อ เป้ยถามแอนนาว่าน้องแมวทานอาหารยี่ห้ออะไร ถ้าทำอะไรได้เป้ยก็อยากจะทำ ในฐานะเพื่อนร่วมวงการคนหนึ่ง แล้วเราก็มาสานต่องานให้ด้วย”

เหมือนเป็นสิ่งที่โมยังห่วงอยู่? “เราพยายามคิดว่าโมจะเป็นห่วงอะไรบ้าง ก็คือตรงนี้ และยังมีอีกหลายอย่าง คุยกับทีมงานอยู่ว่าจะไปทำอะไรให้โมกันบ้าง”

ก่อนหน้านี้บริจาคถุงห่อศพ? “มีเป้ยและเพื่อนๆร่วมกันทำ ช่วยกัน”

ค่อนข้างผูกพันกับโม? “เรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมวงการที่มันอยู่ในช่วง 10 กว่าปีที่แล้วที่มีอีเวนต์เยอะๆ ก็จะเจอกันตลอดเวลา เราก็จะพูดคุยกันตลอด ด้วยนิสัยเป้ยกับโมคล้ายกัน อารมณ์ช่างแต่งหน้าจะกลัวเราสองคน เพราะพอมาอยู่ด้วยกัน เขาบอกว่าสองคนนี้มารวมตัวกันไม่ได้ แซวกันขำๆ

พอเป้ยห่างไปมีครอบครัว เราก็เจอกันตามห้าง โมก็บอกว่าอยากไปเล่นกับพี่โปรด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้มาสักครั้ง จะเป็นแนวนี้มากกว่า ถึงช่วงหลังเราจะไม่ค่อยได้เจอกัน เราเป็นเพื่อนในลักษณะของเพื่อนร่วมงาน แต่ถ้าช่วงไหนชีวิตเป้ยมีปัญหา โมก็จะส่งข้อความมาให้กำลังใจ”

ยังติดตามข่าวแตงโม? “ติดตามตลอดเวลา และภาวนาขอให้ความยุติธรรมเกิดกับโม ก็ลุ้นอยู่ตลอดเวลา บ่นกับทีมงานตลอดว่าทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ด้วย เรามีความรู้สึกลูกผู้หญิงเหมือนกัน ทำไมในช่วงชีวิตของโมก็เจออะไรมากมายในช่วงชีวิตของโม มันค่อนข้างจะโหดร้ายสำหรับโมเหมือนกัน

ก็นั่งคิดโลกช่างไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างโมเลย ตอนอยู่ก็ใจร้ายแล้ว ตอนไปยังจะใจร้ายอีก เป้ยก็คิดอย่างนี้ในฐานะคนๆหนึ่งที่รู้จักกับเขา เวลาที่เขาเจอปัญหาเราก็คอยส่งกำลังใจให้ตลอดเวลา ก็เลยภาวนาว่าอยากให้มีความยุติธรรมเกิดขึ้นกับโม เป้ยหวังตลอด หวังทุกวัน ติดตามข่าวทุกวัน”

ฝากถึงแฟนๆ? “เป้ยก็ขออนุญาตทุกคนมาสานต่อตรงนี้แทนโม เป้ยสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เป้ยจะทำได้ สัญญาค่ะ”

ขอบคุณรูปจากไอจี : ppanward

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน