โม อมีนา รับท้อโดนดราม่าว่าหิวแสง ตอกกลับคนด่า ดูแล เบิร์ด แฟนแตงโม เกินหน้าที่ คิดได้ยังไงปัญญาอ่อน นับถือน้ำใจ เบิร์ด ดูแลโมดีมากจนหายป่วย

นางร้ายหน้าสวย โม อมีนา เปิดใจถึงเรื่องคดีพี่สาวที่รัก แตงโม นิดา รับทำใจไว้แล้วว่าคดีจะยาวนาน ย้ำอยากให้ทุกคนออกมาพูดความจริง รับได้หากเป็นอุบัติเหตุขอแค่พูดความจริง ไม่ยุ่งเรื่องสิทธิของคุณแม่กับการถอดถอนใคร พร้อมเคลียร์ดราม่า คนว่าหิวแสง ดูแลแฟนแตงโมเกินหน้าที่ และยังเล่าโมเมนต์น่ารักของเบิร์ดกับแตงโมที่ไปร่วมทริปด้วยกัน ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บSHOW ออกอากาศทางช่องวัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

เรื่องแตงโมผ่านมาเดือนกว่าแล้ว ตอนนี้โอเคขึ้นหรือยัง? โม : “มันจะมีบางช่วงที่โอเคและไม่โอเค ตอนที่เจอปัญหาต่างๆ ในงานของพี่โม ฟีดแบ็กต่างๆ มันก็ปนกันไป ก็มีที่ดีและก็ไม่ดี ความเศร้ามันเบาลงเพราะเราให้กำลังใจกัน อย่างในกลุ่มบ้านพี่โม แอนนา ฮิปโป พุดเดิ้ล ทุกคนพยายามให้กำลังใจกันว่างก็ไปหาที่บ้าน พี่เบิร์ดก็ซัพพอร์ตกัน มันเลยทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น”

คิดว่าเรื่องคดีจะนานขนาดนี้ไหม? โม : “คิดไว้แล้วค่ะว่านาน วันที่พบพี่โมพวกหนูได้ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ว่า หนูให้ปากคำได้นะคะให้ข้อมูลได้นะ จากที่เรียกไปซ้ำ 2-3 รอบ เราก็พอรู้ในรูปต่างๆ ว่านานแหละ โมอยากให้ทุกคนมองในเรื่องของความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า ไม่อยากให้มองและจินตนาการว่าจะต้องเป็นแบบนั้นหรือแบบนี้ โมเป็นกลางนะ โมรู้สึกว่าทุกอย่างที่โมพยายามสู้มาทั้งต่อและลับหลัง โมสู้หมดใครให้เราทำอะไรเราทำหมด ใครให้เราช่วยเหลืออะไรเราช่วยหมด หนูมองว่ายังไงก็นาน เพราะสุดท้ายแล้วทางเจ้าหน้าที่ต้องสรุปสำนวนคดีมาก่อน สรุปสำนวนแต่มันก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้”

คุณแม่เปลี่ยนฟีลลิ่งทุกวัน? โม : “โมแจ้งก่อนว่าคุณแม่มีความเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างสูง เมื่อคุณแม่ตัดสินใจแบบนั้นแล้วพวกหนูไปขัดแย้งอะไรไม่ได้ เพราะคุณแม่เป็นคุณแม่พี่โมอำนาจการตัดสินใจทั้งหมดต้องยกให้คุณแม่ คุณแม่จะถอดใครเปลี่ยนใคร พวกหนูจะไม่เข้าไปยุ่งค่ะ”

ถอดถอนคุณหญิงหมอพรทิพย์ คิดว่ายังไง? โม : “อันนี้มันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่หลายๆ ฝ่าย เขามีการประชุมกันมาแล้วว่าจะต้องเป็นลำดับขั้นแบบนี้ๆ ที่คุณแม่ยื่นเรื่องต่างๆ โมว่าคุณแม่จะต้องคุย ปรึกษากับทางทนายมาแล้วค่อนข้างดีถึงออกมาทำ”

รู้มาล่าสุด 3 คนบนเรือไปให้ปากคำเพิ่ม คิดว่ารูปคดีเปลี่ยนไหม? โม : “อันนี้ไม่ทราบค่ะ หนูบอกตรงๆ ว่าพวกหนูมองในเรื่องของข้อเท็จจริง หลักฐานความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า คนนั้นคนนี้บอกว่าพี่โมเป็นแบบนี้ พวกหนูไม่ฟังกันเลย ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่เรามองในเรื่องหลักฐานที่มันพิสูจน์เป็นไปได้มากกว่า”

2 คนที่เพิ่งสึก เขาสัญญากับแม่ไว้ว่าสึกแล้วจะสารภาพ? โม : “ก็ขอให้เขาทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณแม่ก็แล้วกันเท่านั้นเอง ขอให้เป็นความจริง ทุกคนแค่อยากรู้ความจริง ทุกคนไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวกับคดี หรือทะเลาะกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือแม้กระทั่งคุณแม่ก็ดี เราขอแค่ความจริงเอง อยากรู้ความจริงที่เกิดกับพี่เราเท่านั้นเอง”

รอความจริงมาตลอด ผ่านมาเดือนกว่าแล้ว เหนื่อยขนาดไหน? โม : “ทุกวันนี้หนูก็ยังนอนน้อยกันเหมือนเดิม หนูพยายามเท่าที่สามารถจะทำได้ บางคนเป็นห่วงเราว่าเราจะต้องแลกกับอะไร หนูมีสติพอที่จะเลือกได้ว่าเรามีขอบเขตแค่นี้เราทำได้เท่านี้ เราอยู่ได้แค่นี้ โดยที่เราจะไม่ได้รับอันตรายหรืออะไรใดๆ หนูไม่ได้คิดถึงขั้นว่าใครจะมาทำร้ายใครจะมาขู่หรืออะไร เพราะหนูถือว่าแค่อยากหาความจริงให้พี่เท่านั้นเอง”

มีคนเตือนไหม? โม : “เยอะมากค่ะ มีบ้างแต่โมไม่เรียกว่าการขู่คือการเตือน เพราะหนูรู้สึกว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เจตนาของเขาหนูไม่ทราบ ถ้าหวังดีก็ขอบคุณค่ะ ถ้าหวังอย่างอื่นหนูไม่ได้มองว่าหนูทำอะไรผิดแล้วหนูไม่ได้ทำเกินหน้าที่ขอบเขตของตัวเอง ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัวค่ะ”

ทนายเดชาบอกจะปิดคดี 24 เมษา คิดว่าปิดได้ไหม? โม : “ถ้าปิดได้ก็ขอบคุณทนายเดชามากค่ะ ก็อยากปิดให้ได้ พวกหนูก็รอดูอยู่เพราะไม่ได้อำนาจเข้าไปยุ่งในเรื่องของทนาย”

ปิดคดีแล้วออกมาเป็นอุบัติเหตุ เราใช้ชีวิตไปต่อได้ไหม? โม : “ได้ค่ะ ทุกวันนี้หนูก็ไม่ถึงกับใช้ชีวิตไม่ได้ ก็ใช้ได้ แต่หนูแค่อยากฟังอะไรที่มันคือความจริง ต่อให้มันเป็นอุบัติเหตุแต่เป็นความจริงก็จบ”

ในกลุ่มเพื่อนๆ มีใครได้คุยกับกระติกบ้างหรือยัง? โม : “รู้สึกว่าเขาจะเฟดออกไปเลยค่ะ กลุ่มนี้เขาไม่ได้อยู่ตั้งแต่แรก กลุ่มไลน์นี้ตั้งขึ้นหลังจากที่พี่หายไป โมว่าพี่เขาก็ทำตัวชัดเจนกับพวกหนูดีนะ พวกหนูไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดพี่ติก พวกหนูไม่มีเจตนาแบบนั้น พวกหนูแค่อยากรู้ความจริงจากใจของเขาจริงๆ”

อยากให้เขาออกมาพูด? โม : “เขาจะไปพูดตอนไหนก็ได้ จะไปพูดในชั้นศาลก็ได้ พูดต่อหน้าตำรวจก็ได้ ไม่ต้องพูดกับพวกหนูก็ได้แต่ขอให้เป็นความจริงจากใจเขาจริงๆ หนูอยากบอกว่าพี่โมรักพี่ติกมาก รักมากจนแบบหนูเองก็ไม่แตะเลย ไม่กล้าแตะไม่กล้ามีเรื่องกับพี่ติก รักมากจริงๆ พี่ติกคือ 1 ในครอบครัวของพี่โมอ่ะ”

ที่พูดว่า กระติกทำตัวชัดเจนกับพวกหนูดี คือยังไง? โม : “ก็คือไม่ยุ่ง เฟดออกเลย หนูว่าหนูก็สนิทกับพี่ติกประมาณนึงนะ ก็รู้จักกันมานานนะ ไม่ใช่ว่าหนูไม่รักพี่เขานะ แต่หนูอยากจะบอกพี่เขาว่าเขาคือคนในครอบครัวของพี่โม แล้วทุกคนก็รักหลานเหมือนที่พี่รักลูก”

น้องอีสเตอร์ เป็นยังไงบ้างทราบไหม? โม : “ไม่ทราบเลยค่ะ เรารู้แหละว่าหลานอยู่กับแม่ ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง”

หน้าที่หลักในงานของแตงโมคืออะไร? โม : “โมจะมีทีมกล้องวิดีโอภาพนิ่งอยู่เลย 3 ชั้น เก็บภาพบรรยากาศทั้งหมด ทีมสต๊าฟใช้คนในกลุ่มทั้งหมด 15 คน ทั้งหมดเกือบ 20 คน อันนี้เป็นหน้าที่ของโม”

งานใหญ่มากๆ ทำไมถึงไม่จ้างคนให้รันงาน? โม : “งานพี่อะเนอะ หนูอยากทำเอง หนูเป็นคนวิ่งเอง เวลาดาราใครมาหนูวิ่งลงไปให้เพราะหนูห่วงแต่ละคน มันเป็นไว้อาลัยไม่ใช่งานอีเว้นต์ เพราะฉะนั้นหนูจะถามทุกคนคำนี้ทุกคนจะได้ยินจากหนู “พี่คะ พี่สะดวกให้สัมภาษณ์ไหม ถ้าพี่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์บอกนะคะ เดี๋ยวให้ทีมพาขึ้นไปหรือโมพาขึ้นไปเองก็ได้” หรือถ้ามาพร้อมกันจะมีทีมการ์ดของพี่เอส กันตพงศ์ ส่งมาให้ เราจะบอกเขาไปรอคนนี้พาเขาขึ้นไป หนูก็ต้องขอโทษพี่ๆ นักข่าวด้วย บางคนเขาไม่สะดวกให้สัมภาษณ์จริงๆ เขามาไว้อาลัย”

กระแสดีก็มี ดราม่าก็เยอะ โดนว่า หิวแสง รู้สึกยังไงกับคำนี้? โม : “ใครที่เป็นเพื่อนโม โมดูแลแบบนี้ทุกคน พี่เขาเป็นหนึ่งในคนแรกในชีวิตหนูที่หนูรักมากที่เขาจากไปเท่านั้นเอง เชื่อว่าหลายๆ คนยังไม่เห็นโมเมนต์ของเราที่เราแสดงออกกับเพื่อน เราเป็นแบบนี้จริงๆ เราเป็นแบบนี้อยู่แล้ว”

เจอคอนเมนต์ลบท้อไหม? โม : “ท้อมากค่ะ แต่เพื่อพี่คำเดียว”

ได้ยินใครพูดอะไรมาถึงเฮิร์ตขนาดนั้น? โม : “วันนั้นไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่เอจะเรียกไปทานข้าว เพราะหนูเป็นคนที่ต้องมางานก่อนเพื่อน งานเลิกก็รอเคลียร์งาน วันนั้นดึกมากเพราะเป็นวันสุดท้ายหนูต้องคอยเคลียร์ ขอบคุณทุกคน หนูก็ตามไปที่บ้านพี่เอก็ไปกินข้าว หนูสาบานเลยหนูไม่รู้ว่าเขาถ่ายวิดีโอ เรารู้สึกว่ามันเป็นวันนั้นวันเดียวที่เราพูดได้ เพราะวันอื่นเราไม่มีเวลาแม้แต่ดูทีวีต้องไปงานพี่ หนูหมายถึงว่าถ้ามันแลกกันได้เอาพี่หนูคืนแล้วเอาชื่อเสียงหนูไปไม่เป็นไร เพราะว่าเวลาที่มีคนติดต่องานหนูมา หนูพูดเลยว่าพี่พอก่อนเนอะ หนูลงให้ได้ หนูก็ไม่ได้อยากให้ลูกค้าด่าเราเรื่องงาน แต่ไม่ได้อยากให้คนอื่นมองว่าโกย หนูไม่ได้จะทำแบบนั้นเลย”

ความน่ารักของอมีนา คนกดไลค์เยอะมาก ยอดฟอลโลว์เท่าไหร่แล้ว? โม : “ล้านเจ็ดค่ะ”

ในงานดูแลทุกอย่าง ดูแลแขกด้วย และดูแลคุณเบิร์ดด้วย? โม : “กับพี่เบิร์ดก็มีดราม่า อันนี้หนูก็เสียใจว่าคิดได้ยังไงแต่ละคน หนูคอยดูแลพี่เบิร์ดเพราะหนูรู้พี่เบิร์ดไม่ไหว พี่เบิร์ดเขากินข้าวได้หนูก็เป็นคนประคอง กระแสดราม่าหนูถึงเนื้อถึงตัวพี่เบิร์ดมากไป เราดูแลเกินหน้าที่น้อง คิดได้ยังไงว่าเราจะอะไรกับแฟนพี่ ปัญญาอ่อนอ่ะพี่ แต่หนูก็ไม่ใส่ใจเพราะหนูรู้หนูทำอะไรอยู่ แต่ก็ไม่ควรคิดอ่ะ พี่เบิร์ดก็เหมือนพี่ชายหนู ก็คนที่พี่เรารักอะเนาะ

เบิร์ดดีขึ้นขนาดไหนแล้ว? โม : “เขายังคงไม่เลิกคิดถึงหรอกค่ะ โมว่าคนหลายๆ คนก็มูฟออนไม่ได้ อย่างหนูเหมือนจะได้ แต่พอถึงเวลาจริงๆ ไม่ได้อีกแล้วเขาก็พยายามหาอะไรทำ เป็นเหมือนกิจกรรมที่ทำให้ตัวเองไม่เครียดแค่นั้นเอง มันเป็นอาชีพของพี่เขาอยู่แล้วด้วย”

ทำเสื้อมาขาย 1,000 ตัว คนบอกว่าให้ทำมาอีกเยอะๆ ช่วงกอบโกย เบิร์ดตอบว่าไง? โม : “ตอบว่าทำแต่พอเพียงก่อน เพราะเขาเป็นคนทำเอง ผลิตเอง สกรีนเอง คุยกับลูกค้าเอง ตอบแชทเอง เขามองว่าเขาทำเองทั้งหมดดีกว่าไปจ้างมันเปลืองเงิน เขาเป็นคนมัธยัสถ์”

ตอนที่แตงโมคบกับเบิร์ดใหม่ๆ พามารู้จัก เขาแนะนำว่ายังไง? โม : “เขาแนะนำว่าฉันจะพาตาหนวดมาให้รู้จักนะ เราก็บอกมาสักทีเถอะ เพราะพี่เขาคบกันได้แค่ 2 ปีเอง ถ้าพี่โมเขาไม่ได้อะไรกับใครจริงๆ หนูจะไม่รู้จัก ทริปที่อยู่ด้วยกันยาวๆ เลยคือเชียงใหม่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ไปเที่ยวก็อยู่ด้วยกันก็ได้รู้จักพี่เบิร์ดเยอะเลยค่ะ”

เขาเหมือนนิ่งๆ เงียบๆ? โม : “เขาเหมือนเป็นผู้ชายสายดาร์กนะ แต่จริงๆ เขาเป็นผู้ชายหวานมากดูอบอุ่น เขาดูแลพี่เราไม่ว่าพี่เราจะแว้ดๆ เขาจะหันไปยิ้ม ดูเป็นเรื่องน่าเอ็นดูไปเลย เวลาเขาจะมีโมเมนต์ไรกันหนูจะเป็นคนแอบมองน่ารักดี”

ดูแตงโมมีความสุขไหม? โม : “มีความสุข ดีขึ้นเยอะมาก เพราะก่อนหน้านี้พี่เราไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่กล้าไปเจอใคร ไม่กล้าแม้กระทั่งรับงาน เพราะว่าตัวเองไม่สวย บวกกับการที่เขาเป็นโรคซึมเศร้า แต่หนูนับถือใจพี่เบิร์ดเลยนะ เพราะว่าพี่เบิร์ดทำให้พี่โมหายดี หายแบบพาไปอยู่กับธรรมชาติ พาไปขายของ มีกิจกรรมต่างๆ ให้พี่เรารู้สึกว่าเขาไม่ป่วย โมไม่เคยเห็นอย่างนึง ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครทำกับข้าวให้พี่ทาน มีพี่เบิร์ดนี่แหละ”

คลิปสัมภาษณ์ โม อมีนา

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน