ฟิล์ม ธนภัทร น้ำตาคลอเสียใจ น้อมรับผิดดราม่าล้อเลียนเหยียดเพศ ทั้งที่เล่นบทเป็น LGBTQ+ ขอโทษคิดน้อยไป หวั่นคนไม่เปิดใจดูละคร

หลังจากที่พระเอกหนุ่ม ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ เจอกระแสดราม่าแสดงท่าทางล้อเลียนเหยียดเพศ ทั้งที่ตนสวมบทบาท LGBTQ+ ในละคร คุณชาย หรือในเรื่องเรียกว่าเป็น “ต้วนซิ่ว” ทำให้คนดูผิดหวังไม่น้อย เพราะคิดว่าพระเอกหนุ่มน่าจะเข้าใจคนกลุ่มนี้ดี ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 65 หนุ่มฟิล์ม ได้เปิดใจกับ “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ถึงเรื่องดราม่าดังกล่าว บอกน้อมรับความผิดพลาด เสียใจที่คิดน้อยไป และขอบคุณคนที่ด่าตน เพราะทำให้รู้ว่าผิดพลาดไป

บทบาทชายรักชาย ในเรื่อง คุณชาย ท้าทายความสามารถ? “ผมรู้สึกว่าตัว เทียน ที่ผมรับบทในเรื่อง คุณชาย เป็นอีกตัวละครนึงที่น่าสนใจ ผมอยากลองเล่นบทที่เป็น LGBTQ เพราะรู้สึกว่ามันฉีกจากบทเดิมๆ ที่ตัวเองเคยเล่น แล้วผมอยากที่จะลงไปเข้าใจความรู้สึก ความคิดของตัวละคร แล้วก็คนกลุ่มนี้ ทำการบ้านกับบทก่อน ความเป็น LGBTQ ส่วนใหญ่ผมจะมีคนรอบๆ ตัวเป็นค่อนข้างเยอะ ก็จะอาศัยถามเขาว่าทำไมถึงเป็น รู้ตัวตอนไหน แล้วชีวิตเป็นยังไงบ้าง โดนดูถูกมาตั้งแต่เด็กไหม โดนครอบครัวกีดกันไหมที่จะไม่ให้เป็นแบบนี้แล้วตอนนั้นรู้สึกยังไงมีความคิดยังไง มองโลกยังไง ผมก็จะถามและดูรายการต่างๆ หรือมีคนดำเนินรายการเกี่ยวกับที่เป็น LGBTQ เพื่อที่จะเข้าใจเขามากขึ้นเท่าที่เราสามารถทำได้ สังเกตภายนอกต่างๆ จะมีหลายแบบมาก หลายไทป์มาก เดี๋ยวนี้เขาใช้คำว่าเป็นเพศทางเลือก”

คนชมว่าเราเล่นดีจากที่เห็นในทีเซอร์? “ดีใจครับที่ทุกคนมองแบบนั้น เพราะผมอยากที่จะทะลุเพดานตัวเองไปสักที ผมรู้สึกเป็นตัวละครนั้นไหมในขณะที่เล่นมากน้อยแค่ไหนนั่นคือฟีดแบ็กที่ผมเช็กตัวเอง ส่วนฟีดแบ็กอื่นๆ ว่าดีหรือไม่ดี ผมว่าให้คนอื่นพูดดีกว่า”

คำว่าทะลุเพดานการแสดง บทนี้ทำให้เราไปถึงตรงนั้นหรือยัง? “เรียกว่าก้าวออกมาจากจุดเดิมแล้วแต่ไปได้มากน้อยแค่ไหนก็ต้องดูกัน ก็ต้องดูจนจบเรื่องด้วยว่าเราจะสามารถไดร์ฟไปกับตัวละครได้มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ผมรู้สึกดีใจและขอบคุณผู้ใหญ่ ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ผมได้มารับบทนี้ ได้มาเป็นตัวเทียนทำให้ผมได้เข้าใจคนที่เป็น LGBTQ มากขึ้น”

แต่ก็มีดราม่า โดนด่าว่าไปทำท่าทางล้อเลียนกลุ่ม LGBTQ+ ผิดหวังที่เราน่าจะเข้าใจดีเพราะก็รับบทนี้ในละครด้วย?รู้สึกแย่ครับ ผมรู้สึกแย่ที่ตัวเองคิดน้อยไป ผมไม่โกรธที่เขาด่าผม ผมขอบคุณด้วยซ้ำ ขอบคุณที่ด่า ทำให้เรารู้ว่าเราพลาดอะไรไป พลาดที่ศึกษาโลกน้อย พลาดที่ไม่ทันโลก
เมื่อก่อนสำหรับคนบางกลุ่มอาจจะไม่ได้มองว่ามันเป็นการบูลลี่หรือการดูถูก แต่ว่าสมัยนี้ผมว่าคนส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกว่ามันควรจะเท่าเทียมกันแล้ว เลิกล้อเลียนเขาได้แล้ว เลิกดูถูกเขาได้แล้ว แม้จะมีคนที่เป็น LGBTQ หลายๆ คนที่มองว่าการที่ผมแอ๊กชั่นแบบนั้นก็ไม่ได้เป็นการบูลลี่เขาหรือดูถูกเขา แต่การที่ผมถูกเขาด่าเนี่ย ทำให้ผมเห็นโลกอีกมุมนึงว่า เฮ้ย มันมีคนบางกลุ่มที่รู้สึกว่าไม่โอเคกับสิ่งนี้ แล้วพวกเขาพยายามที่จะผลักดันให้เพศทุกเพศเท่าเทียมกัน ทำให้เราได้รู้ว่าเราพลาดตรงไหนไป พลาดที่ศึกษาโลกน้อยไป ว่า อ๋อ แบบนี้มันเป็นการดูถูกนะ”

พอเราสวมบทบาทเป็น LGBTQ+ ในละครเรื่อง คุณชาย ที่ต้องสะท้อนความกดดันไม่ได้การยอมรับจากครอบครัวด้วย มีความเข้าใจมากน้อยแค่ไหน? “ผมเข้าใจมากขึ้นนะครับ ผมเข้าใจคนที่เป็น LGBTQ+ มันไม่ใช่แค่การโดนกีดกันทางสังคม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่โดนกีดกันจากครอบครัวตัวเองมันจะยิ่งกว่าที่สังคมทำอีก คนเป็นพ่อเป็นแม่แล้วไม่เข้าใจเขา มันเจ็บ เพราะผมรู้สึกว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่สังคมไม่เข้าใจแต่มีที่บ้านเข้าใจมันก็เป็นแรงผลักดันให้มนุษย์หนึ่งคนสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้(น้ำตาคลอ)”

พอได้มาสวมบทบาทนี้ยิ่งทำให้รู้เลยว่าเขาเจ็บปวดยังไงบ้าง? “ใช่ครับ”

มาเล่นเป็น LGBTQ+ แต่กลับไปล้อเลียนพวกเขา?ก็โดนด่าไปแล้ว ผมเสียใจกับตัวเอง ผมไม่เสียใจที่ผมโดนด่า ทำไมเรารับบทที่เป็น LGBTQ เรายังมีความคิดแค่นี้จริงๆ เหรอ เราสมควรที่จะได้รับบทนี้จริงๆ เหรอ ผมอ่านทุกคอมเมนต์ครับ ส่วนใหญ่เขาจะด่า ผมใช้คำว่าด่าเลย ถามว่าเฟลไหม เฟลครับ แต่ถ้าปรับมุมมองตัวเองได้ แล้วผมยอมรับตัวเองให้ได้ว่าเราผิด เราพลาด ผมไม่สนอยู่แล้วว่าเขาจะให้อภัยเราไหม เพราะผมรู้สึกว่าเราไปนั่งขอโทษหรือไปง้อทุกคนไม่ได้ เราแค่เรียนรู้ รับรู้ ยอมรับว่าสิ่งที่เราทำไปมันผิด แล้วก็แค่แก้ไข ผมว่าการแก้ไขมันคือการขอโทษที่ดีที่สุด คือผมทวีตขอโทษไปแล้ว ผมก็รู้ว่าต่อให้ทวีตขอโทษไปก็โดนด่า แต่ผมได้พูดในสิ่งที่ผมอยากพูดไปแล้ว”

กลัวไหมว่าเขาจะไม่เปิดใจดูเรื่องคุณชาย? “กลัวไหมเหรอ แรกๆ ก็กลัวนะครับ แต่หลังๆ ผมไม่คิดอะไรแล้ว เพราะว่าหน้าที่ของเราคือทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ถ้าผมเล่นไปแล้วโฟกัสกับการที่คนจะไม่เปิดใจดูละครเรื่องคุณชาย มันทำให้ผลงานเรื่องคุณชายยิ่งแย่เพราะผมโฟกัสผิดที่”

ทุ่มเทกับบทบาทนี้มาก? “จริงๆ ผมทุ่มเททุกเรื่อง แต่ว่ามันก็ทำการบ้านหนักขึ้นกว่าเรื่องอื่นๆ ยอมรับเลยว่าเรื่องนี้ทำการบ้านหนักขึ้นจริงๆ เท่าที่รู้จะได้ดูช่วงกลางปีนี้ แต่ว่าตอนนี้กำลังถ่ายทำได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์แล้วครับ”

จากบอสวศิน (เมีย2018) มาเป็น เทียน เรื่อง คุณชาย ในวันนี้ แฟนๆ ว่าไงบ้าง? “5 ปีแล้ว ทุกคนก็ตื่นเต้นครับ ตื่นเต้นกับบทบาทใหม่ของผม ทุกคนรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เขาไม่เคยดูเลย หลังจากนี้ก็มี จันทร์กลางใจ ที่ถ่ายจบไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่ว่ายังไม่มีคิวออนไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกัน แล้วก็มีเรื่อง ฟ้าเพียงดิน ก็เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ จริงๆ น่าสนใจทุกเรื่อง อยากให้ดูทุกเรื่อง เราตั้งใจทุกเรื่อง แค่เรื่องคุณชายเป็นเรื่องที่ผมพลิกบทบาทของตัวเองจากที่เคยเล่นมาแค่นั้นเอง ก็อยากให้ทุกคนติดตามทุกเรื่องครับ นักแสดงทีมงานทุกคนทุ่มเทเหนื่อยกันมาเยอะในทุกเรื่อง หลายคนที่ดูละครอาจจะรู้สึกว่าการเป็นนักแสดงสบาย ทำงานแป๊บเดียวก็ได้เงิน ไม่ใช่เลย เราผ่านความยากลำบากในการทำงานมาเยอะมาก อยากให้ทุกคนสนับสนุนละคร ภาพยนตร์ อะไรก็ตามที่เป็นผลผลิตของประเทศไทย อยากให้สนับสนุนกันเอง คนไทยจะได้มีแรงผลักดันในการผลิตผลงานดีๆ ต่อไปครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน