บอย ปกรณ์ รับ เป็นคนมุ้งมิ้ง เรียก เฟย์ บู้บู๋ ให้กำลังใจ หน่อง ให้มูฟออน

บอย ปกรณ์ รับ เป็นคนมุ้งมิ้ง / อัปเดตสเตตัสหัวใจ เรียก “แฟน” ได้หรือยัง?! สำหรับพระเอกหนุ่ม บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และนักร้องสาว เฟย์ พรปวีณ์ นีระสิงห์ ที่อยู่ในช่วงอินเลิฟ อ้อนกันหวาน เรียกกัน บู้บู๋-บูบู้

ล่าสุด บอย ปกรณ์ เดินทางมาร่วมงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Aestox ในฐานะพรีเซนเตอร์ ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน

โดยภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงคำสรรพนามที่ใช้เรียก เฟย์ สาวคนพิเศษ พร้อมเผยถึงสภาพจิตใจหน่อง ธนา น้องชาย หลัง แพรวา อดีตแฟนสาวออกมายอมรับว่ายุติความสัมพันธ์

ยังไงเอ่ย เรียกบู้บู๋ ออกเสียงยังไง? “ความจริงแล้ววันนั้นที่เฟย์เขาพูด เขาน่าจะหมายถึง ‘บู้บู๋’ ความจริงผมกับเฟย์มีคำเรียกกัน ไม่ค่อยตายตัว บางทีเป็นคำว่า บูบู้บ้าง บู้บู๋ บ้าง แล้วแต่การพิมพ์ แล้วแต่การเรียก ตามจังหวะหรือบริบทในการใช้ ส่วนใครเป็นคนคิด ผมไม่แน่ใจนะ มันเหมือนกับเกิดขึ้นมาจากทั้งคู่ ไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นวันแรกคือตรงไหน”

เพราะเราชอบไปอ้อนเขาหรือเปล่า? “ก็มี คือผมเวลาทำงานเสร็จหรือเวลาถ่ายละครเสร็จเหนื่อยๆ ก็โทรไป เหมือนได้คุยกับเขา ได้ยินเสียงเขา เราก็ได้เติมพลัง (อ้อนด้วยเสียง18?) คือเราคุยกับคนที่เรารู้สึกดีด้วย โอเคภาพเราอาจจะดูเป็นผู้ชายแมนๆ แต่เวลาคุยเราก็มีเสียงที่อ่อนลงมาบ้าง ให้การคุยมันดูมีความมุ้งมิ้ง กระหนุงกระหนิง ฟีลลิ่งมันเป็นแบบนั้น

ประมาณไหน? “(ยิ้ม) สมมติโทรไปก็แบบ บู้บู๋ทำไรอยู่ ประมาณอย่างนี้ ทำอะไรอยู่บ้าง ทักทาย พูดคุยครับ(โทนเสียงแบบนี้?) อาจจะอ่อนกว่านี้หน่อย”

คุณแม่ว่ายังไงบ้างสำหรับคนนี้?ดีครับ ความจริงแล้วเขาก็ดีใจที่เรามีคนที่คอยคุย เป็นคนที่คอยเป็นคู่คิดให้เรา แล้วยิ่งเป็นเฟย์ด้วย แม่เขาก็ชอบแหละครับ เขาก็ชอบเฟย์

ตอนนี้เรียกแฟนได้ยัง? “ตอนนี้ยัง สำหรับผมกับเฟย์ เรายังไม่ได้ตกลงกันเป็นแฟนเลยจริงๆ (ตอนนั้นเขาบอกว่าให้ทางเราเปิดก่อนได้ไหม?) คือมันไม่ใช่ว่าใครเปิดก่อน หรือว่าใครเปิดหลัง แค่ว่าเราสองคนยังไม่ได้ตกลงว่าเป็นคำนั้น ซึ่งสำหรับผมแล้ว ผมก็ไม่ได้กั๊กหรอกว่าเป็นแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าไม่เป็น มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกั๊กอยู่แล้ว ถ้า ณ วันหนึ่งความสัมพันธ์มันไปถึงจุดนั้น ผมก็ตอบไปตามตรง”

 

พอมันถึงวันนั้นก็จะขอเป็นแฟนเลยไหม? “ผมว่ามันต้องมีแหละ (สร้างโมเมนต์พิเศษ?) คือเรื่องการสร้างโมเมนต์พิเศษขึ้นมา ผมก็ไม่ได้คิดไปถึงจุดนั้น ตัวผมเองไม่ได้เป็นคนที่ต้องสร้างมันขึ้นมา หรือทำอะไรแบบใหญ่โต เราก็เป็นคนที่ชอบอะไรเรียบง่ายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเกิดจังหวะวันหนึ่งความรู้สึกมันพอเหมาะพอดี ผมว่ามันก็คงเกิดขึ้นเองตามความเหมาะสม”

ด้วยความขี้อ้อนของเรา สังเกตตัวเองไหมว่าเราเปลี่ยนไปเบอร์ไหน? “(หัวเราะ) คือเราก็มีคนที่ทำให้เรามีความสุข มีคนที่อยู่ข้างๆ พอเราอยู่ด้วย เราก็อยากมีโมเมนต์ให้ได้อ้อนเขา หรือว่าพูดคุยแบบเสียงสองกับเขาบ้าง เป็นอะไรที่เติมเต็มความรู้สึกให้เรา”

ใครอ้อนเยอะกว่ากัน?ผมว่าทั้งคู่นะ แต่ก็มีจังหวะโมเมนต์ทั้งคู่เป็นช่วงคุยมุ้งมิ้งกระหนุงกระหนิง ตัวเฟย์เองเขาก็เป็นคนน่ารักอยู่แล้ว เขารู้ว่าเราทำงานเหนื่อยๆมา เขาก็คอยให้กำลังใจเรา มันก็เหมือนกับคอยซัพพอร์ตกัน

บางทีช่วงที่เขาเหนื่อยเราก็ให้กำลังใจเขา มีการขอคำแนะนำกัน พูดคุย ความจริงแล้วความรู้สึก ความสัมพันธ์ของเราสองคน การพูดคุยมันก็เหมือนผู้ใหญ่คบกัน มีเรื่องราวอะไรก็มาปรึกษากันพูดคุยกัน แต่แน่นอนเวลาคบกัน คุยกัน ชอบกัน มันก็ต้องมีจังหวะมุ้งมิ้งกันบ้าง”

เฟย์เขาเซอร์ไพรส์มาก เพราะไม่เคยเห็นมุมนี้ของเรา? “ผมว่าก็คงไม่ใช่แค่เฟย์ครับที่เซอร์ไพรส์ หมายถึงว่าหลายๆคน ที่ได้รับรู้ว่าผมมีโมเมนต์พวกนี้ หลายๆ คนอาจจะมองว่าผมมีบุคลิกที่แบบฮาๆ หรือบางทีก็แมนๆ ไปเลย แบบไม่ได้คิดว่าผมจะมีมุมมุ้งมิ้งอะไร ครั้งแรกๆ เขาก็เคยบอกผมเหมือนกันว่าเขาก็แปลกใจเหมือนกันที่มีโมเมนต์อ้อนๆ”

คนรอบข้างเขาทักไหมว่าเราเปลี่ยนไป? “ก็มี เพื่อนๆแหละ แก๊งผม(แก๊งเราเขาแซวขึ้นเยอะไหมจากเดิม?) แซว มีแซวบ้าง คำเรียกอะไรก็ตาม อย่างวันนั้นล่าสุดมีประชุมงานกันของทีม มี อาเล็ก, เกรท, เจมส์จิ, เป๊ก พอดีว่าเฟย์เขาเสร็จงานเขาก็ตามมาสมทบ

ผมก็เรียกเขาว่าบูบู้ อาเล็กก็พากันกวน อาเล็กก็พูดบู้กินยัง(ยิ้ม) มีบ้างหยอกๆกัน เขาก็มีพูดบ้างว่าเรามีซอฟต์ขึ้นนะ หมายถึงเพื่อนๆนะ ครับ พอไปอยู่ด้วยแล้วมีความซอฟต์ขึ้น แบบไม่ได้กระโชกโฮกฮากกับพวกมัน”

อยู่กับเฟย์ก็จะตัวเล็กไปเลย? “นิ่งขึ้นละกัน”

ให้เวลาตัวเองแค่ไหนกับคำว่าแฟน?ความจริงแล้วตัวผมเองไม่ได้ว่าจะต้องจำกัดเวลา หรือมีลิมิตว่าจะต้องกี่เดือน ผมว่ามันขึ้นอยู่กับความรู้สึก แล้วก็ความเหมาะสมที่เกิดขึ้น ผมว่าถ้ามันจะเกิดขึ้นเอง แล้วผมก็ไม่กั๊กแน่นอน

เฟย์เรียกบอยกลับว่าอะไร? “เขาก็เรียกกลับอย่างเนี้ยแหละ ปกติก็จะมีทั้งคุณ มีผม มีเรียกชื่อ มีเค้า บูบู้ และบู้บู๋ ก็เรียกวนกันไป ผมได้หมด คือเวลาเขาเรียกเรามาด้วยคำที่มันน่ารัก ก็ทำให้เรารู้สึกว่าน่ารักอ่ะ”

คู่เรามีความสุขแฮปปี้? “แฮปปี้ครับ ดีครับ คือเหมือนกับว่าเราเข้าใจซึ่งกันและกัน เติมเต็มซึ่งกันและกัน อย่างที่ผมบอก น้องเขาเป็นคนที่แบบค่อนข้างเป็นคนที่ใส่ใจความรู้สึก เขาก็จะมีความน่ารักในมุมตรงนี้ของเขา”

หน่องน้องชายเราสภาพจิตใจเขาเป็นยังไงบ้างหลังเลิกกับแพรวา? “ความจริงแล้วที่บ้านก็รับรู้กัน อาจจะไม่ได้รับรู้กันแบบเรียลไทม์นะ คือที่บ้านบางทีเรื่องความรัก ด้วยความที่มันเป็นบ้านผู้ชาย บางทีไม่ได้อัปเดตกันเรียลไทม์หรอก บางทีเกิดเรื่องราวอะไรในตัวเขา กว่าเราจะมารู้ก็ผ่านไปแล้วหลายวัน หรือว่าเป็นอาทิตย์

แต่ว่าพอได้รับรู้จากปากของหน่อง เขาก็ซึมๆแหละ เขาก็มีโมเมนต์หงอยๆ ซึมๆ เศร้าๆ แต่ถ้าเกิดใครเคยได้ยินที่บ้านผมสัมภาษณ์ คือจะรู้ว่าพี่น้องบางทีไม่ค่อยได้คุยกันเลย แต่จะคุยกันผ่านคนกลาง หน่องก็จะไปเล่าให้แม่ฟัง แม่ก็จะมาเล่าให้ผมฟัง หรือเล่าให้ภัทรฟัง แม่เขาก็จะบอกว่าชวนหน่องมันไปกินข้าวบ้างพรุ่งนี้

เราก็ไม่อยากจะไปพูดอะไรที่ไปสะกิดหรอก เราก็บอกไปหน่องเดี๋ยวไปกินข้าวกัน ไปเดินเล่นด้วยกันเปล่า ก็ชวนกันแค่ให้เขาหลุดออกจากสิ่งที่เขาต้องกังวลหรือเครียดอยู่ ให้เขาได้มาทำกิจกรรมอะไรที่ปลดปล่อยบ้าง

เขาซึมเยอะไหม? “เขาก็มีความซึมแหละครับ เขาก็มีความหงอยๆ แบบไม่ค่อยอยากกินอะไรบ้าง ผมว่ามันเป็นปกติของทุกคนเนอะ เวลาที่ต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

เป็นห่วงเขาขนาดไหน? “เป็นห่วงเขาในระดับหนึ่ง แต่ว่าเราก็พอจะรู้จักน้องชายของเราเหมือนกันว่าแน่นอนตรงนี้ผ่านสิ่งที่ยากลำบากมา ต่างคนต่างเสียใจแน่นอน แต่ว่าผมว่าเรื่องของระยะเวลามันก็จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง ซึ่งตอนนี้เวลามันก็ผ่านมาพักนึง ตัวหน่องเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ”

เมื่อวานแพรวาออกมาพูด บอกว่าฝากให้แม่ ให้เฮียช่วยดูแล เพราะต่างฝ่ายต่างเจ็บอยู่? เราก็รู้ครับ มันเป็นเรื่องที่สองคนต้องแยกกันไป แน่นอนต่างคนต่างเจ็บและเสียใจอยู่แล้ว เราเองในฐานะที่เป็นครอบครัว ก็ดูแลความรู้สึกกันแน่นอนอยู่แล้ว คอยประคับประคอง

ตามลักษณะว่าสไตล์ใครสไตล์มันด้วย บ้านผมก็จะเป็นประมาณอย่างนี้ หน่องก็จะปรึกษาแม่แหละ อย่างผมก็จะเป็นลักษณะไม่ค่อยไปพูดเยอะ ไม่ค่อยไปสะกิดเยอะ แต่รับรู้ และเป็นห่วงอยู่ ดูอยู่ห่างๆ ชวนเขาไปทำอย่างอื่นให้รู้สึกผ่อนคลาย

ตอนทราบข่าวตกใจไหม เพราะตอนปีใหม่เพิ่งปาร์ตี้กันเอง? “เอาจริงๆก็ตกใจแหละครับ ตกใจครับ เพราะว่าก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รับรู้ถึงสัญญาณอะไรมากมาย”

หน่องก็ไม่ได้มีมาคุยกันก่อนหน้านี้? “ใช่ อย่างที่ผมบอก บ้านผมผู้ชาย 3 คน ไม่ค่อยจะมาปรึกษาเรื่องความรักอะไรหรอก”

2 เดือนผ่านไปเป็นยังไงบ้าง? “อย่างที่ผมบอกครับ พอระยะเวลามันผ่านไปเรื่อยๆ ผมว่าเขาก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่ถ้าเกิดไปถามว่าเขายังรู้สึกอะไร เขาต้องรู้สึกอยู่แล้วแหละ เขาก็ยังไม่ได้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม เราก็แค่ไม่อยากไปสะกิดเขา สงสารเขา สงสารทั้งคู่เอาจริงๆ คือตัวเราก็ได้อยู่ในช่วงที่เขาทั้งสองคนคบกัน เหมือนเวลาเขามาเที่ยวที่บ้านผม เขาก็น่ารักก๊องแก๊งของเขากัน

แต่พอเขาแยกจากกัน รู้สึกว่าสงสารทั้งคู่แหละ เขาต้องเสียใจกันทั้งคู่อยู่แล้ว ผมว่าทุกคนพอแยกกัน เสียใจ แต่ในเมื่อทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ต่างคนก็ต่างที่จะต้องหาวิธีที่จะมูฟออนตัวเอง รักษาแผลใจตัวเอง อย่างหน่องเขาก็ไม่ได้เป็นคนที่มีเพื่อนฝูงเยอะแยะ ทุกวันนี้เขาก็จะอยู่กับวันใหม่ พาน้องไปโน่นไปนี่ ผมว่าเป็นวิธีในการมูฟออนของเขาด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน