อาหลี ว่าที่เจ้าสาว ตูมตาม เปิดใจเล่า อยากคบเงียบๆ เพราะเพิ่งเข้าวงการ เม้าธ์ฝ่ายชายเจ้าชู้จอมปลอม
อาหลี ว่าที่เจ้าสาว ตูมตาม / คุกเข่าขอแต่งงานกันหวานฉ่ำไปเมื่อวันที่14 กุมภาพันธ์ 65 ที่ผ่านมา สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ตูมตาม ยุทธนา เปื้องกลาง” กับแฟนสาว “อาหลี อัฐริญญา อึ้งศิลป์ศรีกุล” และวางแผนว่าอีก 2-3 ปี ถึงจะจัดงานแต่ง เพราะตอนนี้กำลังอยู่ที่การสร้างเรือนหอ
ล่าสุด 29 ก.ค เจอว่าที่เจ้าสาวคนสวยในงานบวงสรวงละคร “วิวาห์ฟ้าแลบ” ที่ บริษัท พอดีคำ ซอยรามคำแหง 140 เลยคว้าตัวมาเปิดใจถึงข่าวดี และย้อนเส้นทางรักของทั้งคู่ ว่าอะไรที่ทำให้ตูมตามเอาชนะใจเธอ จนตกลงแต่งงาน
ว่าที่เจ้าสาวเล่าย้อนโมเมนต์ถูกขอแต่งงานหน่อย? “โมเมนต์ตอนนั้นเหรอคะ เขินค่ะ หนูมีแต่คำว่าเขิน ทำตัวไม่ถูกเลยจริงๆ ก็คือเราดูออกสักระยะสักแป๊บแล้วล่ะค่ะ พอถึงสถานการณ์จริงทำอะไรไม่ได้เลยคือหัวเราะอย่างเดียว เขาไม่มีคำว่าเนียนเลยค่ะ ”
เราบอกว่ามีการจับไต๋ออก แสดงว่าก่อนหน้านี้จะต้องมีการคุยเรื่องการแต่งงานมาแล้ว? “(หัวเราะ) เขาพาหนูไปเลือกแหวน คือหนูไม่ได้พูดที่ไหนเลยนะคะ คือหนูก็เลยรู้ แต่เราก็คิดว่าเขาอาจจะคงเตรียมการ ให้เราไปดูไว้จะได้ถูกใจ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะไม่เนียนเกินไปขนาดนั้น วันนั้นก็ไม่เนียน คือเขาพาไปซื้อดอกไม้ชิลๆ เล่นๆ แต่หนูเห็นว่าเขาชิลจัด หนูก็มีความลังเลเหมือนกันนะคะว่าใช่หรืออาจจะไม่ใช่ พอสุดท้ายเขาขอแต่งงานปุ๊บ เฮ้ยเขาลืมคุกเข่าด้วย ตลกมาก พอหนูสะกิดเขาคือรู้นะว่ากล้องตั้งอยู่ หนูก็บอกว่าลืมอะไรหรือเปล่าคะพี่ ขอแต่งงานต้องคุกเข่านะ เขาก็บอกว่าลืมถ่ายตอนที่ขอแต่งงาน”
คบกันมานานขนาดไหนแล้ว เขาถึงตัดสินใจขอแต่งงาน? “ก็ประมาณปีหนึ่งค่ะ แต่หลักๆ เลยตั้งแต่ที่เราเริ่มคบกันมันเป็นความรู้สึกที่ว่าเราคุยกับคนนี้แล้วมันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เราคุยด้วยแล้วเรารู้สึกสบายใจแล้วมันรู้สึกว่าเป็นตัวของตัวเอง เพราะว่าแม่บอกว่า เวลาคบใครก็ต้องถามตัวเองซ้ำๆ ว่าเราเป็นตัวเองมั้ย เรารู้สึกฟรีมั้ย แล้วเวลาอยู่กับพี่เขา หนูรู้สึกแบบนั้นและที่สำคัญเราสัมผัสได้ถึงความรักความเอาใจใส่ที่มีให้ซึ่งกันและกัน เพราะว่าถ้าถึงจุดๆ หนึ่งมันก็จะมีคำตอบบางอย่างที่เวลาเรามองหน้าคนๆ หนึ่งเราจะรู้สึกได้ว่าเออคนนี้แหละ”
ส่วนตัวคิดยังไงกับการตัดสินใจในเวลา 1 ปี? “จริงๆ ก็หนูก็มองว่าเร็วเกินไปนิดหนึ่ง แต่พอพูดถึงว่าเราเจอสถานสถานการณ์อย่างโควิด ก็ไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องรีรอหรือว่าจะต้องปล่อยเวลาไป ถ้าเราคิดว่าจะ keep going กับคนๆ นี้ เพราะฉะนั้นเราก็ลุยไป ไม่ใช่ว่ามากดแค่หยุดไว้ หยุดชะงักไว้เพียงเพราะว่าเร็วไป มันไม่เพียงพอค่ะ ในเมื่อความรู้สึกที่มีต่อกันมันลุย เพราะว่าทางข้างหน้าถ้าเราไม่ทำ เราก็จะไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง”
ในช่วงแรกก็จะเห็นว่าตูมตามค่อยๆ เปิด อาจจะเป็นภาพเบลอ ภาพเงา ภาพด้านข้าง ตอนนั้นมีการพูดคุยกันไหมว่าห้ามเปิดหรือตกลงกันยังไงในการเปิดตัว? “คือหนูอ่ะคุยกับพี่เขาว่าไว้เงียบๆ ก็ได้ เพราะว่าหนูอ่ะเพิ่งเป็นน้องใหม่ เพิ่งเข้ามาในช่อง ก็ค่อยๆ เรียนรู้งาน ค่อยๆ เรียนรู้ไป ค่อยๆ เห็นผลงานเรา
Advertisement
แต่ว่าฝั่งนั้นด้วยความคลั่งรัก แล้วเขามีความสุขแล้วรู้สึกว่าเขาอยากลง เขามีความสุขมากๆ เราก็โอเคค่อยๆ ไปแล้วกัน แต่สุดท้ายแล้วก็นี่แหละค่ะ(หัวเราะ) เพราะว่าจริงๆ แล้วตอนแรกๆ มันก็มีความรู้สึกกลัว เราไม่รู้ว่าฟีดแบ็กจะเป็นยังไง เราจะโดนอะไรหรือเปล่า มันมีความกลัวค่อนข้างเยอะ นี่สารภาพเลย ก็ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปก็ได้ ถ้าเราสองคนอยู่ด้วยกันเรามีความสุขแค่นี้พอแล้ว แต่พอมันเป็นไปว่าคนเริ่มรู้ ก็โอเค ไม่เป็นไรงั้นเราก็ลองลุยอีกสเต็ปหนึ่งดูจะได้รู้ว่าเป็นยังไง ก็จะได้หรือยึดหลักลุยต่อไป ต่อไปจะได้เรียนรู้กัน”
หลักๆ คือกลัวฟีดแบ็กด้านลบ? “ก็ต้องบอกว่าแอบกลัวว่ามันจะมีฟีดแบ็กด้านลบ ไม่รู้สิ ด้วยความที่เราเป็นเด็กใหม่ ก็จะมีความกลัวค่อนข้างเยอะค่ะ มีหลากหลายอย่างที่เรารู้สึกว่าเราต้องกังวล นี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ”
เห็นเม้าธ์ว่าเขาเป็นคนมุ้งมิ้ง อยากรู้ว่าวิธีการเข้ามาจีบของเขาว่าเป็นยังไง? “วิธีการเข้ามาจีบใช่มั้ยคะ เขาเข้าผ่าน คุณแนท อนิพรณ์ ค่ะ เราได้รับสายสารมาจากพี่แนทว่าพี่ตูมตามชอบนะอาหลี พอหนูได้ยินชื่อหนูก็เอ๊ะ เขาพูดเล่นหรือเปล่า พี่แนทอำหนูหรือเปล่าเนี่ย แต่พี่แนทก็จะมาพูดตลอดว่า ถ้าเหงาทำไมไม่ไปคุยกับพี่ตูมตาม แล้วก็แบบนิ่งๆ เฉยๆ เขาก็จะคอยชง แต่ตอนแรกเราก็นิ่งๆเฉยๆ
ทางนั้นเขียนทักมี DM มาบ้าง เขียนนั่นทักนี่จนเรารู้สึกว่า เราก็สังเกตไว้หลายเดือนผ่านมาแล้วทำไมตาคนนี้ยังไม่ไปไหนสักทีเลย หนูก็เลยตัดสินใจว่า หนูจะลองคุยกับพี่ให้รู้แล้วรู้รอด พี่จะได้เลิกชอบหนูเพราะว่าหนูคิดว่าหนูไม่ใช่สเป๊กพี่แน่ๆ มันก็แต่สุดท้ายแล้ว พอเราได้คุยกัน เราได้เปิดใจ เขาก็เป็นอีกคนไม่ใช่เป็นแบบที่เราคิดไว้เลย มันก็เป็นอะไรที่ surprise แล้วพอเราเปิดใจอ่ะ เราก็เลยแบบ..โอ้ยไม่รู้ตอบตรงประเด็นมั้ย เขิน (ยิ้ม)”
ช่วงนั้น มันเป็นช่วงที่แนทกับตูมตามเขามีกระแสจิ้นกัน แต่พอตูมตามบอกว่ามีแฟน แล้วก็มาจากแนทเป็นคนแนะนำให้ หลายคนก็เลย surprise ? “เขาจิ้นกันเนาะ ใช่ค่ะเขาสนิทกัน แต่หนูก็ไม่รู้ว่าพี่แนทเขามองยังไง เขาถึงแนะนำให้”
ขอแต่งแล้วสเต็ปต่อไปวางแผนไว้ยังไงบ้าง? “สเต็ปต่อไปก็จะเป็นของการสร้างเรือนหอ ส่วนฤกษ์งานแต่งมันก็ต้องดูทั้งฤกษ์งามยามดี ซึ่งมันจะเป็นเรื่องพิธีที่ผู้ใหญ่เขาจะต้องเข้ามาช่วยดู เราก็จะทำในส่วนของเรา คือเลือกที่สร้างบ้าน ออกแบบไปด้วยกัน ถ้าเรือนหอเสร็จก็อาจจะแต่ง มันอาจจะพอดีกับฤกษ์ ในเรื่องของฤกษ์ก็วางไว้น่าจะอีกประมาณ2 ปี มันก็จะบวกแล้วระยะเวลาก็จะพอดีกับที่เราสร้างบ้านสร้างเรือนหอเสร็จ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็คุยกันแบบยืดหยุ่นตลอดว่าถ้าอยากแต่งกันแล้วอยู่ดีๆ วันไหนเราอยากแต่งกันแล้ว เรือนหอเสร็จไม่ทัน ก็อาจจะ surprise ก็ได้นะ แต่ตอนนี้เราก็วางไว้แค่ว่าสร้างเรือนหอให้เสร็จแล้วก็แต่ง”
มีตัวอย่างหลายคู่ที่ขอไว้แล้วยังไม่แต่งในทันที ก็อาจจะไม่ได้ไม่ดำเนินต่อไป เรามองยังไงและเชื่อใจแฟนเรามากแค่ไหน? “ก็อย่างที่บอก เราคุยว่าเราแค่ลุยไปกับมัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราก็พร้อมที่จะรับค่ะ ไม่ว่าจะเกิดทางดีหรือว่าร้าย เพราะหนูเชื่อว่าในสักวันหนึ่ง มันจะมีเหตุผลในของมัน ที่เราจะสามารถให้คำตอบกับมันได้ เราไม่อยากอยู่ไปกับความคาดหวัง และตีกรอบว่าควรจะต้องเป็นอย่างนั้น คุณจะต้องเป็นอย่างนี้ หรือเราจะต้องเป็นแบบไหน แต่เราเน้นที่ว่าเราอยู่ด้วยกันมีความสุขไปด้วยกันและสบายใจไปด้วยกัน เพราะคำว่าชีวิตคู่มันคือตลอดทั้งชีวิตที่เราอยากจะอยู่ด้วยกัน”
ตูมตามถือว่าติดหนึ่งในดาราชายที่มีกระแสข่าวของความเจ้าชู้ ในฐานะที่เราได้สัมผัสแล้วเขาเป็นยังงั้นจริงๆ ไหม? “นั่นแหละค่ะ แต่พอสัมผัสจริงๆ เขาเจ้าชู้จอมปลอมอ่ะ เขาชอบพูดเล่น พูดหยอก แต่จริงๆ แล้วเขาเหมือนหมาน้อยอ่ะ ไม่รู้สิคะ คือเขาไม่กล้า เรียกว่าใจปลาซิว(หัวเราะ) คือทำทรงเจ้าชู้ไปอย่างงั้น แต่จริงๆ ไม่มีอะไรเลย เป็นคนที่ไม่ใช่เป็นคนแพรวพราว เพราะว่าอย่างเราเป็นผู้หญิง คนที่เราอยู่ด้วยเราจะมีเซนส์ เราจะรู้สึกได้ว่าบางคนเจ้าชู้มันจะเงียบๆ มันจะเป็นทรงอีกแบบหนึ่ง แต่ว่าไอ้ทรงเล่นๆ แบบเนี่ย เรามาสัมผัสอยู่ใกล้ๆจริงๆ แล้ว ยิ่งแบบไม่ค่ะ ไม่เลย”
ขอบคุณรูปจากไอจี
