“เข้ม หัสวี” ดีใจ ดังขึ้นจากละครบทเดียวกับ “อาแอ๊ด” ด้าน “เติ้ล ตะวัน” เจอ “ลุงแอ๊ด” มาตั้งแต่เด็ก ยกเป็นไอคอนพระเอกตัวจริง
วันที่ 18 ส.ค 65 ณ โซนเซ็นทรัลคอร์ท มีการจัดงาน “7HD ความสุขครบรส กด 35” พร้อมเปิดคอนเทนต์ “สุข สนุก ครบรส” มีพระเอกหนุ่ม “เข้ม หัสวี” และผู้จัด “เติ้ล ตะวัน จารุจินดา” 2คนในวงการบันเทิงที่เคยได้ใกล้ชิดกับ “สมบัติ เมทะนี” ได้ให้สัมภาษณ์แสดงความเสียใจกับการจากไปของพระเอกตลอดกาล
โดยเข้ม เป็นนักแสดงรุ่นหลัง ซึ่งเคยได้รับบทเดียวกันกับที่ สมบัติ เมทะนี เล่นไว้ในภาพยนตร์เรื่อง เผาขน โดยพระเอกหนุ่มเล่นในเวอร์ชั่นของละคร
ส่วนทาง เติ้ล ตะวัน เล่าย้อนความหลัง ในฐานะที่เคยเจอ สมบัติ เมทะนี มาตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นเพื่อนกับพ่อ (สายัณห์ จันทรวิบูลย์)
สำหรับการจากไปของ สมบัติ เมทะนี ด้าน เข้ม หัสวี เผยว่า “อาแอ๊ดถือเป็นปูชนียบุคคล ซึ่งจริงๆผมก็เคยเจออาแอ๊ดอยู่ในค่ายละครโคลีเซี่ยม ซึ่งเข้มมาเล่นละครเรื่องเผาขน ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่คุณอาเคยเล่นมาก่อน ของเราเป็นเวอร์ชั่นละคร ส่วนเรื่องราวของอาแอ๊ด ส่วนใหญ่จะได้ฟังมาจากคุณตาแล้วก็อาจารย์ยอดเล่าเรื่อง แล้วก็จะมีคุณตาคุณยายเล่าให้ฟังว่าอาแอ๊ดเท่แล้วก็มีความเป็นพระเอกตลอดกาลยังไงในเวลาที่เขาอยู่ แล้วก็จะได้ยินเรื่องของอาแอ๊ดในกองละครของโคลีเซี่ยมบ่อยมากๆ”
ในฐานะที่เราก็ไปเล่นในบทที่อาแอ๊ดเคยเล่นได้มีโอกาสคุยหรือเขาได้เคยมีโอกาสให้คำแนะนำเรื่องการแสดงบ้างไหม?
“ตอนนั้นก็จะเป็นการให้พรแล้วก็ฝากละครในภาพของเผาขนให้เราดูแล เผาขนก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งละครที่ทำให้คนรู้จักเราเพิ่มขึ้น ก็ดีใจครับแล้วก็เสียใจกับครอบครัวของคุณอาด้วยครับ ”
ส่วนตัวเราทราบข่าวตกใจขนาดไหน?
“ก็ตกใจครับ ก็เสียใจ หลายๆคนก็คงจะเสียใจกับการจากไปของคุณอา คุณอาก็ถือว่าเป็นพระเอกที่อยู่ในใจหลายๆคนเลย เข้มก็อยากจะขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณอาแอ๊ดแล้วก็ขอให้คุณอาไปสู่ภพภูมิที่ดีครับ”
อาแอ๊ดเป็นต้นแบบในการทำงานของเราในเรื่องไหน?
“ส่วนใหญ่ที่ได้ยินจากกองละครก็จะเป็นการใช้ชีวิตในกองถ่าย เวลาที่เราให้คิวใครให้คิวละครแล้วก็อยู่ในกองละครทั้งวัน ก็คงจะเป็นการใช้ชีวิตมากกว่าที่เราได้ยินแล้วเราได้สัมผัสจากหลายๆคนที่ได้พูดถึงท่าน”
Advertisement
ทาง เติ้ล ตะวัน เผยว่า “ผมจะเรียกว่าลุงแอ๊ด ก็จะเป็นในสมัยเด็ก เราก็เคยเดินผ่านไปผ่านมาในกอง แล้วก็เคยเจอท่าน ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในวงการบันเทิง เพราะว่าผมเติบโตมาก็เห็นว่าพ่อผมก็จะเป็นเพื่อนกับเขา จะมีกลุ่มที่ชื่อว่า 25 ซึ่งเราก็เคยได้ฟังคุณพ่อกับลุงแอ๊ดเป็นเพื่อนกัน ผมก็เคยเจอกระทั่งเวลาที่แม่มิตติ้งต้องกินข้าว ก็นานแล้วครับตั้งแต่ผมเด็กๆ
คือภาพจำระหว่างผมกับลุงแอ๊ด จริงๆแล้วจะมีช่วงหนึ่งได้มีโอกาสที่ได้มาเคยทำหนัง ของอาดอกดิน กัญญามาลย์ แล้วก็เคยได้ดูหนังของลุงแอ๊ดหลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นที่ผมชอบมากก็คือสิงห์สำอาง
จริงๆแล้วลุงแอ๊ดเหมือนกับเป็นไอคอนของหนังไทยแล้วก็เป็นไอคอนของพระเอกตัวจริง แม้กระทั่งอายุ 85 ปีแล้ว ท่านก็ยังดูดีและยังดูเป็นพระเอกอยู่ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวเมทะนีด้วยนะครับ แล้วก็ขอแสดงความเสียใจกับคนในวงการด้วยที่เราได้สูญเสียคนบุคคลสำคัญแล้วก็บุคคลต้นแบบในหลายๆเรื่องไป
จริงๆเราก็อยากจะให้ทุกๆคนในวงการบันเทิงนะครับ อยากให้ดูลุงแอ๊ดเป็นต้นแบบ ก็คือการทำงานตั้งแต่ชีวิตของลุงแอ๊ดตั้งแต่เข้ามาทำงานตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายเขาก็ยังเป็นคนสำคัญในวงการบันเทิง เพราะฉะนั้นก็ขอให้น้องน้องรุ่นใหม่ที่เข้ามาในวงการบันเทิงหลายๆคนจะได้เห็นว่ากว่าเขาจะมาถึงตรงเนี่ยบอกได้เลยว่าการทำงานในสมัยก่อนเป็นยังไง ก็ขอให้ลุงแอ๊ดไปสู่ภพภูมิที่ดีนะครับ แล้วก็ไปสร้างความสุขอยู่บนสวรรค์ครับ”
