แจ๊ส-แจง ไม่รับงานเว็บพนัน อย่าลากผมไปเดือดร้อน เสียเวลาแจ้งความ
ก่อนหน้านี้ แจง ปุณณาสา ออกมาโพสต์เดือด เรื่องที่เว็บพนันออนไลน์นำรูป แจ๊ส ชวนชื่น สามีไปใช้เชิญชวนเล่นพนัน ห่วงแฟนคลับหลงเชื่อ ทำเสื่อมเสีย จึงได้ออกมายืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมแจงไม่ได้เอฟเสื้อตัวละ 1.5 ล้านบาท
ล่าสุด แจ๊ส-แจง ได้มาร่วมถ่ายเอ็มวีเพลงและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในงานถ่ายมิวสิควิดีโอ เพลง “ขอตายก่อน” ของศิลปินวง INSTINCT ที่ CASA PAPA อ.นครชัยศรี ถึงประเด็นดังกล่าว
ถูกเอาชื่อกับรูปแจ๊สไปโปรโมตเว็บพนันออนไลน์?
แจง : “เอารูปไปใช้ในทางที่ผิดอ่ะ เช่นเว็บการพนัน กว่าเราจะทำงานได้มาถึงจุดๆ นี้ เราก็มีพรีเซ็นเตอร์ในหลายๆ ตัว เพราะฉะนั้นคุณเอาไปใช้โดยที่ไม่ได้จ้างเรา แล้วถึงจ้างเราก็ไม่รับอยู่แล้ว การพนันเป็นสิ่งที่ไม่ดีอยู่แล้ว แล้วใช้ทั้งรูป ใช้ทั้งชื่อ เราก็มองว่าน่าจะมีระบบป้องกันที่มันดีกว่านี้ เพราะการที่เราไปแจ้งความในแต่ละครั้ง 1 เสียเวลาแน่ๆ ละ 1 วัน แล้วก็มีไปสอบสวนอีก 1 วัน แล้วเราก็ไม่ได้อะไรกลับมา แล้วสมมติว่าเขามองเราในแง่ลบ ทำให้เราเสียชื่อเสียง มันไม่มีใครป้องกันเรา”
เห็นเถียงกับแอดมิน? แจง : “คือตอนนั้นเพิ่งตื่น ไปด่าเขาเสร็จ ก็ไปบอกผัวพี่คนนี้ค่ะ เราก็รู้สึกขำตัวเองว่าทำไมไม่คิด ไปด่าเขาเสร็จแล้วก็ไปพูดกับเขาคะ ขา อย่างเนี้ย ไปบอกว่าเป็นบาปไปอีก รู้งี้ด่าเยอะๆ กว่านั้นก็ดีนะ”
พอแจ๊สรู้แล้วรู้สึกอย่างไร? แจ๊ส : “จริงๆ แจงเป็นคนไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว แต่เอาจริงๆ ถ้าไม่มีแจงอยู่นะ ก็คงเฉยๆ เพราะเรามีความรู้สึกว่าคนทำดีก็ได้ดี คนทำไม่ดีเดี๋ยวก็ต้องมีอะไรกลับมา แต่พอแจงบอกไม่ได้ ก็จริงๆ เดี๋ยวมันจะเดือดร้อนมาถึงเรา”
แจง : “ใช่ เพราะว่าบางคนที่เขาไม่รู้ ไม่ได้เสพข่าว เสพสื่อ การที่มีรูปแจ๊สมั่นใจ พิมพ์ไปถึงขนาดนั้นอ่ะ เขาก็ต้องคิดอยู่แล้วว่าโห เดี๋ยวนี้มาสายการพนันเลยเหรอ ซึ่งถ้าเกิดเราไปรับงานแบบนั้น เราจะสอนลูกเราได้ยังไง ถูกมั้ย เพราะมันเป็นสิ่งไม่ดี อันนี้เว็บมันเยอะจริงๆ นะ อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ช่วยดูหน่อย”
ตอนนี้จะดำเนินการยังไง? แจง : “ยังค่ะ เดี๋ยวว่าจะไปแจ้งความปลายเดือนพร้อมกับอันเก่าๆ ที่เราจะต้องไปให้ปากคำ”
ทักไปเป็นอย่างไร? แจง : “ทักไปเขาก็มีบอกเลขบัญชีนี้โอนไม่ได้แล้วนะเราก็แคปๆ ไว้ แต่จริงๆ มันก็ไม่ใช่หน้าที่แจงที่จะต้องมานั่งแคป”
แจ๊ส : “แจงกลัวพาเดือดร้อนมาถึงครอบครัว มันน่าเบื่อนะ มาขึ้นโรงขึ้นศาล ฟ้องโน่นฟ้องนี่ มันเสียเวลาชีวิต”
เว็บนี้มีกี่เจ้า? แจง : “เจ้าเดียวก็พอแล้ว เราก็ขี้เกียจ เหนื่อยแล้ว เอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่า ไปโรงพักทีนึงก็ 3-4 ชั่วโมง เราก็ต้องนั่งพูดให้เขาฟัง พูดเสร็จเราก็ต้องไปให้ปากคำอีก คือสุดท้ายแล้วมันมีแต่เสียกับเสียทางเราทั้งนั้น แล้วพรีเซ็นเตอร์เจ้าอื่นเราก็รับมาแต่งานใหญ่ๆ ภาพเขาก็ดูไม่ดีด้วย”
กลัวหลายคนโดนหลอก? แจ๊ส : “นั่นแหละ กลัวแค่นั้นแหละ คือคุณจะทำอะไรเรื่องของคุณ แต่ว่าอย่าไปลากผมไปเดือดร้อนด้วย คุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณ คุณจะไปเทา ไปดำ เรื่องของคุณ แต่คุณจะลากผมไปด้วยมันดูไม่แฟร์ มันดูสกปรกเกินไป คือมันไม่ควร การพนันไม่ดีด้วย (หันไปหาแจง) แล้วคุณเล่นดัมมี่ทำไม ได้ยินเสียงนะ มาทำตัวเป็นคนดีให้เยาวชนเห็น คุณเล่นดัมมี่”
แจง : “(หัวเราะ) ฉันก็เล่นกับแม่คุณนั่นแหละ”
แล้วทำไมแจ๊สไม่ห้ามล่ะ? แจ๊ส : “ไม่เล่นๆ”
เป็นคนเอาจริงทุกรอบ? แจง : “ก็เอาจริงทุกรอบค่ะ แต่ต้องดูว่าพวกพี่ๆ เขาจะตามจับได้หรือเปล่า แต่เขาก็ใช้บัญชีคนไทยนะ เราก็ไม่รู้ สุดท้ายก็อยู่ที่พี่ๆ ตำรวจ เพราะว่าไม่ได้อยู่ที่แจงละ สเต็ปแรกเราชี้แจงละว่าเราไม่ได้รับ แล้วเราก็ไม่ได้ทำงานแบบนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง สเต็ปที่ 2 ก็คือเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายเท่านั้นเอง”
แจ๊ส : “พวกนี้จับยาก”
ถามถึงเรื่องเสื้อที่เอฟมาราคาล้านห้า? แจ๊ส : “จริงๆ มันไม่ถึงนะ บอกไว้ตรงนี้เลย เสื้อมันราคาแค่ 4,500 เขาลดให้ ที่ซื้อไม่ได้ซื้อแพง แจงรู้”
แจง : “แจงรู้อะไร แจงไม่เคยรู้เลย”
แจ๊ส : “นอกจากซื้อในจำนวนเยอะๆ แล้วมันเป็นราคาสูง แต่จริงๆ แล้วไม่เคยซื้อเสื้อตัวเป็นล้านห้าขนาดนั้น คือเราไปปั่นกับพ่อค้าเล่นๆ แค่ให้น้องมันยิ้มเท่านั้นเอง ไม่ได้ตั้งใจปั่นให้เป็นประเด็นเลย คือแจงเขาไลฟ์สดพอดีในโรงพยาบาล ไอ้พวกนั้นก็ขี้ฟ้องไปบอกพี่แจ๊สซื้อเสื้อตัวละล้านห้า แต่แจงอ่ะรู้ เราไม่ซื้อขนาดนั้นหรอก”
แจง : “ไม่ วันนั้นอ่ะไม่รู้ ตอนนั้นคิดว่าต้องมีแสนห้าแน่ๆ แต่ใส่ศูนย์ผิดหรือเปล่า แล้วนางไม่บอก แล้วมีคนไดเร็กต์มาเต็มเลย กดเข้าไปดู คือตอนนั้นป่วยก็ป่วย ก็กูตายไม่ได้แล้ว คิดในใจแค่ว่าตายไม่ได้แล้วตอนนี้ต้องออกไปจัดการให้ได้ แล้วนางก็ไม่ยอมโทรมาบอกด้วยนะว่าเกิดอะไรขึ้น คิดว่าแสนห้า เราก็จะช็อกแล้วนะ”
ก่อนหน้านี้เคยมากสุดเท่าไหร่? แจง : “อย่าพูดเลยตัวเลข เดี๋ยวคนเขาจะเกลียดเอา ไม่ใช่อะไรหรอก คือไม่หยุดอ่ะ”
แจ๊ส : “มันชอบไง นี่ในห้องเป็นโรงเกลือหมดแล้วนะ คนมันชอบอ่ะ เราไม่ได้นักสะสมนะ เราชอบซื้อชอบใส่ ใส่ถูกๆ บ้าง แพงๆ บ้าง บางทีก็เทรดขายบ้าง ก็ความสุขเรา (ซื้อมาขายไป?) ก็บ้างนะ”
แจง : “ตอนขายไม่เห็นขายได้เลย”
แจ๊ส : “ขายเงียบ ตลาดมืด (ยิ้ม)”
แจง : “ล่าสุดเห็นตามหารองเท้าอีกนะ เลยบอกว่าไม่เหนื่อยบ้างเหรอ”
แจ๊ส : “แต่รองเท้าคู่ใหม่เราอยากได้แบบเชือกผูกแน่นๆ อ่ะ เตะปากถนัดเลย (เตะใคร?) ยังไม่รู้เหมือนกัน แต่เผื่อไว้ เพราะมีแต่รองเท้าใส่เดิน ยังไม่มีรองเท้าใส่เตะปากใครยังไม่มี”
พี่แจงก็บ่นไปอย่างนั้น? แจง : “คืออย่างแจ๊สคือบ่นเรื่องนี้มาสักพักแล้ว แต่ตอนนี้ก็เบาลงนะ ตอนนี้เริ่มมีแบบเงินใช้เองเพื่อไปซื้อเองโดยที่ไม่เอาหนี้สินมาให้เรา แต่ก็ยังไม่รู้นะว่าเหตุการณ์ข้างหน้าอีก 2-3 เดือนจะมีอะไรหรือเปล่า”
ต้องตั้งงบไหมว่าได้แค่ในราคานี้? แจง : “ไม่ อย่างสมมติไปคอนเสิร์ตก็ให้ค่าร้องเพลง”
แจ๊ส : “เมื่อก่อนไม่ได้ให้ แต่เดี๋ยวนี้ให้เป็นแบบว่าถ้าไปงานนี้มาให้เท่านี้ หั่นคนละครึ่ง ยูทูบมาลูกค้ามาก็เอาไป ช่วงนี้ชีวิตเลยมีค่ามากขึ้น”
ก็เอาไปซื้อรองเท้า? แจ๊ส : “ซื้อ ก็เต็มที่ เรารู้อยู่แล้วว่าเมียเราเก็บแล้ว เราก็ใช้ ตายเมื่อไหร่ไม่รู้ ใช้ชีวิตให้มันมีความสุขอยากทำอะไรก็ทำ”
แจง : “มึงไม่คิดถึงคนที่อยู่เลยไง”
แจ๊ส : “ก็ดูแลกันเองสิ ก็ทำไว้ให้แล้ว”
คิดไหมว่าซื้อเสื้อจะเรื่องใหญ่ขนาดนี้? แจ๊ส : “ไม่ได้คิดเลย มีคนโทรมาจะสัมภาษณ์ เราก็ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเลย ก็เลยไปลงในเฟซบุ๊กเอา แล้วพูดที่นี่ที่เดียวนะ ไม่ต้องพูดบ่อย ถ้าใครคิดว่าไม่สมควรหรือไม่เหมาะสมก็ขอโทษด้วย เพราะเราเล่นกับพ่อค้าแค่ 2 คน ไม่ได้คิดว่ามันจะมาอะไรอย่างนี้ บางทีคนเขาก็คิดว่าเราใช้เงินเกินตัว
แต่จริงๆ มันก็เงินเรานะ ถ้าผมจะซื้ออ่ะ ก็เงินผมใช่ป่ะล่ะ ผมก็หาของผมมา เดี๋ยวก็มาลำบากเที่ยวขอเรี่ยไร ไม่มีอยู่แล้ว ผมไม่ขอใคร เงินก็เงินผมนะ ถึงผมจะซื้อล้านห้าจริงๆ ก็เงินผม หยอกเล่นๆ”
