ปราง เลิก โต้ง จบสัมพันธ์รัก 10 ปี จากนี้เป็นแค่เพื่อน หมดลุ้นรีเทิร์น ไม่มีมือที่ 3
ปราง เลิก โต้ง / วันที่ 23 ส.ค. ที่ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ นักแสดงสาว ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ได้มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว คาซาร์เต้ (Casarte) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านสุดไฮเอนด์ จากประเทศอิตาลี ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจเรื่องจบสัมพันธ์รัก 10 ปี กับหนุ่ม ‘โต้ง ทูพี’ หลังฝ่ายชายคุกเข่าขอแต่งงานที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อปลายปีที่แล้ว
เลิกกันจริงไหม? “ตอนนี้ปรางกับโต้งเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันค่ะ จริงๆ เป็นการพูดคุยตัดสินใจกันเมื่อประมาณ 2 เดือนได้แล้วค่ะ คือพอมันเป็นเรื่องการแต่งงาน มันมีดีเทลค่อนข้างเยอะ ทำให้พวกเราต้องหันหน้ามาคุยกัน ทบทวนในจุดประสงค์อะไรหลายๆ อย่าง หนูยอมรับว่าหนูเพิ่งรู้ว่าการพัฒนาจากคนที่เป็นแฟนกันไปสู่คนที่จะมาใช้ชีวิตร่วมกันเป็นครอบครัวมันมีดีเทลค่อนข้างเยอะ หนูกับโต้งก็ได้เรียนรู้กันมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว แต่ว่ามันก็เป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งที่หนูเองก็ยอมรับว่ามันมีอะไรหลายๆ อย่างที่เราจะต้องมานั่งคุยกันใหม่”
ปัญหาหลักๆ ที่ทำให้เราต้องมานั่งคุยกัน? “จริงๆ ฟางเส้นสุดท้ายที่ในข่าวไม่มีหรอกค่ะ เรารู้จักกันค่อนข้างดีอยู่แล้ว เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นแฟนที่ดีต่อกัน หนูเองก็ไม่สามารถที่จะอธิบายมาเป็นข้อๆ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจหนูด้วย เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนแล้วก็มันไม่สามารถบอกเป็นข้อหนึ่งข้อสองได้แล้วค่ะ หวังว่าทุกๆ คนจะเข้าใจ คือมันเป็นเรื่องยากสำหรับหนูกับโต้งมากๆ เลยค่ะ”
ใช้เหตุผลอะไรในการตัดสินใจเปลี่ยนจากคนที่จะเป็นคู่ชีวิตกันมาเป็นแฟนกัน? “มันมีหลายเหตุผลมากเลยค่ะ หนูสองคนใช้เวลาคิดทบทวนหนักมากๆ ค่ะ ก่อนที่จะมาถึงวันที่เราตัดสินใจกัน อยากให้เชื่อใจว่าพวกเราไม่ได้ผ่านจุดนั้นมาง่ายๆ เราคิดวิเคราะห์ทุกอย่างมาอย่างดี ก่อนจะมาถึงจุดที่เราตัดสินใจว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน”
10 ปีที่ผ่านมาพยายามจะเคลียร์เรื่องราวที่ไม่โอเคระหว่างกัน? “10 ปีที่ผ่านมามีตลอดค่ะที่จะต้องปรับจูนกัน เพราะแฟนกันทุกคู่มีการปรับจูนกันอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าจะผ่านมันไปได้แค่ไหน แต่วันนี้หนูคงไม่สามารถลงรายละเอียดดีเทลได้ ส่วนหนึ่งตัวหนูก็อยากจะให้เกียรติความรัก 10 ปีของหนู มันเป็นโมเมนต์ที่สวยงามเกิดขึ้นจริง ทุกๆ เหตุการณ์ ทุกๆ เรื่องราว แม้ว่าวันนี้มันอาจจะเป็นความทรงจำที่ดีของหนูกับโต้ง แต่พวกเราก็จะยังคงเก็บมันไว้อย่างดี คอยเป็นเพื่อนที่ดี ซัพพอร์ตกัน”
ก่อนหน้านี้เราทั้งคู่ใช่ชีวิตกันคนละเวลา? “หนูยอมรับหนึ่งในนั้นก็เป็นหนึ่งในปัญหาค่ะ ยอมรับค่ะ”
เรื่องตรงนี้เราแก้ปัญหากันไม่ได้เลย? “เราพยายามถึงที่สุดแล้ว” (ใครเป็นคนเริ่มคุยเรื่องสถานะก่อน?) “ที่จริงเป็นความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายค่ะ ไม่มีใครเริ่มก่อน ตลอดเวลาที่อยู่กันมาปรางกับโต้งจะเป็นฟีลที่คุยกันตลอด คุยกันใช้เหตุผลไม่มีง้องอนกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ พวกหนูอายุ 30 ปีแล้วค่ะ เราคุยกันด้วยเหตุผลมาโดยตลอด รวมถึงเรื่องนี้ด้วยค่ะ เราก็ใช้เหตุผลเป็นที่ตั้งอย่างมากค่ะ”
Advertisement
มันยากไหม 10 ปีที่เราผ่านมา? “ยากมากค่ะ เป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของปรางเหมือนกัน ไม่ใช่ของปรางคนเดียวนะคะ มันเป็นการตัดสินใจหลายๆ อย่าง”
ทางบ้านมีผลต่อการตัดสินใจครั้งนี้อย่างไร? “ตรงนี้หนูยอมรับว่ายังไม่ได้ลงดีเทลอะไรขนาดนั้น อย่างที่บอกเราคุยกันด้วยเหตุผล เหตุผลคือเอาเรื่องความสัมพันธ์ก่อน ว่าจะให้บทสรุปมันออกมาเป็นแบบไหน แล้วส่วนเรื่องดีเทลต่างๆ ปรางว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องมานั่งซีเรียสว่าจะต้องมาจัดการตรงนี้หรือว่าตรงนี้ยังไง เช่น บ้านตรงนี้เป็นส่วนที่ปรางเคยออกแบบไว้ หลายๆ คนกังวล ความรู้สึกในวันนี้มันไม่ได้มีความโกรธ งอน เสียใจหรืออะไรต่อกัน มันมีแต่ความเข้าใจ แล้วหนูก็ยอมรับว่ามันไม่ง่ายค่ะ”
ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? “อันนี้หนูไม่โกหกค่ะ จริงๆ หนูไม่ค่อยสบายอยู่แล้ว อย่างที่หลายคนรู้ ช่วงนี้อาการหนูกลับมากำเริบเล็กน้อย เครียดหลายอย่างจากการที่เราต้องใช้ความคิดค่ะ แต่สภาพจิตใจจริงๆ มันผ่านมาสักพักแล้วค่ะ แล้วก็ยังคงพยายามค่ะที่จะให้ชีวิตกลับมาปกติ หมายถึงมีรอยยิ้มกลับมาเป็นปกติ หนูก็ได้รับกำลังใจค่อนข้างเยอะ ก็เยียวยาจิตใจกัน ให้โต้งด้วยค่ะ”
คุยกันบ้างไหม? “มันไม่ได้คุยค่ะ มันเป็นความรู้สึก มันเป็นสิ่งที่หนูเองก็ไม่ได้คาดคิด ฉะนั้นไม่เคยได้ตั้งรับอะไรเลย”
มือที่ 3 ไม่ได้มีส่วน? “ขอโทษจริงๆ ค่ะ สำหรับคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างโต้งกับปราง ระหว่างทางที่มันมีข่าวออกมา หนูรู้สึกแย่มากค่ะ ที่ไม่สามารถออกมาพูดป้องกันใครหลายๆ คนได้ ที่เขามาวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตส่วนตัว หรือรบกวนชีวิตส่วนตัว แย่จริงๆ ตอนนั้นหนูก็ต้องการเวลา รอโอกาสที่เหมาะสมอย่างเช่นวันนี้ได้เจอพี่ๆ ด้วยค่ะ เขาอาจจะถูกรบกวนชีวิตไปนิดหนึ่ง มือที่ 3 ไม่มีแน่นอนค่ะ”
ครอบครัวว่าอย่างไรบ้าง? “คุณพ่อคุณแม่ให้การตัดสินใจเป็นของหนู เพราะหนูพูดตลอดว่า การที่หนูตัดสินใจมารีเทิร์น นั้นหมายความว่าหนูตัดสินใจรับผิดชอบทุกอย่าง ถ้าวันหนึ่งมันจะเป็นไปไม่ได้ ซึ่งวันนี้มันก็เกิดขึ้นจริงๆ หนูพร้อมที่จะรับผิดชอบความรู้สึกของตัวเองซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ซัพพอร์ตในการตัดสินใจของเราด้วยเหมือนกัน”
ช่วง 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมาโต้งก็โพสต์ข้อความเหมือนง้อ? “อย่างที่บอกมันผ่านมา 2 เดือนแล้วค่ะ จริงๆ ไม่ได้มีการง้ออะไรกันเพียงแต่ว่า ตรงนั้นก็ต้องขอบอกว่าเขาอยากจะโพสต์ ในสิ่งที่เขาอยากจะทำนั่นเป็นสิทธิ์ของเขาจริงๆ แต่ว่าไม่มีการง้องอนกันค่ะ ที่ผ่านมาเราพูดคุยด้วยเหตุผลกันมันจบไปแล้วค่ะ 2 เดือนที่ผ่านมาก็มีการคุยกันตลอดค่ะ”
เราเป็นห่วงความรู้สึกของโต้งไหม? “เป็นห่วงความรู้สึกเสมอค่ะ ก็มีการพูดคุยอัพเดตกันอยู่ตลอดว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาเองก็เป็นห่วงเรื่องที่หนูไม่ค่อยสบาย“
เมื่อสี่ปีก่อนที่เราเลิกกัน เคยกลับมาคืนดีกันรอบหนึ่งแล้ว คนก็ลุ้นว่าครั้งนี้น่าจะกลับมาได้อีกรอบหนึ่ง? “หนูก็คิดถึงจุดนั้นอยู่เสมอ เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ ขอให้เชื่อใจค่ะหนูสองคนคุยกันละเอียดยิบย่อยมากแล้วจริงๆ ค่ะ ถ้าปัจจุบันคิดว่าเป็นแบบนั้นค่ะ อนาคตไม่รู้ค่ะ แต่ปัจจุบันเราได้ตัดสินใจเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเรียบร้อยแล้วค่ะ เขายังเป็นเพื่อนที่ดีสำหรับปรางเสมอในระหว่างที่เป็นแฟนกันมาก็เป็นเพื่อนที่ดีกับปรางเสมอ”
คนเป็นห่วงเราเยอะมาก? “หนูได้รับข้อความเยอะมากค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ แล้วก็ขอโทษนะคะถ้าทำให้ใครหลายหลายคนต้องเสียใจกับเรื่องนี้แต่อย่างที่หนูบอกค่ะ หนูขอให้ทุกคนเชื่อใจค่ะว่าพวกเราได้คิดใช้เวลากับเรื่องนี้อย่างมากและให้กำลังใจพวกเราดีกว่าค่ะ อย่ากดดันพวกเราเลยค่ะเพราะว่าหนูไม่ได้อยู่ในสภาวะที่ง่ายเหมือนกันค่ะ”
ล่าสุดที่ไปเที่ยวถือว่าเป็นทริปดามใจได้ไหม? “เป็นทริปกับคุณพ่อคุณแม่คือตัดสินใจว่าพอปิดกล้องละครก็ที่จะพาไปอีก เพราะว่าไม่ได้พาที่บ้านไปเที่ยวนานแล้ว แล้วก็มีทริปกับกองละครด้วยอันนั้นก็ตกลงกันไว้ก่อนที่ละครจะปิด”
ดูแลใจตัวเองอย่างไร? “นอกจากรักษากายที่ไม่สบายแล้วเรื่องของใจก็ต้องรักษาโฟกัสที่งานค่ะช่วงนี้ก็งานเยอะค่ะพยายามพูดคุยอยู่กับครอบครัวให้มากขึ้น”
มีโอกาสได้พูดคุยกับคนที่โยงเข้ามาเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับโต้งไหม? “หนูขอโทษเขาตลอดค่ะ เพราะว่าเขาเองก็คงอยากได้รับการยืนยันจากปากเราเพราะว่ามีคนส่วนใหญ่ที่อ่านข้าวและเชื่อตาม อันนี้หนูเข้าใจได้ก็ต้องขอโทษที่หนูเองก็ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกมาพูดได้”
มันมีข่าวว่าพอเราโสดขอกลับมาจิ้นกับเราอีกครั้ง? “อันนี้หนูดีใจนะที่มีข่าวกับพี่ปั้น (ปั้นจั่น-ปรมะ) ตอนที่มีข่าวออกไปหนูพิมพ์เข้าไปหาเขาเลย บอกว่าดีใจจังเลยที่มีข่าวกับพี่”
รู้สึกยังไงบ้างที่มีข่าวกับปั้นจั่น? “ดีใจค่ะ เพราะนั่นก็คือพี่ชายอันดับหนึ่ง เขาเป็นห่วงหนูมากเช่นกันค่ะ ที่ดีใจที่เป็นข่าวกับเขาเพราะว่ารู้อยู่แล้วมันไม่มีอะไรคือคนคงไม่ไปถล่มเขา สำหรับตัวหนูคงต้องรักษาอาการไม่สบายของหนูให้ดีก่อนค่ะ ใจด้วยค่ะ เพราะว่าหนูว่าคนเราต้องรักตัวเองให้ได้มากๆ ก่อน ก่อนที่จะไปรับมีคนรักกลับไปมอบความรักดีดีให้ใครได้อีกครั้งมันต้องใช้เวลาค่ะ”
ที่ป่วยเพราะเรื่องนี้หรือว่าเรื่องอะไร? “จริงๆ ไม่สบายก่อนหน้านี้แล้วค่ะ ตั้งแต่ปีที่แล้วแต่มันก็มีช่วงที่อาการดีขึ้นคืออาการแพ้ภูมิที่ปรางเป็นมันต้องไม่เครียด ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รวมถึงต้องรักษาสุขภาพให้ดี เหมือนช่วงนี้มันมีเรื่องเครียดเข้ามาอาการมันก็กลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตัวนี้เป็นหนักค่ะ อาการก็คือน่าจะแดงตัวจะร้อนแสบร้อนที่หน้าอยู่ค่ะ”
มีน้ำตาไหม? “ไม่แล้วค่ะ แต่แรกๆ ก็มีอยู่ค่ะ”
ถ้าโต้งเดินหน้าง้อเราปรางพร้อมไหม? “อันนั้นคงไม่เกิดขึ้นค่ะเพราะว่าเราคุยกันเรียบร้อยแล้วว่าเราอยู่ในสถานะนี้ตอนนี้น่าจะดีที่สุดสำหรับสองคนมันชัดเจนมากๆ แล้วค่ะ วันนี้รู้สึกโล่งมากค่ะไม่อยากให้ใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับหรือว่าเดือดร้อนกับความสัมพันธ์ของเราสองคนอยากให้มันเป็นเรื่องของเราสองคนจริงๆ”
“แล้วหนูก็อยากให้มันจบอย่างสวยงามหนูอยากให้เกียรติความรักของเรา ให้เกียรติเขาด้วย การที่หนูมาตอบคำถามครั้งนี้เขาเองยังไม่ได้มีสิทธิ์ออกมา อยากให้เกียรติครอบครัวเราและครอบครัวเขาด้วย เพราะว่ามันก็กระทบไปหมดทุกคนค่ะ”