ฉอด สายทิพย์-เอส วรฤทธิ์ มีแผนสำรองให้ละคร หาก “พิ้งกี้” ไม่ออกคุก

ฉอด สายทิพย์-เอส วรฤทธิ์ / หลังจากที่นางเอกสาว พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช ตกเป็นจำเลยที่สอง คดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D และติดอยู่ในเรือนจำ หลายคนจับตามองว่าโปรเจกต์ละคร ดงดอกไม้ ที่เธอร่วมแสดงจะได้รับผลกระทบอย่างไร จะมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงหรือไม่
ฉอด สายทิพย์-เอส วรฤทธิ์

ล่าสุด (23 ส.ค.) เอส วรฤทธิ์ และ พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ผู้บริหาร เช้นจ์2561 ผู้ผลิตละครเรื่อง ดงดอกไม้ มาร่วมงาน เปิดโผคอนเทนต์เด็ดครึ่งปีหลัง2022 จาก “ช่อง one31” และ “ช่อง GMM25” และได้เปิดเผยการรับมือกับเรื่องดังกล่าว

ฉอด : “ละครของเราเรื่องดงดอกไม้ เป็นละครที่พิ้งกี้เล่นด้วย เราถ่ายกันมาเป็นปีแล้ว มีโควิดด้วยอะไรด้วย ก็ถ่ายกันมาได้ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือท้ายแล้ว โชคดีที่เราก็ไล่ๆ ถ่ายมา ตอนนี้ก็รอดูสถานการณ์อยู่ ถ้าหากว่าจำเป็นจะต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเราก็ดูทางที่จะต้องแก้ไข ปรับบท หรือปรับในเรื่องของโปรดักชั่นไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือต้องไม่ให้เสียอรรถรส มันจะต้องสนุกและเข้มข้นเหมือนเดิม

เอส : “ในส่วนที่มีพิ้งกี้เราถ่ายไปเยอะมากแล้ว ก็จะมีบ้างที่หลงเหลืออยู่ เราได้ไล่ดูบททั้งหมดแล้ว ก็มองว่าปัญหาตรงนั้น เราสามารถเตรียมแพลนบีในการแก้ไขไปได้ ในส่วนของโค้งสุดท้ายมันได้เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนของตัวละครตัวนี้เหมือนกัน ซึ่งมันสามารถยุติได้”
ฉอด สายทิพย์-เอส วรฤทธิ์

จะตัดบทของพิ้งกี้ไปเลย?
ฉอด : “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก เพราะละครถ่ายมาจนจะจบอยู่แล้ว ในเรื่องของการเปลี่ยนตัว มันคือการเริ่มต้นใหม่เลย มันเป็นไปไม่ได้ เราถ่ายมาจนใกล้จะจบแล้ว และอีก2 เดือนเรามีคิวที่จะต้องออนแอร์แล้วด้วย เราจะใช้วิธีการปรับบท”

ได้ติดต่อพูดคุยกับคนรอบข้างพิ้งกี้?
เอส : “เราได้คุยกับทางผู้จัดการที่เขาจะต้องประสานงานกับทางทีม กับทางกองถ่าย ด้วยมันก็ต้องมีการอัพเดทกันในแง่ที่ยังมีคิวถ่ายทำกันอยู่”
ฉอด สายทิพย์-เอส วรฤทธิ์

ฉอด : “ก่อนหน้านี้มันไม่ได้มีสัญญาณอะไรมาถึงเราเลย เราทราบข่าวพร้อมทุกคน เข้าใจว่าพิ้งกี้เองก็คงไม่ได้ทราบอะไรเหมือนกัน เพราะว่าในวันพุธนั้นเราก็ยังถ่ายกันอยู่เป็นปกติ พี่ฉอดไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่น้องๆ ทีมนักแสดง ผู้กำกับบอกมาว่ายังคุยกันอยู่เลยว่าคิวต่อไปจะยังไง เลยเข้าใจว่าคงไม่มีใครรู้ตัวมาก่อน”

ยังจะรอพิ้งกี้?
ฉอด : “ก็ต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน เราเองก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรพวกนี้ หรือแม้แต่เรื่องคดีอะไรเลย เลยไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วน้องจะได้ประกันตัวออกมาทำงานต่อไหม หรือว่าจะไม่ได้เลย เราก็เตรียมแพลนเอ แพลนบีไว้ รอดูสถานการณ์ (ถ้าพิ้งกี้ไม่ได้ออกมา?) ด้วยตอนนี้เราถ่ายมาถึงช่วงท้ายๆของเรื่อง มันเป็นจังหวะที่เราสามารถหาจุดให้กับตัวละครตัวนี้ได้โดยไม่เสียหายในส่วนที่เราถ่ายมาทั้งหมดแล้ว เราสามารถปรับให้ละครไปหาจุดจบได้ เท่าที่เช็กกับทางทีมงาน คนเขียนบทแล้วไม่น่าจะกระทบกระเทือนความสนุกไปมาก เพราะเรื่องมันสมบูรณ์มาตั้งแต่ต้นแล้ว เราเองก็รอพิ้งกี้ได้อีกไม่กี่วันแล้ว เราเหลือเวลาทำงานกันน้อยมาก เพราะละครจะออนแอร์อีก 2 เดือนแล้ว”
ฉอด สายทิพย์-เอส วรฤทธิ์

กระทบการถ่ายทำ?
เอส : “ในแง่ของการถ่ายทำยังไม่ถือว่ากระทบ เบรกดาวน์การถ่ายทำก็ยังเป็นไปตามปกติ ก็ใช้วิธีหลบคิวเอาเพื่อรอดูว่าสุดท้ายจะออกมาเป็นยังไง ในแง่ของบทเราก็ทำการบ้านหลังบ้านเตรียมไว้ว่าอะไรจะกระทบ อะไรที่จะปรับเปลี่ยนได้ ปรับแก้ ตอนนี้เราไม่ห่วงแล้วเพราะเรามีแผนสำรองแล้ว”

ฉอด : “สำคัญคือเราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เสียอรรถรสของละคร เราต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อคนดู ละครยังจะมีหน้าพิ้งกี้อยู่ ตั้งแต่ต้นยังถึงตอนช่วงท้าย”

ความทุ่มเทของพิ้งกี้กับงานละคร?
ฉอด : “น้องเป็นคนตั้งใจทำงานเป็นปกติ ทุกคนทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่”

ด้วยเรื่องค่อยข้างรุนแรง มันจะกระทบมาถึงละคร?
ฉอด : “อันนี้ก็แล้วแต่แล้ว มองว่าคนดูเขาคงแยกแยะได้ว่าอะไร ตรงไหน ยังไง ละครก็คือละคร นักแสดงเขาก็แสดงกันเต็มที่ สุดความสามารถ แต่ในเรื่องส่วนตัวเราไม่อาจไปก้าวล่วงได้”

ในแง่ของการทำงาน ปัญหานี้คือที่สุดเลยไหม?
เอส : “ในแง่การทำงานเราเจอปัญหากันเรื่อยๆอยู่แล้ว ก็แก้ปัญหากันไปครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน