เอ็มมี่ ปรี๊ดแตก ทวงลูกหนี้ 30 ล้าน ใช้ชีวิตสุขสบาย ลั่น! “เอาเงินมาคืนกูด้วย”
เอ็มมี่ ปรี๊ดแตก / เอ็มมี่-อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ ‘เอ็มมี่ แม็กซิม’ ที่เดินทางมาในงาน SMEs สร้างอาชีพ Awards ครั้งที่ 7 พร้อมอัปเดตความคืบหน้าคดีแชร์ที่ผ่านมาว่าถึงกระบวนการไหน เอ็มมี่เผยทั้งน้ำตาว่าตนไม่เคยคิดจะหนี และแสดงความบริสุทธิ์ใจตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมทั้งทวงเงินมูลค่ากว่า 30 ล้าน กับลูกหนี้ทั้งหลายที่ปัจจุบันใช้ชีวิตสุขสบายบนความทุกข์ของตนที่ต้องมารับกรรมตามใช้หนี้ให้
ตอนนี้มีเรื่องอยู่กี่คดี? “อุ๊ย คำถามแรกน่ารักมาก (ยิ้ม) เคลียร์ไปแล้ว 3 คดี ไม่มีใครติดคุก เป็นคดีหมิ่นประมาททั้งหมด ที่คอมเมนต์ว่า ‘ก็โกงจริงๆ นั่นแหละ จะฟ้องก็ฟ้อง และ อีดอก’ ค่ะ คือคดีเหล่านี้ฟ้องไปแล้วและเพิ่งได้ตอบรับการสืบพยานว่า ‘ขอให้มึงตายทั้งกลม’ และ ‘เมื่อไหร่กูจะได้เงินคืน’ ประมาณนี้ พูดว่าเอ็มมี่โกง แล้วโดนด่าว่า อีดอก”
ตอนนั้นอะไรที่ทำให้ตัดสินใจว่าจะฟ้องคนที่ด่า? “เอ็มมี่เคยบอกหลายครั้งว่า ด่าเอ็มมี่ได้ ตบได้ ตีได้ แต่อย่าด่าลูกเอ็มมี่ แล้วตอนนั้นกำลังท้อง เป็นอะไรที่เซนซิทีฟเอ็มมี่มากคือคำว่า “ตายทั้งกลม” เอ็มมี่มองว่า ตัวเองเป็นคนอยู่หน้าสื่อ แล้วเขาเป็นคนในโซเชียล มันไม่ใช่เขาด่าคนเดียว พอเขาด่าก็มีคนมารุมด่าเป็นแสนๆ ด้วย”
แต่สุดท้ายยอมไกล่เกลี่ย ไม่เรียกค่าเสียหาย? “อย่างที่รู้คือเราไม่ได้ใจร้าย แค่ให้เขามีบทเรียน ไม่ใช่ว่ายอมความแล้วและเขาไม่ได้เสียค่าเสียหายนะ เขาเสียค่าเสียหาย เขาจ่ายเงินและเคลียร์ให้จบไป และเงินก็ให้ทนาย ทำเหรียญโปรยทาน บริจาคไงคะ อย่างนี้ คือทุกคนต้องมีบทเรียน ด่าแล้วและทำให้สภาพจิตใจประเมินเป็นมูลค่าไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องให้เขามีบทเรียนบ้างค่ะ”
ตอนที่ฟ้องก็ถูกด่าว่าหิวเงิน? “ใครจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ เมนต์ได้ แต่เมนต์แล้วต้องมาขึ้นศาลก็อย่ามาว่ากันนะ ก็อย่างที่รู้คือหนูแรงแต่ไม่ได้เลว แค่กำลังจะบอกว่าไม่ได้ไปทำอะไรคุณเขาก่อน ถ้าไม่ชอบเอ็มมี่ก็เลื่อนผ่านไปสิ แค่นั้นเอง มีอะไรก็มาเคลียร์กับเอ็มมี่ ทุกคนก็รู้จักบ้าน ทุกคนรู้จักเบอร์ ถ้าอยากด่าโทรมาเลย แต่อัดเสียงไว้เหมือนเดิม (ยิ้ม)”
อย่างเรื่องแบบนี้อยากให้จบยังไง? “มีการให้ทนายโทรมาคุยก็มี และมีให้แนะนำว่าให้ไปรวมกับคดีแชร์ของเอ็มมี่ คือทุกอย่างต้องแยกแยะ มันคนละคดี มันคนละเคส มันคนละความหมาย ทุกอย่างมีพรบ.อยู่แล้ว เป็นหนี้ก็ตามใช้หนี้กัน แต่ไม่ใช่มาตามในโซเชียลแบบนี้ แต่ตามกันดีๆ ก็ไม่ว่า แต่อย่ามาแช่งกันแบบนี้ หรืออยากให้เอ็มมี่ตายไม่อยากได้เงินกัน”
คดีแชร์ว่ายังไงบ้าง? “รอฎีกาอยู่ค่ะ ตัวเอ็มมี่เองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ ที่ผ่านมาก็ยอมติดข้อเท้าอีเอ็มเอง ไม่ใช่ศาลสั่ง ทุกอย่างทำและแสดงความบริสุทธิ์ใจเองทั้งหมด แค่ในคอมเมนต์ที่ด่า ก็ด่าได้ แต่คนเราไม่ใช่ด่ากันเหมือนหนูไปฆ่าพ่อฆ่าแม่เขา เราไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย การที่มาแช่งให้ตายทั้งกลม คือลูกผู้หญิงด้วยกัน เขาเองก็เพิ่งมีลูกด้วย”
รอฎีกา ต้องทำยังไงต่ออีก? “เอ็มมี่ชนะมาจากศาลชั้นต้นใช่ไหม แล้วมาแพ้ตอนศาลอุทธรณ์และตอนนี้ก็รอฎีกา ก็แล้วแต่ศาลท่านจะพิจารณาค่ะ”
เหลือผู้เสียหายอีกกี่ราย? “อีก 4 ราย ตอนแรกเอ็มมี่รอไกล่เกลี่ย ยอดเงินจริงๆ แค่ 4 ล้าน พี่ชายเอ็มมี่ก็จะจ่ายให้ เราขอจ่าย 3 ล้านก่อน เขาบอกว่าไม่เอา ถ้าจะจ่ายต้องจ่าย 6 ล้าน เอ็มมี่ก็เลยไม่เป็นไร แล้วแต่ศาลท่านจะพิจารณา เพราะบางคนเห็นเอ็มมี่ก็รู้สึกสงสาร ว่ารู้จักกันมาเป็น 10 ปี เอ็มมี่ไม่ได้เป็นคนแบบนั้น งั้นเขาจ่ายให้จะใช้ให้ ก็เรียกทุกคนมาคุยเพื่อจะชดใช้”
“จริงๆ ยอดเงินแค่ 3.9 – 4 ล้าน แต่ตอนนั้นเอ็มมี่จะได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ตัวหนึ่ง จะได้เงิน 3 ล้าน ก็เลยบอกว่าขอจ่าย 3 ล้านก่อน เขาบอกว่าไม่ได้ ถ้าจ่ายต้องจ่ายหมด แล้วฝั่งนั่นไม่มีพูดดีเลย ก็ไม่เป็นไร เอ็มมี่แสดงความบริสุทธิ์ใจแล้ว ตอนนั้นก็ทักหาทุกคนนะ ว่าให้ผ่อนไหม หลายคนก็ไม่ให้ไม่เอา ถ้าจะผ่อนต้องผ่อนทุกคนต้องจ่ายทั้งหมด ก็เลยรู้สึกว่าหนูทำดีที่สุดแล้วนะ”
ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ? “บริสุทธิ์ใจค่ะ หนูแค่รอตรงนี้เอง แล้วมีคนถามว่าทำไมไม่ฟ้องคนที่โกง เขาให้คดีเอ็มมี่เป็นฉ้อโกง เป็นคดีอาญา แล้วต้องประกันตัว ขนาดประกันตัวยังต้องหาเงินแทบตาย ไม่ใช่ไม่อยากฟ้องคนโกงเอ็มมี่นะ แต่เงินมันมากองอยู่กับการประกันตัว ดังนั้นการที่เราฟ้องแพ่งใคร เราไม่ใช่คนชั่วที่อยู่ดีๆ จะไปยัดข้อหาให้เขาฉ้อโกง แชร์มันเป็นคดีแพ่ง หนูก็ต้องฟ้องแพ่ง แล้วยอดเงินหนูที่ถูกโกงไป 20-30 ล้าน มันเป็นเงินเท่าไหร่ที่ต้องวางศาล นี่แหละที่บอกคือทุกอย่างมันเป็นแบบนี้”
กลายเป็นว่าต้องรับผิดชอบคนเดียว? “ทุกวันนี้ยังรับผิดชอบค่ะ ไม่ใช่อยู่เฉยๆ นะ ไม่มีวันพักผ่อน เจ้าหนี้คนไหนเคลียร์ได้ก็เคลียร์ ตั้งกระปุกไว้เลยว่าคนนี้ชื่อนี้ๆ หยอดๆ ไป 2-3 เดือนจ่ายที แล้วแต่ที่คนจะตกลงกับเราได้ บางคนยอด 5 พัน หารกัน 40 คน ได้กันคนละไม่ถึง 100 หนูก็เจ็บปวด แต่ก็ทำดีที่สุด”
“ดังนั้นคนที่โกงเอ็มมี่ไป ไม่ว่าคนที่อยู่หาดใหญ่ คุณมีชื่อเสียงนะ กล้าพูดได้เลย อย่าให้เอ็มมี่ต้องพูดชื่อแบรนด์ของคุณนะคะ เพราะถ้าเอ็มมี่พูดชื่อแบรนด์ของคุณ คุณจะขายไม่ได้แน่นอน รีบมาไกล่เกลี่ยกับเอ็มมี่ แล้วน้องที่ขายผลไม้อยู่ตลาดไท 13 ล้าน คุณเอาเงินเอ็มมี่ไป ช่วยเอาเงินมาคืนเอ็มมี่ด้วย แล้วน้องที่ทำประตู ยอด 5 ล้าน ช่วยเอามาคืนด้วย ไม่อยากฟ้อง”
“เอ็มมี่ฟ้องเขาไม่ได้เพราะยอดเงินมันเยอะ ไม่มีเงินไปวางศาล รวมๆ กันมันเกือบ 30 ล้าน ใช้ชีวิตสุขสบาย ตั้งแบรนด์ขายของที่หาดใหญ่ ขายของตลาดไท ทำประตู นี่พูดไปแล้วก็ช่วยมาเคลียร์ด้วย มาคุยกันตัวต่อตัวก็ได้นะคะ เพราะถ้าวันหนึ่งเอ็มมี่สิ้นสุดแล้ว เอ็มมี่เอาคืนทุกคน แม้กระทั่งใครที่ทำให้เอ็มมี่เสียชื่อเสียงด้วยค่ะ”
โพสต์ตัดพ้อชีวิต ก่อนหน้านี้คิดสั้นตลอด? “ใช่ อืมก็เสียใจไง เออกูไม่ได้โกงทำไมต้องมานั่งตามใช้หนี้ใช่ป่ะ เงินตั้ง 30 ล้าน เงินส่วนตัวก็ 30-40 ล้านแล้ว พวกคุณใช้ชีวิตสุขสบาย อยู่ตลาดไทขายของ เอาเงินมาใช้กูด้วย (ตะโกน) นึกภาพออกป่ะ”
“เคยกินยาฆ่าตัวตาย แต่ไม่เคยคิดจะหนีหนี้ ไม่เคยคิดจะออกไปอยู่ต่างประเทศ ไม่เคยอะไรไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ขออยู่ตรงนี้ เพราะเราแสดงความบริสุทธิ์ใจ เห้ยแค่เดือนละ 5 พัน ก็จ่ายมาเถอะ ตอนคุณท้องรถเสียเอ็มมี่ก็โอนเงินให้เลย 4 แสนไปซื้อรถใหม่ หนูโคตรใจเลยนะ ไม่มีใครใจเท่าเอ็มมี่ แม็กซิม แล้วโว้ยจริงๆ เข้าใจป่ะ”
มีอายุความเท่าไหร่ ที่จะฟ้องเขาได้? “จริงๆ ก็ 5 ปี 5-10 ปี ก็ถึงบอกไงว่ามันยังไม่สายสำหรับเอ็มมี่ รีบมาไกล่เกลี่ย ถ้าคุณคิดว่ายังมีความเป็นคนพอ มาไกล่เกลี่ยให้นึกถึงวันที่เอ็มมี่ช่วยคุณ คุณรถเสียบนทางด่วน เอ็มมี่เอาเงินให้ 4 แสน ซื้อรถใหม่เลยน้อง เอ็มมี่โคตรใจ อีกคนที่อยู่หาดใหญ่ แบรนด์คุณดังมากในหาดใหญ่ ถ้าเอ็มที่พูดคุณตายแน่นอน อย่าเอาตำรวจผู้ใหญ่มาบีบเอ็มมี่อีกนะคะ เลิกเอาผู้ใหญ่มีสีมาบีบเอ็มมี่ ถึงแม้เอ็มมี่จะตัวเล็กๆ ไม่มีใครปกป้องก็ตาม แต่ทุกวันนี้เชื่อว่าโซเชียลช่วยเอ็มมี่ได้ค่ะ”
