นิ้ง เล่านาทีชีวิต หมอบอกสามีให้ทำใจ ขอบคุณตัวเองที่ยังมีลมหายใจ

นิ้ง เล่านาทีชีวิต / วันที่ 2 ก.ย. ที่ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ราชประสงค์ มีการจัดงาน Airline’s Family Market ตลาดชุมชนคนแอร์ไลน์ โดยในงานนี้มีอดีตนักแสดงสาว นิ้ง กุลสตรี หรือ ณิชชยาณัฐ ศิริพงศ์ปรีดา มาเปิดบูธขายของ โดยอดีตนักแสดงสาวได้เปิดใจถึงสุขภาพของตนเองตอนนี้ว่า
นิ้ง เล่านาทีชีวิต

“ตอนนี้ร่างกายก็ดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยังต้องกลับโรงพยาบาลไปตรวจเลือดทุกเดือนว่าค่าเลือดยังอยู่ในที่คุมอยู่ไหม เกล็ดเลือดคนทั่วไปคือหลักแสน แต่ของนิ้งมีแค่หลักพัน ต้องเข้าไอซียู ใส่ท่อ ตอนนี้ก็ดีขึ้น แต่เมื่อเดือนที่แล้วเกล็ดเลือดตกอีก คุณหมอก็ให้กลับมาตรวจใหม่ ฉีดยากระตุ้นให้ขึ้นมาหลักแสน แต่ก็ยังต่ำกว่าคนปกติ ยังต้องทานยาเคมีบำบัดอยู่ทุกวัน”

แต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว? “จริงๆแล้วถ้าไม่มีอะไรก็จะอยู่บ้าน วันนี้คิดถึงแอร์ไลน์ อยากจะมาเจอพี่ๆน้องๆที่เคยทำงานด้วยกัน จริงๆแล้วคือไม่ไหว แต่เหมือนได้มาแล้วเราก็รู้สึกมีพลัง อะดรีนาลีนมันหลั่ง ทำให้เรารู้สึกมีความสุข สดชื่น ทั้งๆ ที่จริงๆ ก็ไม่ไหว เราคิดถึงเพื่อนๆ มากๆ ถ้าใครติดตามไอจี เฟซบุ๊กของนิ้งจะเห็นนิ้งโพสต์รูปตัวเองใส่ชุดแอร์เอเชีย แล้วเขียนว่าคิดถึงบ่อยมาก น้องๆ ลูกเรือที่ติดตามนิ้งก็ยังคุยกันอยู่ วันนี้ได้มาเจอกันก็กรี๊ดกร๊าดกันด้วยความดีใจ”

การได้ออกมาเจอเพื่อนๆเป็นยังไงบ้าง ส่งต่อกำลังใจยังไงบ้าง? “บอกเลยว่าดีใจมาก จริงๆบอกคุณ อั้ม ธันวา ไปแล้วว่าอาจจะไม่ได้มางานวันนี้แล้ว เพราะเข้าโรงพยาบาล เวลาเข้าทีก็ให้เลือดหลายถุง รอบนี้กลับกลายเป็นให้แค่ถุงเดียว ซึ่งอยู่แค่ 4 วัน เหมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยากให้มาที่นี่(ยิ้ม) อยากให้มาพบกับพี่ๆ นักข่าว จอยกับเพื่อนๆ นักบิน
นิ้ง เล่านาทีชีวิต

อดีตนักแสดงสาวเล่าต่อถึงอาการป่วยของตนเองว่า “ร่างกายนิ้งไขกระดูกไม่สร้างเกล็ดเลือด ตามตัวจะขึ้นจ้ำๆ ก็ไม่ทราบสาเหตุตั้งแต่แรก ก็รักษาด้วยการให้เคมีบำบัดไป คุณหมอบอกว่าไม่เกิน 1 เดือนถ้านิ้งมาช้า นิ้งจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เรื่องนี้ไม่เคยบอกใครมาก่อน ด้วยความโชคร้ายของนิ้งต้องให้เคมีบำบัดถึง 8 ครั้ง แต่นิ้งทำได้แค่ 4 ครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่นิ้งทำก็จะเกิดการติดเชื้อ ต้องอยู่โรงพยาบาลทีหนึ่ง 2-3เดือน จนอาจารย์หมอบอกให้หยุดทำ แล้วก็รักษาด้วยการทานยาเอาวันละ 6 เม็ด(น้ำตาคลอ)

ซึ่งตัวยาเคมีบำบัดก็จะไปกดไขกระดูก ตัวเลือดทั้งหลาย ทำให้เกล็ดเลือด เม็ดเลือดขาวตกได้ อาจารย์หมอก็เลยให้นิ้งลดยาลงจาก 6 เหลือ 4 เม็ด ซึ่งก็ทำให้เลือดขึ้นมาจากที่กดเอาไว้ แต่มันก็เป็นอะไรที่เสี่ยงพอสมควร ตอนนี้นิ้งกินยาอยู่ 4 ตัว ตัวแรกนิ้งแพ้ ก็แย่ไปเหมือนกัน ตอนนั้นปวดไปทั้งตัว ตัวที่ 2 ทานได้ซักระยะหนึ่งก็คิดว่าดีแล้ว อยู่ดีๆ ก็ถ่ายเป็นเลือด ก็รีบเปลี่ยนยาด่วน เป็นตัวที่ต่ำสุดแล้ว ใช้ปริมาณยาเยอะ ประมาณ 6 เม็ด พอทานไปแล้วมันไปกดค่าเลือด ก็อันตรายอยู่”
นิ้ง เล่านาทีชีวิต

ให้กำลังใจตัวเองยังไงบ้าง? “บอกตัวเองตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าเราโรคอะไรแล้วรักษาแบบไหน บอกตัวเองว่าเราควรอยู่กับวันนี้ อยู่กับตรงนี้ วันนี้เราให้เคมีบำบัด เราปวดตรงไหนก็รักษาตรงนั้น อย่าไปมองวันพรุ่งนี้ว่าจะหายพรุ่งนี้ หรือวันไหนฉันจะเป็นยังไง ก็จะไม่มอง ไม่ไปคาดหวังกับอนาคต คาดหวังแค่วันนี้เท่านั้นว่าวันนี้เรามีความสุขแบบไหน ขอบคุณตัวเอง พยายามบอกตัวเองขอบคุณนะที่ได้ตื่นมาตอนเช้า มีรอยยิ้ม ได้เจอสามี มีความสุข แต่สำคัญสุดคือสามี ที่อยู่เคียงข้างไม่เคยห่างเลย แม้กระทั่งอยู่ไอซียูอยู่เกือบเดือนเขาก็มาทุกครั้งที่ลืมตาก็จะเจอ 5 วันแรกคือไม่ตื่นก็คือหลับ วันที่ 4 หมอบอกกับสามีว่าให้ทำใจ ไม่รอด แต่โชคดีก็ตื่นในวันที่ 6 ลืมตาแล้วก็หลับ เนื่องจากว่าอาจารย์หมอให้ยา 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เจ็บข้างใน เพราะเอฟเฟ็กต์การให้เคมีบำบัด”

สามีให้กำลังใจยังไงบ้าง? “ตอนอยู่ไอซียูไม่รู้สึกตัว เข้าอาทิตย์ที่สามก็ยังหลับๆตื่นๆ ยังไม่รู้สึกตัว หลังจากอาทิตย์ที่ 3 เริ่ม เอียงๆได้ ทุกครั้งที่ลืมตาจะเห็นเขาจับมือนิ้งอยู่ข้างๆ”
นิ้ง เล่านาทีชีวิต

จะได้เห็นนิ้งในรายการอะไรอีกไหม? “มีไปออกรายการหนึ่งแล้ว แล้วก็มีทางยูทูบอีกรายการหนึ่งเกี่ยวกับธรรมะไปนั่งคุยว่า การใช้ชีวิตของเรายังไง ชีวิตเราไม่เที่ยง เหมือนไปคุยเพื่อเป็นการเปิด ให้กำลังใจคนป่วยว่าเห็นไหม เราป่วย เราเข้าห้องไอซียู เรานอนติดเตียง เราต้องมาฝึกเดินใหม่ แต่ว่าเราก็ยังเดินมาอยู่ตรงนี้ได้ เพราะฉะนั้นทุกๆคน ไม่อยากบอกว่าขอให้หาย แต่อยากบอกว่าขอให้ทุกๆคนแข็งแรง แล้วก็สู้ แล้วก็ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณที่ได้ตื่นขึ้นมา ได้มีลมหายใจเย็นๆ ในแต่ละวัน ได้มีความสุข ได้มีรอยยิ้ม ยิ้มไว้ ไม่สบายยังไงเราก็ยิ้มไว้ ให้ข้างในเรามีความสุขมันก็จะออกมา”

จะมีผลงานอะไรในวงการบันเทิงไหม? “บอกตัวเองว่าถ้าไม่ได้เกี่ยวกับรายการธรรมะก็อาจจะไม่ไป เหมือนตอนที่บอกกับนักข่าวเอาไว้ว่านิ้งจะออกจากวงการแล้วนะ จะไปเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่อง นิ้งก็ทำตามคำพูด นิ้งคิดว่าวาจาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

อยากพูดอะไรกับแฟนคลับที่ให้กำลังใจไหม? “อยากบอกทุกคนดีใจมากๆ ไม่เฉพาะแฟนคลับ พี่ๆน้องๆ นักข่าวทุกคนด้วยที่ยังไม่ลืมนิ้ง ให้โอกาสมาสัมภาษณ์นิ้งทั้งๆ ที่นิ้งออกวงการไปตั้งแต่ 2004 ทุกๆ คน ยังให้โอกาสนิ้งแล้วก็ยังให้เกียรตินิ้งมาสัมภาษณ์ในวันนี้ มันเกินคำพูดคำว่าขอบคุณจากใจ ขอบคุณมากค่ะ(ไหว้)”

ขอบคุณรูปจากไอจี nink_nichayanaht

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน