อุ้ม สิริยากร โต้! ชีวิตตกยาก ขายของเอาสนุก-ได้สอนลูก ลั่นทุกอาชีพมีคุณค่า

อุ้ม สิริยากร โต้! ชีวิตตกยาก ขายของเอาสนุก-ได้สอนลูก ลั่นทุกอาชีพมีคุณค่า ไม่อายเป็นแม่ค้า รับคิดถึงงานแสดงแต่โอกาสยาก

หลังอดีตนางเอกดัง อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส โพสต์ภาพที่ตนเองเป็นแม่ค้าออกบูธขายของที่ประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมเล่าประสบการณ์ผ่านโซเชียล กว่าจะได้เงินแต่ละสิบเหรียญยากมาก แต่ดีกว่านั่งงอมืองอเท้าอยู่กับบ้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ปรากฏว่าแฟนๆ บางส่วนแสดงความห่วงใย ด้วยเข้าใจว่าอดีตนางเอกดังชีวิตตกระกำลำบากอยู่ที่ต่างแดนหรือเปล่า งานนี้ “ข่าวสดบันเทิงออนไลน์” ไม่รอช้าต่อสายข้ามประเทศหา สาวอุ้ม เพื่อสอบถามให้หายข้องใจทันที

หลายคนฮือฮาภาพที่เป็นแม่ค้าออกบูธขายของที่อเมริกา? “พี่มีแบรนด์ต่างหูของตัวเองค่ะ เพิ่งเริ่มทำเมื่อต้นปี จริงๆ ก็ไม่ได้มีความจำเป็นต้องหาเงินหรืออะไรเลยนะคะเพราะว่าสามีก็เลี้ยงดูอย่างดี เงินเก็บก็มีเยอะแยะที่เมืองไทยก็สบายไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลย แต่ว่าพอเริ่มทำต่างหูใส่เองก็มีคนชอบและอยากซื้อ ลูกก็ไปโรงเรียนกันหมดแล้ว เลยคิดว่าลองทำขายดูดีกว่า ปรากฏว่าขายได้ขายดีมากเลย”

“เคยไปออกงานเล่นๆ ที่โรงเรียนลูกก็ขายถล่มทลายมาก แล้วแบรนด์ต่างหูที่ทำตอนนี้ก็มีแค่ทางเว็บไซต์ ไม่ได้มีหน้าร้านหรือฝากขายที่ไหน เลยคิดว่าวิธีหนึ่งที่จะทำให้สินค้าเรามีคนเห็นก็คือไปออกบูธ แล้วเพิ่งมีงานสตรีตแฟร์ใกล้ๆ บ้านก็เลยไปกับเพื่อน สนุกดีที่ได้ขาย”

ไปขายมากี่ครั้งแล้ว? “เคยไปที่โรงเรียนลูกครั้งหนึ่งค่ะ แล้วก็ครั้งนี้เป็นครั้งที่2 เอง ไม่ใช่ไปขายตลาดนัดทุกวันอาทิตย์อะไรแบบนั้นไม่ใช่นะคะ(หัวเราะ) นานๆ ไปที แล้วหลักๆ คือขายในเว็บไซต์ จริงๆ แล้วมีคนไทยอยากซื้อเยอะมาก แต่พอคำนวณเป็นเงินไทยแล้วเหมือนฟังดูแพง อุ้มเลยเกรงใจเลยไม่ได้ขายที่เมืองไทย แต่ถ้าเป็นที่อเมริกาคู่ละ 35-40 เหรียญ คือมันเป็นราคาพื้นฐานค่ะ”

แบรนด์ชื่อว่าอะไร? “OOM เลยค่ะ ชื่ออุ้มเลย เข้าไปดูได้ในเว็บไซต์ www.oompdx.com มีแบบและสีเยอะมากเลย ถึงแม้จะทำเล่นๆ แต่เราก็ทำจริงจังนะคะ จดทะเบียน เสียภาษีถูกต้อง แล้วก็เพิ่งมีถ่ายโฟโตชู้ตไป อยากให้เข้าไปดูเพราะมีความภูมิใจมาก เรียกว่าได้ใช้ความสามารถที่เรามีอยู่เอามาทำ ไม่ใช่ขายขำๆ อย่างเดียว”

คนไม่รู้พอเห็นไปเป็นแม่ค้าขายของนึกว่าตกระกำลำบากหรือเปล่า? “(หัวเราะ)คือจะบอกว่าไม่ได้ตกยาก ชีวิตดี มีความสุข สามีเลี้ยง มีกินมีใช้ค่ะ เงินทองไม่มีขัดสน ที่เมืองไทยก็ยังมีเงินเยอะมาก จริงๆ ไม่เดือดร้อนอะไรเลย ที่ทำทั้งหมดเพราะว่าสนุกดีแล้วก็ได้สอนลูกๆ ค่ะ”

“ส่วนที่มีข่าวบอกว่านั่งทั้งวันขายได้สิบเหรียญ ไม่จริงมากๆ เลยค่ะ ไม่รู้เอามาจากไหนอ่ะ คงอ่านผ่านๆ ที่โพสต์ในอินสตาแกรม ซึ่งอุ้มเขียนในนั้นบอกกับลูกๆ ว่าเห็นไหมคะกว่าจะได้เงินสิบยี่สิบเหรียญนี่มันยากมากเลย หนูจะมาขอของเล่นง่ายๆ ไม่ได้เพราะเงินทองมันไม่ได้หาง่ายๆ นะลูก เราก็จะได้มีอะไรเอาไว้สอนลูกด้วย แต่จริงๆ วันนั้นขายได้ไม่รู้กี่ร้อยเหรียญได้เงินมาหลายหมื่นบาทมาก ขอแก้ข่าวนะคะไม่ใช่ว่านั่งทั้งวันได้ 10 เหรียญ แบบนั้นก็คงไม่ทำเพราะไม่ได้คุ้มนะคะ”

“อีกอย่างคนไทยอาจจะมีความรู้สึกว่าตายละขายของ ไปเป็นแม่ค้าอะไรอย่างเนี้ย แต่จริงๆ อุ้มไม่ดูถูกงานเลยค่ะ คือรู้สึกว่าทุกงานถ้าเกิดว่าเราตั้งใจมันมีคุณค่า ไม่มีงานอะไรที่ต่ำต้อยหรือด้อยค่ากว่างานอื่น คือเราเคยทำมาหลายอย่างอ่ะค่ะ เพราะฉะนั้นเนี่ยอุ้มไม่ได้อายเลยที่ไปขายของ”

สามีว่ายังไงบ้าง? “นานๆ ถึงจะไปทีค่ะ ปีนึงไปไม่กี่หนก็ไม่มีอะไรจะต้องบ่น แล้วเขาก็ได้เห็นว่าเรามีอะไรทำสนุกดี ดีกว่าว่างก็ไปช็อปปิ้ง สามีคงคิดว่ามีอะไรให้ทำก็ดีแล้วแหละ จะได้ไม่เสียเงิน(หัวเราะ) จริงๆ แล้วที่ไปขายของเนี่ยได้เงินมาเยอะมากเหมือนกันนะคะ แบบไม่คาดคิดเลย”

หลายคนชื่นชมที่สอนลูกดี? “เราคิดว่าลูกเนี่ยสบายกว่าสมัยที่อุ้มโตมาเยอะมาก แล้วก็คิดว่าเขาจะเรียนรู้เรื่องการใช้ชีวิตจริงยังไง ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ เงินทองจะมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ คือพ่อแม่ทำงานนะคะลูก อาจจะมีเงินเก็บอะไรอยู่บ้างแต่มันก็มาจากการทำงาน ไม่ใช่ว่าพ่อแม่มีมรดกพันล้านอะไรมาก เพราะฉะนั้นวิธีที่จะทำได้คือทำให้ลูกเห็นแล้วเอาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

“จริงๆ ทำต่างหูนี่ก็ดีเพราะลูกก็ได้มาช่วย โดยเฉพาะเมตตาซึ่งโตแล้ว พอขายได้แม่ก็ให้คู่ละเหรียญหนึ่ง เขาก็จะแบบอุ๊ยตาย! อยากช่วยมากเลย แต่ต้องช่วยจริงๆ ไม่ใช่มาเล่นปุ๊บปั๊บแล้วไป แบบนั้นไม่นับ แล้วเขาก็จะเห็นคุณค่าของเงินที่ได้มาด้วย เดี๋ยวนี้เก็บเงินมากเลย แต่ก่อนนี้อยากได้อะไรก็วิ่งมาขอ แต่ตอนนี้ให้ทำงานเขาก็จะรู้สึกตายละไม่อยากใช้เงิน เก็บใหญ่เลย”

“เมตตานี่เริ่มมีเงินเก็บ แล้วก็บอกว่าตอนนี้แม่เป็นธนาคารด้วย เช่นสมมติหนูได้มา 10 เหรียญ ต้องให้คุณแม่ 3 เหรียญ เพราะ 30% ต้องเซฟ อันนี้คือวิธีการใช้เงิน ไม่อย่างนั้นก็จะไปหมด แล้วเดี๋ยวสิ้นปีแม่จะให้ดอกเบี้ย(หัวเราะ) เขาต้องรู้คุณค่าของการทำงานและรู้คุณค่าของเงิน”

ชีวิตที่อเมริกาดูมีความสุขมากเลย แล้วคิดถึงเมืองไทยบ้างไหม? “คิดถึงสิคะถึงได้กลับไปไง แต่ก็รู้สึกว่าผ่านไปเร็วมากเลยค่ะ อยากกลับไปอีก ลูกๆ นี่ยังพูดถึงอยู่เลยว่าชอบตรงนั้นตรงนี้ แล้วถามว่าเรากลับไปอีกได้ไหม แต่คงอีกสักพักหนึ่งอ่ะค่ะ”

หลายคนก็หวังว่าตอนที่กลับมาจะมีผลงานเล็กๆ น้อยๆ ให้แฟนๆ ดูบ้าง? “ยากนิดนึงเพราะตอนที่กลับไปก็มีคนติดต่อจะให้เล่นอะไรอย่างเงี้ย แต่ว่ามันต้องอยู่ต่อแล้วก็ต้องถ่ายอีกหลายเดือน ซึ่งหน้าที่หลักจริงๆ แล้วตอนนี้คือดูแลลูก มันก็เลยยากมาก แล้วจะบอกให้เขามาถ่ายที่พอร์ตแลนด์อย่างงี้เหรอ…เป็นไปไม่ได้(หัวเราะ)”

คิดถึงการแสดงไหม? “คิดถึงค่ะเพราะจริงๆ อุ้มชอบการแสดงมาก รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่เราทำได้ แต่มันไม่ใช่ว่าการแสดงมันคือแสดงอย่างเดียว มันต้องมีกองถ่าย มีกระบวนการอื่นๆ เกี่ยวข้องเยอะ มันก็เลยอาจจะยากนิดนึง องค์ประกอบทั้งหมดยังไม่ลงตัวค่ะ”