เจอโทรปั่นป่วนแม่ยิ่งป่วยด้วย ไม่ได้ถ่ายหลักฐานอะไรไว้แชทก็ลบไปแล้ว แม่ขวัญ โชว์ชามข้าวหมา ลั่นไม่โรคจิตทารุณใคร แม่บ้าน แจงด่าเห่าหาพ่…มึxเหรอ ไม่ขอพูดอะไรแล้วกลัวโดนฟ้อง

จากกรณีอดีตแม่บ้านสาว ออกมาแฉทำงานที่บ้านดาราดัง ถูกใช้งานหนักเกือบ 24 ชั่วโมงไม่ได้นอน ต้องกินข้าวในจานเดียวกับหมา ขณะที่ ขวัญ อุษามณี ออกมาฟาดกลับด้วยคลิปกล้องวงจรปิดในยูทูบส่วนตัว เล่าว่า อยากได้ผู้ช่วยพยาบาลหรือคนที่มีทักษะมาดูแล นุ่มนิ่ม น้องหมา อายุ 20 กว่าปี เป็นโรคชรา ความจำเสื่อม เดินยืนทานอาหารด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ด้วยความสงสารส่วนตัว และอดีตแม่บ้านพรีเซ็นต์ว่ารักน้องหมาอยากดูแล จึงลองให้โอกาสทดลองงาน

โดยคลิปที่นำมายืนยันโต้อดีตแม่บ้านที่บอกได้นอนวันละ 1 ชั่วโมง คลิปกล้องวงจรปิดเผยภาพขณะอดีตแม่บ้านเข้านอน นางเอกสาว ยังได้ระบุอาการ นุ่มนิ่ม น้องหมา ช็อก ภาวะ ขาดน้ำ เข้ารพ. อดีตแม่บ้าน ปล่อยให้ขึ้นรถไปกับรถโรงพยาบาลสัตว์ ที่ขวัญโทรฯแจ้งให้มารับ เพราะ ขวัญ กับ คุณแม่อยู่ ต่างจังหวัด ส่วนเด็กคนที่จ้างให้มาดูแล กลับไปนอนในห้องปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนเงินค่าจ้าง มีการตกลงก่อนล่วงหน้า ถึงความสามารถในการทำงาน และทดลองงาน ส่วนเงิน ได้เป็นเงินสดจากบริษัทไป

ด้าน แม่แอ๊ว ปราณี คุณแม่ของขวัญ อุษามณี เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ลูกจ้างคนดังกล่าวเข้ามาทำงานได้เพียง 2-3 วัน ซึ่งจากที่เป็นข่าวตอนนี้แม่ยังไม่ได้นอน เพราะมีคนพยายามโทรติดต่อมาปั่นป่วนไม่รู้ว่าใครโทรมาบ้าง อีกทั้งตนป่วยอยู่ด้วย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้เห็นจานข้าวหมา โดยแม่แอ๊ว ชี้แจงว่า ใครจะให้คนไปกินข้าวในชามกับหมา มันผิดธรรมชาติไปหรือไม่ เป็นเราจะไปหยิบชามหมามากินข้าวไหม หรือในทางกลับกันถ้าหากตนนำชามข้าวของหมาไปให้คนกินได้ขนาดนั้น ตนคงเป็นโรคจิตหรือไม่

ส่วนเรื่องที่นอนชั่วโมงเดียวจะเป็นไปได้ยังไง เขาจะพูดอะไรก็สามารถพูดได้ เขาสามารถเสริมเติมแต่งให้เป็นข่าวอะไรก็ได้

แม่แอ๊ว กล่าวอีกว่า นุ่มนิ่ม น้องหมาป่วย แต่เด็กคนนั้นไม่ได้ใส่ใจที่จะเลี้ยง ให้น้ำกินหรือไม่ตนก็ไม่รู้ เพราะจากที่เห็นเขาติดโซเชียลเล่นแต่โทรศัพท์ จนตนต้องไปบอกให้จัดเวลาดีๆ เพราะถ้าจะทำงานเอาเงินต้องทำงาน ไม่ใช่ว่าอยู่แต่กับโทรศัพท์

ทั้งนี้ หมาแมวตนยังดูแลได้เลย แล้วชีวิตคนทำไมจะดูแลไม่ได้ คนไหนมาดีตนก็จะต้อนรับในสิ่งที่ดี ๆ

ส่วนกรณีเขาอ้างว่าขอนอน 1 คืนระหว่างรอกลับบ้าน แต่ตนก็ไม่ให้นอนนั้น ตนอยากให้ลองนึกถึงความเป็นไปได้ว่ามันมากน้อยแค่ไหน คนหนึ่งอายุ 14 ปี อีกคนอายุ 20 ปี ในตอนแรกตนยังมองว่ามันเด็กไป แต่ด้วยความที่มาดึก ตนจึงให้เขาลองทำงานดูก่อน เพราะโดยปกติแล้วอายุ 14 ปี ตนไม่รับแน่ๆ ตนก็ไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไรถึงไปพูดในลักษณะนี้ พร้อมพูดทิ้งท้ายไว้ว่าเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้แล้ว คิดว่าตนจะฟ้องกลับหรือไม่ เพราะตนก็ไม่อยากให้บ้านของตนเสียอยู่ฝ่ายเดียว

ด้านอดีตแม่บ้าน เปิดเผยว่า ไม่อยากจะชี้แจงอะไรแล้ว กลัวโดนฟ้อง ส่วนภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นวันเดียวกับวันที่น้องนุ่มนิ่มไปแอดมิตที่โรงพยาบาล ตอนแรกเข้าใจว่านุ่มนิ่มเป็นอะไร เพราะสังเกตเห็นว่านุ่มนิ่มดิ้นและร้อง ตกใจจึงได้โทรหาแม่ของเขา แม่เขาจึงโทรศัพท์ไปให้หมอมารับน้องหมา ตอนแรกตนก็ถามว่าจะต้องให้ไปโรงพยาบาลกับน้องหมาไหม แต่เขาบอกว่าไม่ต้อง ตนจึงได้เข้าไปในบ้าน และได้ทักไลน์ถามแม่เขาว่าต้องรอน้องหมาไหม แม่เขาก็บอกว่าไม่ต้องรอ ตนจึงได้เข้าไปนอน แต่หลักฐานการคุยไลน์ตนก็ไม่ได้แคปไว้ ลบไปแล้ว ตนรู้สึกเสียดายมาก

@kwanusa9

ไม่เล่นกะแม่เลยอะ!!!

♬ triggering dog sounds – pat.tea.cakes

ส่วนวันที่ตนได้นอนแค่ 1 ชั่วโมง มี 2 วัน คือคืนวันแรกและวันที่ 2 ตนมานอนแค่ 3 คืน และวันนั้นคือคืนสุดท้ายที่ตนนอนอิ่ม เพราะว่าไม่มีนุ่มนิ่ม ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคืนวันที่นอนเต็มอิ่มคือคืนวันสุดท้ายหรือไม่ ขอชี้แจงว่า “ไม่ใช่ค่ะ ที่เห็นตนนอนไม่ใช่คืนสุดท้าย วันสุดท้ายตนไม่ได้นอนห้องรับแขกข้างนอก นอนในห้องแม่บ้าน เพราะวันนั้นไม่มีหมา ส่วนตอนที่เขาลงคลิปไม่รู้ว่าลงตอนไหน ซึ่งมันก็ต้องมีบ้างที่ตนเผลอหลับไป ซึ่งปกตินุ่มนิ่มจะนอนเกือบเช้าช่วงตี 4 ครึ่ง ถึงตี 5 ซึ่งพวกตนก็จะนอนกัน พอ 6 โมงเช้าก็ต้องตื่น

ส่วนที่เขาว่าตนไปด่าหมาว่า “เห่าหาพ่…มึงเหรอ” ซึ่งไม่ใช่ตนเป็นคนด่า น่าจะเป็นน้องของตนมากกว่า แต่น้องตนก็พูดอะไรที่ไม่ได้คิด ตนอยากจะอยู่เงียบๆ ไม่อยากพูดอะไรแล้ว ตนไม่อยากจะเถียงอะไรกับเขา สิ่งที่ไม่จริงคือเขาบอกว่าตนไม่ได้ลาออก แต่เขาไล่ออกเอง ในส่วนการพูดคุยเรื่องงาน ตนไม่ได้คุยกับเขาโดยตรง ตนคุยกับแม่เขามากกว่า ซึ่งเรื่องการขอกลับบ้านขอลาออกตนก็จะเป็นคนคุยกับแม่เขาก่อน แต่แม่เขาบอกเขาหรือไม่ตนก็ไม่รู้ เพราะว่าจริง ๆ แล้วนุ่มนิ่มเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่วันแรก ถ้าเขาจะไล่ก็ต้องไล่ตั้งแต่วันนั้น

กรณีการออกค่ารถให้ เขาให้เพียง 990 บาท ซึ่งไม่ได้ให้ตนโดยตรง เขาเป็นคนคุยและเรียกแท็กซี่ให้เอง ตนไม่รู้ส่วนนี้ แต่ตนได้ถามคนขับแท็กซี่ว่าได้ค่ารถมาเท่าไร เขาบอกว่าได้มา 900 บาท แต่ต้องขึ้นทางด่วนด้วย 90 บาท แท็กซี่จึงเรียก 990 บาท ซึ่งเขาเป็นคนจ่ายให้เพราะตนไม่มีเงิน ส่วนตัวตนไม่ได้เงินอะไรจากเขา เขาแค่จ่ายค่ารถให้

ข้อตกลงที่บอกว่าถ้าทดลองงานจะไม่ได้เงิน ตนไม่ได้ตกลงกับเขา ตนเพิ่งรู้ในวันที่ตนจะออกแล้ว ซึ่งตนถามแม่เขาว่าค่าแรงที่ตนทำงานได้ 3 วันจะให้ไหม แต่แม่เขาก็ให้ไปคุยกับเลขาเขา แต่พอไปคุย เลขาก็บอกว่าเป็นช่วงทดลองงานจะไม่ได้เงิน ตนก็บอกว่าไม่ใช่การทดลองงาน ตนขอออกตั้งแต่วันที่พี่พิมพ์ แม่บ้านอีกคนออกแล้ว แต่เขาไม่ให้ตนออก ซึ่งถ้า 2 วันแรกจะไม่ให้ตนไม่ว่า แต่อีกวันต้องให้เพราะตนจะออก แต่ไม่ยอมให้ออก และวันนั้นตนออกจากบ้านเขาเกือบ 1 ทุ่ม ของวันที่ 1 ก.ย. 65 ตนไม่อยากพูดแล้ว กลัวโดนฟ้องจริงๆ เพราะตนไม่มีหลักฐานเลย ตนไม่ได้ถ่ายอะไรไว้เลย

ขอบคุณที่มา อมรินทร์ทีวี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน