โก้ วศินเปิดใจถูกยุติสัญญา รับมีหลายความรู้สึก ทั้งช็อก ตกใจ เผยขอโทษผู้ใหญ่ ยันไม่ได้เจตนา เผยโล่งใจ หลังได้ชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด

วันที่ 19 ต.ค.2565 โก้ วศิน อัศวนฤนาท พระเอกหนุ่มเปิดใจหลังถูกช่อง7 ประกาศยุติสัญญา ก่อนกำหนด เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา ทำเอาช็อกแฟนคลับท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักโยงเหตุปลดฟ้าผ่าจากการที่พระเอกหนุ่มข้ามช่องไปออกรายการดัง The wall song ร้องข้ามกําแพง โดยเจ้าตัวเผยว่า มันก็มีหลายอารมณ์เกิดขึ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นมันก็มีทั้งความรู้สึกงง มีทั้งช็อก ตกใจ เสียใจ มันมีหลายอย่าง ก็เลยไม่ได้บอกว่ามันจะไปในอารมณ์ทิศทางไหนเป็นหลัก มันอวนๆ

โดนยกเลิกสัญญา?
“ก่อนอื่นต้องเท้าความก่อนนิดนึงว่า คือเราจะหมดสัญญากับทางช่อง7 ในเดือนพฤศจิกายนที่ใกล้จะถึงนี้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสได้เข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ทางช่องแล้วด้วย ว่าเราอาจจะขออนุญาตออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็ได้คุยกัน เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คุยกันดีเลยครับ ทางนั้นก็เข้าใจเรา ก็แฮปปี้ แล้วก็ขอบคุณทั้งผู้ใหญ่ ทั้งช่องด้วย

เพราะด้วยเวลาที่ผ่านมาเราก็อยู่นานเหมือนกัน นับไม่ถูกว่ากี่ปี แต่ก็นาน แล้วก็แฮปปี้ รู้สึกอบอุ่น เขาก็ดูแลเราดี รวมถึงเราก็เหมือนได้ครอบครัวใหม่ด้วย ทั้งพี่ๆ น้องๆ นักแสดง พี่ผู้ใหญ่ในช่อง หรือทีมงานทุกคนครับ ก็รู้สึกอบอุ่นในเวลาที่ผ่านมา”

แล้วมีแอคซิเดนเกิดขึ้นยังไง มีจดหมายร่อนออกมาก่อนกำหนด?
“พูดอย่างนั้นก็ได้ ก็ใช่ครับ เพราะว่าอย่างที่บอกว่าเราได้ไปคุยกับช่องแล้วก่อนหน้านี้ อาจจะขออนุญาตออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งเราจะหมดสัญญาเดือนพฤศจิกายน เราก็เลยเหมือนว่ามีการคิดวางแผนคุยกับผู้จัดการฯ ว่า ออกจากที่นี่ไปเราจะวางเส้นทางของเรายังไง ซึ่งมันก็ประจวบเหมาะกับมีรายการติดต่อมาให้ไปออก”

คิดไหมว่าการไปออกรายการจะทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้?
“ไม่คิดครับ เพราะว่าที่จริงทางฝั่งเราคือผู้จัดการก็ได้บอกกับทางรายการไว้แล้วว่า ก็เล่าสถานการณ์ว่าจริงๆ แล้วคือยังไม่หมดสัญญานะ แต่ว่าจะหมดในเดือนพฤศจิกายนช่วงต้นเดือน ซึ่งก็ต้องแจ้งให้เขารู้ ให้เขาทราบแต่แรกเลยว่า ถ้าเกิดว่าถ้าจะออนแอร์ยังไงก็ต้องเป็นหลังหมดสัญญา เพราะเราไม่เคยอยากจะมีปัญหากับใคร ไม่ได้อยากจะมีมีราวอะไรอยู่แล้ว ซึ่งก็รับทราบตรงกัน”

แสดงว่าเราแจ้งกับทางรายการไปแล้ว แต่อาจจะเป็นความเข้าใจผิด?
“ก็อาจจะเป็นไปได้ ซึ่งมันกลายเป็นว่าออนช่วงที่ผ่านมา ก็ตกใจ เพราะว่าวันนั้นเป็นวันที่ผมมีเดินสายไปโปรโมทซิงเกิลของวง roof top ด้วย ซึ่งก็ตอนช่วงเวลานั้น ใกล้ๆ ทุ่มสองทุ่มก็ไปอยู่ที่คลื่นวิทยุ เดินสายอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมาก เห็นแค่แบบมีคนแท็กมาในโซเชียล ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราเข้าใจว่าโอเคมันต้องออนหลังพฤศจิกาอยู่แล้ว ช่วงกลางๆเป็นต้นไป แต่พอรู้จริงๆ ก็ตกใจ”

ได้เคลียร์หรือติดใจกับฝั่งรายการไหม?
“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้มีความรู้สึกอะไรไม่ดีกับฝ่ายไหนเลยเรื่องนี้ อย่างที่บอกส่วนนึงเราก็ต้องขอโทษทางช่อง7 ด้วย เพราะว่ายังไงก็ตามยังอยู่ในสัญญา มันยังเหลือเวลาอยู่ไม่ว่าจะมากจะน้อยยังไง ภาพที่ออกไปมันก็ทำให้ทางช่องเขาก็ต้องออกมาทำอะไรสักอย่าง เราก็เข้าใจ”

เราได้มีการท้วงติงทางรายการไหม ทำไมออกอากาศก่อน?
“ทางผู้จัดการฯ ก็มีถามไปว่าทำไมเหมือนเราคุยกันไว้อีกแบบหรือเปล่า ซึ่งเขาก็เคลียร์มา เท่าที่ผมได้ยินจากผู้จัดการฯ เขาก็บอกว่ามันเป็นความผิดพลาด ทางเขาก็ขอโทษมา”

ก่อนออนแอร์ไม่ได้สื่อสารบอกก่อน?
“เขาบอกก่อนออนไม่นานเท่าไหร่ อย่างที่บอกวันนั้นผมเดินสายโปรโมทเพลงด้วย ก็เลยออกมาแนวกะทันหันนิดนึง”

น้อยใจไหมที่ต้นสังกัดออกจดหมายมาแบบนั้น?
“ไม่นะครับ ผมเข้าใจทุกๆ ฝ่ายว่าทางช่อง7 ด้วยความที่เขาก็ต้องทำอะไรสักอย่างกับเหตุการณ์แบบนี้ ไม่อย่างนั้นนักแสดงคนอื่นๆ ก็จะเกิดคำถามขึ้นมาได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรที่ไม่ดีกับทางช่อง7 เลย อย่างแรกเลยรู้สึกขอบคุณและรู้สึกดีกับเวลาที่ผ่านมาด้วยซ้ำครับ”

ตอนนั้นเราได้บอกกับทางช่องไหมว่าจะไปออกรายการ?
“ไม่ได้บอกก่อนครับ แต่ที่บอกก่อนหน้านี้คืออาจจะไม่ได้ต่อสัญญา”

เราวางแผนในอนาคตเอาไว้แล้วใช่ไหม?
“ก็มีคุยกับผู้จัดการว่าจะไปทำอะไรบ้างดีหลังจากนี้ หลังจากที่หมดสัญญาไปจริงๆ”

ได้ไปอธิบายกับทางช่องหรือยัง?
“มีครับ ก็มีโอกาสได้อธิบาย ได้พูดคุยประมาณนึง ผมก็เชื่อลึกๆ ในใจว่าความรู้สึกของทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้เป็นไปทางลบมากขนาดนั้น”

ปัจจุบันเราก็ไม่ได้ติดใจใคร และอีกสองฝั่งก็ไม่ได้ติดใจกันใช่ไหม?
“ใช่ ไม่ได้ติดใจอะไรใครครับ ผมเข้าใจว่าทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ คนเขาก็มีเหตุผลในการกระทำทุกๆ อย่าง เราก็เป็นคนที่อยู่ตรงกลางของเรื่องทั้งหมด ฉะนั้นพอมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเราก็เข้าใจได้ จริงๆ ถ้าให้ผมมองในแง่ดีในเรื่องนี้ กลายเป็นว่าผมได้เห็นว่ามีแฟนๆ มีคนที่เขาซัพพอร์ตเรา มีคนที่เขาเป็นห่วงเราอยู่มากพอสมควรเหมือนกัน มันก็เป็นแง่ดีในมุมนึงของเรื่องนี้”

เรื่องนี้สร้างความเสียหายให้เรามากน้อยแค่ไหน?
“อันนี้ผมยังไม่ทราบเหมือนกันครับ เท่าที่ฟังจากทางผู้จัดการ ณ ตอนนี้ก็น่าจะยังไม่มีอะไรนะครับ เพราะอย่างที่บอกได้คุยกับทุกฝ่ายแล้ว และออกมาไปในทิศทางที่ผมเชื่อว่ามันจะดี”

จะมีการเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่อีกครั้งไหม?
“จริงๆ ผมได้เคลียร์ไปประมาณนึงแล้วครับ แต่ถ้าหลังจากนี้ถ้ามีโอกาสได้เจอ หรือทางนั้นอยากพูดคุยอะไรผมก็ไม่ติดครับ ก็คุยได้”

ตอนนี้เราเองรู้สึกผิดกับตัวเองไหม?
“ผมก็รู้สึกว่ามันก็มีส่วนที่เราต้องออกมาขอโทษ มันก็มีความผิดแหละ จะบอกว่าไม่มีเลยมันเป็นไปไม่ได้ เราก็เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องทั้งหมดนี้ แต่ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ ฝ่ายเลย ทั้งทางช่อง ทางแฟนๆ ทุกๆ คน หรือพี่ๆ นักข่าวที่เข้าใจและอุตส่าห์มาสนใจในเรื่องนี้ของผมด้วย”

จริงๆ แล้วเราวางแผนว่าจะเป็นอิสระหรือต่อสัญญา?
“จริงๆ มันก็ไม่ได้ต่างมากกับสิ่งเดิมที่คิดไว้นะครับ แต่มันกลายเป็นว่าเรื่องที่คนหันมาสนใจมากขึ้น และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์หลายแบบ ซึ่งผมก็เข้าใจทุกๆ แบบอยู่แล้ว เข้าใจได้ครับ”

การทำงานที่ผ่านมากับช่อง7 มีอะไรที่อึดอัดใจบ้างไหม?
“ผมแฮปปี้อยู่แล้วครับ คือทุกคนน่าจะได้รู้ว่าผมก็อยู่กับช่องมานาน ละครเรื่องแรกในชีวิตของผมเลยก็คือของช่อง7 HD ก็อยากจะขอบคุณอีกหลายๆ ครั้งเลย เพราะเราก็รู้สึกผูกพันกับตรงนี้ ระหว่างทางที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ผมอึดอัดนะครับ”

เครียดกับคอมเมนต์ที่คนเข้าใจผิดไหม?
“จริงๆ มันก็มีคนเข้าใจไปในหลายทิศทาง หลายแบบครับ ซึ่งผมจะไปบอกว่าแบบไหนผิดมันก็ไม่ได้หรอก เพราะเขาก็เข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น กับสารที่เขาได้รับในแบบนั้น ซึ่งผมก็เข้าใจถ้าเขาจะคิดแบบนั้นก็ไม่เป็นไร แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกเลยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ผมได้มาพูด”

ได้ออกมาอธิบายแล้ว รู้สึกโล่งไหม?
“โล่งครับ ก็รู้สึกดีขึ้น จริงๆ ก็รอคอยวันนี้ ตื่นเต้นมากครับ ผมอยู่ในวงการมาค่อนข้างนาน ก็เพิ่งเป็นประเด็นที่ทอล์คออฟเดอะทาวน์”

ได้ขอโทษผู้ใหญ่แล้ว?
“ใช่ ได้ขอโทษแล้ว และชี้แจงว่าเราไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้มันไปในทางที่ไม่ให้เกียรติอะไรใดใดเลย วันนี้ผมก็ออกมาเล่าความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ทุกคนได้ทราบ”

พอทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน เราเคว้งไหม จะไปต่อยังไง หรือมีค่ายไหนมาจีบไหม?
“อันนี้ผมว่าทางผู้จัดการคือก่อนหน้านี้เขาก็คงมีลองถามๆ ไว้ประมาณหนึ่ง อยู่แล้ว มันก็เป็นเรื่องปกติของนักแสดงว่าถ้าสมมติหมดสัญญาแล้วเราจะทำยังไงต่อ เพื่อเป็นการวางแผนเส้นทางของการงาน”

เล็งไว้ไหมว่าจะไปเซ็นกับค่ายไหน?
“เราก็อยากจะหาประสบการณ์อะไรใหม่ๆ จะได้ทำอะไรที่เราไม่เคยทำ ได้เจอแฟนๆ กลุ่มที่เราไม่เคยได้ไปเห็นเขา”

ตอนนี้ใช้คำว่า นักแสดงอิสระ ก่อน?
“จะใช้อย่างนั้นก็ได้ ตอนนี้เราก็ทำเพลง แต่งเพลง เขียนเพลงทั้งวันเลยครับ”

โก้ห่วงความรู้สึกแฟนคลับขนาดไหน?
“ห่วงความรู้สึกแฟนคลับ จริงๆ ณ จุดแรกเลยที่มันเกิดขึ้นผมก็เป็นห่วงเขาเพราะว่ามีแฟนคลับที่รู้สึกช็อกและเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น คือไม่ได้เสียใจเขาไม่ได้โทษว่า เฮ้ย ทำไมทำแบบนี้ ไม่น่ารักเลย แต่เขาเสียใจเหมือนเขาอยากดูละครเราต่อ อยากเห็นผลงานเราต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเป็น

กลุ่มแฟนคลับที่สนิทๆ หลังจากนั้นผมได้ไปเล่นคอนเสิร์ตแฟนๆ เขาก็ตามมาเจอก็มีการพูดคุยคร่าวๆ นิดหน่อย ก็พอดีขึ้น แต่ตอนแรกที่มาคือเขาร้องไห้ตาบวมมาเลย เขาบอกร้องไห้ทั้งคืนเลย เสียใจ (เขากลัวโก้โดนด่า?) ด้วย ใช่ เขาก็เป็นห่วงเรา ก็ขอบคุณแฟนคลับทุกคนไม่ว่าเราจะเคยเจอกันหรือไม่เคยเจอกัน แต่ว่าผมได้รับกำลังใจจากทุกๆ คน ทุกๆ ฝ่ายเยอะมากจริงๆ แล้วมันก็ช่วยให้ผมก้าวข้ามเรื่องนี้ได้อย่างสวยงามและแข็งแรงได้จริงๆ”

กับตัวโก้เองได้มีน้ำตากับเรื่องนี้ไหม?
“มันอาจจะอยู่ลึกๆ ครับ (หัวเราะ) อย่าเรียกว่าน้ำตาตกในเลย ผมไม่รู้ว่าคำนั้นมันจะถูกเป๊ะๆ หรือเปล่า มันก็มีหลายอารมณ์เกิดขึ้น เรื่องนี้เกิดขึ้นมันก็มีทั้งความรู้สึกงง มีทั้งช็อก ตกใจ เสียใจ มันมีหลายอย่าง ก็เลยไม่ได้บอกว่ามันจะไปในอารมณ์ทิศทางไหนเป็นหลัก มันอวนๆ”

ในอนาคตจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับช่อง7อีกไหม?
“ผมเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเราก็คุยกันประมาณนึงแล้ว จากที่คนจะมองว่ามันต้องไปในทิศทางลบ แต่หลังจากที่คุยกับช่อง ผมว่ามันไม่ได้ไปในทิศทางลบขนาดนั้น มันดีกว่าที่หลายคนเห็น ซึ่งผมก็พร้อมนะครับในอนาคตถ้าทางช่อง7 เขาอยากจะได้ผมกลับไปร่วมงาน ผมก็ยินดีครับ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน