ปันปัน สุทัตตา เบญจเพสเข้าแรง อยู่ๆ หน้าขยับข้างขวาไม่ได้ ป่วยปลายประสาทอักเสบ ต้องรักษาตัวนาน 2 เดือน เลื่อนงานเพียบ
เรื่องความเซ็กซี่ นักแสดงสาว ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ ก็ไม่แพ้ใคร ล่าสุดมาร่วมงาน CC DOUBLE O เปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่ ที่ร้าน CC DOUBLE O เซ็นทรัลเวิลด์ ในชุดเซ็กซี่เล็กๆ และได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องการดูแลตัวเอง และเรื่องสุขภาพหลังรักษาตัวอยู่พักใหญ่จากการเป็นปลายเส้นประสาทอักเสบ
วันนี้แต่งตัวมาเซ็กซี่เลย? “แต่งตัวให้เข้ากับเรามากกว่า แล้วหนูตัวเล็กถ้าใส่มาปิดหมด มันก็จะดูตัน แต่งให้มันดูมีอะไรขึ้นนิดหนึ่ง”
พอเราแต่งตัวมากขึ้นต้องดูแลตัวเองมากขึ้นไหม? “เสื้อผ้าหน้าผมเราก็ต้องให้ความสำคัญกับตรงนี้เพราะว่าเราอยู่จุดนี้ เราออกกำลังกาย 5 วันต่ออาทิตย์ในช่วงเช้า หนูเล่นในห้องเลย ไม่ต้องเดินไปที่ยิม ตื่นปุ๊บก็ออกกำลังกายเลย ในคอนโดหนูจะมีดัมเบลและอุปกรณ์นิดหน่อย เราชินแบบนี้ตั้งแต่โควิดแล้ว เรารู้สึกว่าการที่เราเดินทางไปยิมมันทำให้ชีวิตเสียเวลา แค่เดินไปข้างล่างก็ขี้เกียจแล้ว ชอบเล่นคนเดียว คือพอตื่นขึ้นมาก็ล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็เริ่มออกกำลังกายเลย ประมาณวันละ 30-40 นาที แล้วก็อาบน้ำออกไปทำงานได้เลย”
ทำยิมไว้ในห้อง? “ไม่ใช่ แค่ซื้อดัมเบลไว้เฉยๆ แล้วก็เปิดทีวีดูแล้วทำตาม เราอยู่ของเราเอง”
คิดจะไปเติมอะไรในร่างกายไหม? “หมายถึงไปเติมนมใช่มั้ย(หัวเราะ) มีแค่นี้ค่ะ แฮปปี้แล้ว ไม่เติม หนูรู้สึกว่ามันแต่งตัวง่ายและเราตัวเล็กด้วย ถ้าเกิดนมเราใหญ่เราจะแต่งตัวยาก ถ้าใส่ชุดแบบนี้ก็จะดูอู้ เคยคิดสมัยก่อน เห็นทุกคนเขาทำกันแล้วเราต้องทำมั้ย แต่สุดท้ายถ้าแต่งตัวแล้วไม่มี มันก็ดันๆ ก็ขึ้นมาอยู่นะ เราไม่ได้แบนราบไปเลย มันก็มีนิดหน่อยค่ะ การใช้ชีวิตประจำวันมันก็แต่งตัวง่าย ดูไม่โป๊ ผู้หญิงบางคนที่ดูหน้าอกใหญ่ มันก็จะดูเซ็กซี่ตลอดเวลา ใส่เสื้อยืดก็จะดูเซ็กซี่ เราแฮปปี้กับตัวเอง”
คนรอบข้างมีอยากให้ทำไหม? “เคยมีถามเหมือนกัน แต่เรารู้สึกว่าถ้าคุณทำแล้วสวยคุณทำไปเถอะ แต่เรามั่นใจแบบนี้ เราโอเคแบบนี้”
มีคนทักไหมว่าราบเรียบไปนิด? “มีเหมือนกัน เวลาไปแต่งตัวเขาก็จะบอกน้องห่อเหี่ยวมากเลย หนูก็บอกว่าไม่เป็นไรค่ะ พี่ก็หาวิธีให้ก็แล้วกัน”
ไม่มีจิตตกใช่ไหมโดนทักแบบนี้? “สมัยก่อนเคยจิตตกค่ะ ตอนนี้รู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอก แบบนี้ก็โอเค อย่าบูลลี่หนูก็แล้วกัน(หัวเราะ)”
อายุเข้าเบญจเพสแล้วมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นบ้างไหม? “อายุ 25 ก็มันเกิดเหตุการณ์เมื่อ 2-3 เดือนก่อน ป่วยประมาณหนึ่งเป็นปลายประสาทอักเสบ เหมือนอย่างที่ จัสติน บีเวอร์ เป็น หน้าขยับไม่ได้ นี่ก็ยังไม่หายดีเลย เป็นแค่ครึ่งล่าง เหมือนกับพูดแล้วหน้าขยับไม่ได้ เป็นด้านขวาครึ่งล่างมันขยับไม่ค่อยได้ แต่ว่าตอนนี้หายแล้ว”
รู้ตัวว่าเป็นก็ไปหาหมอเลย? “มันเกิดเหตุการณ์ที่อยู่ดีๆ วันหนึ่งเราก็พูดไม่ชัด เราก็เลยดูกระจกสงสัยว่าทำไมปากเราไม่ขยับก็เลยไปโรงพยาบาล คำแรกที่คุณหมอถามเลยว่าไปฉีดหน้ามาหรือเปล่า หนูบอกคุณหมอว่าหนูไม่ได้ฉีดหน้ามานานมากแล้ว เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่เป็นเพราะว่าไปฉีดหน้ามา แต่ว่าหนูไม่ได้ฉีดหน้าเลย พอวินิจฉัยแล้วก็รู้ว่าเป็นปลายประสาทอักเสบ ก็รุนแรงอยู่ช่วง 2 เดือนนั้น ซึ่งหนูก็ไม่ได้บอกใคร ที่รักษานานเพราะว่ามันเป็นที่ปลายประสาทอักเสบ ซึ่งงานก็ต้องเลื่อนไปเลยตอนนั้นถ่ายละคร ก็ถ่ายไม่ได้เพราะว่าพูดไม่ได้ กระทบงาน ต้องเลื่อนทั้งหมดเลย อย่างที่ไหนที่ต้องมีการพูดไปไม่ได้เลยเพราะว่าหนูพูดไม่ได้”
ต้องยกเลิกไปกี่งาน? “เยอะค่ะ อย่างซีรีส์ที่ต้องถ่าย หนูก็ขอเลื่อน และอาการแบบนี้มันต้องใช้เวลาในการรักษานาน ขอเลื่อนเลยหนึ่งเดือน ตอนกลับมาถ่าย ผู้กำกับฯ ก็ช่วย ถ่ายแค่ครึ่งหน้าให้พูดไม่ต้องเยอะมาก เพราะว่ามันเห็น”
หายขาดไหม? “ตอนนี้ก็ถือว่ายังไม่หายมันต้องใช้เวลาต้องค่อยๆ รักษาตัวเอง (สาเหตุเกิดจากอะไร?) เป็นไวรัสตัวหนึ่งที่คนติด แล้วเรามียีนส์ตัวหนึ่งที่รับเชื้อไวรัสตัวนี้ เพราะกลับจากอเมริกาปุ๊บเป็นเลย มันเป็นเชื้อที่ทุกคนเจอและอาจจะรับเข้ามาได้ถ้าร่างกายเราอ่อนแอมากๆ มันก็อาจจะกลับขึ้นมาใหม่”
มีโอกาสหายร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม? “มีค่ะ มันต้องใช้เวลา บางคน 3 เดือน 6 เดือน ค่อยๆ รักษาไป”
เบญจเพสนี้เรายังกังวลเรื่องอื่นอีกไหม? “จริงๆ เบญจเพสมีหมอดูทักเรื่องการป่วยเรื่องของเส้นประสาทแต่ทักคุณพ่อ เราก็รู้สึกว่าอย่าให้พ่อเป็นเลย เป็นได้อยากจะเป็นแทนให้ นั่นไงเรียบร้อยเลย”
จะมีไปมูเพื่อเสริมดวงหน่อยไหม? “เรื่องของการไหว้พระเดี๋ยวนี้เราก็ไหว้อยู่แล้ว ก็ไหว้ขอพรตอนนี้เลยขอแค่ให้สุขภาพดีและให้เรามีความสุขในทุกๆ วัน ลืมตาแล้วมีความสุขกับตัวเอง มีความสุขกับงาน มีความสุขกับการเรียน พ่อแม่มีความสุข คนรอบตัวรัก แค่นี้พอแล้วไม่ขออะไรมาก”
จะกลับไปทำจิตอาสาแบบที่เราเคยทำไว้ไหม? “จริงๆ ก็ดีนะ เดี๋ยวนี้ก็เริ่มทำบุญมากขึ้น เริ่มศึกษาธรรมะมากขึ้น หายใจเบาลง”
