ครบรอบ 5 ปี ชีวิตแต่งงาน สำหรับคู่รักหมื่นล้าน เจ้าสัวบุญชัย กับ ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล ซึ่งเจ้าตัวโพสต์หวานในไอจีถึงความรักที่ดูแลเอาใจใส่กันเป็นอย่างดีมาตลอด ล่าสุดเจอทั้งคู่ในงานรอบกาล่า ภาพยนตร์เรื่อง
“SAD BEAUTY เพื่อนฉัน..ฝันสลาย” ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของสาวตั๊ก ที่โรงภาพยนตร์สยามพารากอน เจ้าสัวบุญชัยมาให้กำลังใจภรรยาสาวพร้อมทั้งควบตำแหน่งผู้อำนายการสร้าง จากนั้นอัพเดตความหวานชีวิตคู่
เจ้าสัวบุญชัย กล่าวว่า “ตั๊กกำกับมาหลายเรื่อง ทั้งหนังสั้น หนังยาว สำหรับเรื่องนี้เขาก็กำกับและสร้างตามใจตัวเอง ผมก็อยากเห็นเขาได้แสดงฝีมือ ซึ่งผมภูมิใจในตัวเขา เสียดายข้าวหอมไม่ได้มาดูเพราะยังเด็กไป”
ก่อนหน้านี้ตั๊กเครียดเรื่องหาทุนสร้างหนัง
เจ้าสัวบุญชัย กล่าวว่า “ในฐานะที่เขาเล่นภาพยนตร์มาเยอะ ซึ่งผมไม่รู้เรื่องสร้างหนังเลย แต่ว่าดูหนังเยอะและได้มีโอกาสไปสัมผัสกองถ่าย ทำให้เรารู้ว่าหนังทุกเรื่อง กว่าจะได้แต่ละฉากเขาถ่ายกันครึ่งคืน แล้วเราจะสื่อสารคนดูในบ้านเรายังไง เราดูแต่หนังฮอลลีวู้ด บอลลีวู้ดก็ตีเข้ามาแล้ว หนังเกาหลีก็มาแล้ว หนังไทยยังดูกันไม่มาก อยากให้ช่วยให้กำลังใจ โดยเฉพาะผู้กำกับหญิงบ้านเราก็มีน้อย มาดูว่าหนังไทยเดี๋ยวนี้ผู้กำกับมีการพัฒนาไปถึงระดับไหนบ้างแล้ว”
ตั๊ก เสริมว่า “(ยิ้ม)ไม่ได้ให้กำลังใจเลย ปลุกแบบว่า ตื่นๆ ไปถ่ายหนังได้แล้ว ไปกำกับได้แล้ว มีแต่เข็นให้ไป”
นายทุนคนนี้เป็นยังไงบ้าง
ตั๊ก บอกว่า “เราเป็นสามีภรรยากันก็จะไม่ค่อยเรียกว่านายทุนเพราะจะดูไม่ค่อยดี”
เจ้าสัวบุญชัย บอกว่า “กระเป๋าเดียวกัน”
ตั๊ก “ไม่กล้า (หัวเราะ) คือเราก็บอกกับคุณบุญชัยว่าอยากทำเรื่องนี้และจะทำออกมาให้ดีที่สุด จะพยายามให้ได้กำไร พี่เขาก็อยากให้เรามีอาชีพที่เราอยากจะทำ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะตามใจเราหมด เขาก็จะบอกว่าหนังอย่าอาร์ตนะ อย่าทำให้คนดูหลับ อย่าอินดี้เกินไปนะ มันต้องแมสนะ พี่เขาก็จะเตือนตลอด เราจะชอบแนวไหนก็ตามหนังจะต้องสนุก เขาไม่ได้ตามใจทุกอย่าง ไม่เคยตามใจ เขาอยากให้เราโตเป็นคุณแม่ที่ดีและเข้มแข็ง”
เจ้าสัวบุญชัย “ใช่ครับ เป็นที่พึ่งของลูกได้ วันหนึ่งผมไม่อยู่เขาก็ได้ทำในสิ่งที่เขาชอบด้วย ผมเชื่อว่าเขาทำได้ดี เขาเป็นคนที่มีความอ่อนไหว”
ตอนที่ไปทำงานกำกับ ลูกชายน้องข้าวหอมว่ายังไงบ้าง
ตั๊ก บอกว่า “บางทีเขาเห็นเราในทีวีไปออกรายการ ข้าวหอมจะถามว่า คุณแม่เป็นดาราหรอ เราก็บอกว่าไม่ใช่ แม่เป็นนักแสดง หรอ ทำไมคุณแม่ต้องไปอยู่ในทีวีด้วย แม่เคยเป็นดารานักแสดงมาก่อน เคยเล่นหนังมาก่อน”
เจ้าสัวบุญชัย เสริมว่า “เขายังไม่เข้าใจคำว่าดาราหรอก คงเน้นการ์ตูนมากกว่า คิดว่าน่าจะได้ยินคำว่าดารามาจากผู้กำกับทั้งหลายที่มาเยี่ยมเราที่บ้าน”
จะบอกเขาเรื่องการทำงานในวงการมั้ย
เจ้าสัวบุญชัย เผยว่า “ผมเป็นคนไม่แพลนให้เขา อย่างคาลิล ยิบราน เขาบอกว่าลูกเกิดจากเราแต่ไม่ใช่ของเรา เราให้การศึกษากับเขาให้มีความรู้ความสามารถ มีความขยันหมั่นเพียรที่เหลือเป็นเรื่องของเขาครับ ไปถ่ายรูป บวชเป็นพระ หรือทหาร ได้หมดครับ ขอแค่เขาเป็นคนดี”
เพิ่งผ่านครบรอบวันหมั้น 5 ปี โพสต์ข้อความหวานๆให้กัน
ตั๊ก บอกว่า “ก็รักเขาด้วยใจจริงๆ ตอนที่ตั๊กกำกับหนังเรื่องนี้ ตั๊กหนัก 90 โล ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ตั๊กไม่สนแล้วว่าสามีจะรู้สึกยังไง ตอนนั้นแม่ก็ป่วย ตอนนั้นเครียดมาก ก็เดินอยู่ในบ้านเดินไปเดินมา น้ำหนัก 90 โล แต่พี่เขาก็อยู่กับเราตลอด และเขาก็พูดมาคำหนึ่งว่าปีนี้กับปีที่แล้วมันไม่ดีเลย เครียดก็ยังดีกว่าไม่ได้กิน กินได้ก็ยังดีกว่าไม่กิน เราฟังแล้วเรารู้สึกน่ารักดีที่เขาไม่ว่าเราและเข้าใจเรา”
เป็นจุดเปลี่ยนทำให้ลุกขึ้นมาออกกำลังกาย
ตั๊ก ตอบว่า “ใช่ ตั๊กเลยเริ่มกลับมาดูแลตัวเอง คิดเลยว่าเราต้องดูแลตัวเอง กลับมาแข็งแรง เข้มแข็งเหมือนเดิม ตอนนี้หนักประมาณ 59 โล”
เจ้าสัวบุญชัย บอกว่า “พอแล้ว แค่นี้ก็ดูแลสุขภาพได้ดีแล้ว”
ตั๊ก บอกอีกว่า “ตั๊กก็พยายามดูแลตัวเอง แม่ตั๊กมีเชื้อเบาหวาน พ่อก็มี ถ้าเราปล่อยเนื้อปล่อยตัวมากและเราเป็นคนชอบทานขนม ตอนนี้ตรวจอาจจะไม่เจอ แต่ในอนาคตล่ะ เราก็ต้องดูแลตัวเองลูกเราก็ยังเล็ก”
ครบรอบ 5 ปี มีอะไรพิเศษ
เจ้าสัวบุญชัย บอกว่า “ทุกๆวันเป็นวันพิเศษครับ เราต้องทำให้มันพิเศษไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีมั้ย ผมผ่านชีวิตที่คุณพ่อคุณแม่ลุงน้าย่าเซอร์ไพร์สแล้วก็ไปเลย แล้วแม่เล็กแม่ของตั๊กวันที่ท่านจะไป เราก็ดูท่านปกติ ไปฟอกไต สั่งอาหารฉลองวันเกิดยังไม่ได้กินเลย ก็เลยเป็นบทเรียนว่าถ้าเรามีวันนี้อยู่กับคนที่เรารักกับครอบครัวของเราก็ควรจะเทคแคร์เขาทุกวันไม่ใช่ต้องรอครบรอบ วันวาเลนไทน์จริงๆคือทุกวันครับ”
ตั๊ก เผยด้วยว่า “ตั๊กไม่ได้หวังของขวัญอะไรจากเขาเลย ทุกวันนี้พี่เขาทำหน้าที่สามีและพ่อที่ดีมาก และยังเป็นลูกเขยที่น่ารักมาก ดูแลแม่เรา ไปนิมนต์พระจากวัดมาให้แม่ใส่บาตร แม่เป็นอัมพาต ก็จับมือแม่ใส่บาตร ทำให้เราเห็นและรู้สึกว่าพี่เขาดีมาก ก็มีความรู้สึกลึกซึ้งกว่าเดิม จากที่คนเขาพูดกันว่าเรารักกันด้วยอะไร เรามีความผูกพันกันด้วยอะไร เราตื่นมาแล้วเรารู้สึกว่าเราเป็นอะไร เรารู้ว่าเราเป็นใคร รู้สึกยังไงก็พอ ส่วนของขวัญแทนใจไม่จำเป็นต้องมีให้กันหรอกค่ะ ตั๊กบอกเลยว่าถ้าผ่านจุดที่ตั๊กอ้วน 90 โล แล้วทนตั๊กได้ ตอนตั๊กสติแตกตอนที่แม่ป่วยมากๆ พี่เขาผ่านมาแล้วไม่ต้องหาอะไรมาให้ตั๊กหรอก”
