เสรี รุ่งสว่าง เผยโฉมลูกชายคนเล็ก น้องแมคคิว เชื่อคล้าย ยอดรัก สลักใจ กลับชาติมาเกิด – เผยจบคดีมหากาพย์ ครูชลธี ลั่นไม่คิดฟ้องกลับ

นักร้องลูกทุ่งแถวหน้าของเมืองไทย เสรี รุ่งสว่าง ควงลูกชายเสียงดี เสเบนซ์ รุ่งสว่าง เปิดโมเมนต์สุดน่ารัก พร้อมด้วย น้องแมคคิว ลูกชายคนเล็กวัย 12 ขวบ เชื่อคล้าย ยอดรัก สลักใจ กลับชาติมาเกิด พร้อมอัพเดตคดีความกับครูเพลงชื่อดัง ครูชลธี ธารทอง ที่ขึ้นโรงพักฟ้องร้องกันก่อนหน้านี้นานนับ 10 ปี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ผ่านทางช่อง วัน31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, หนิง ปณิตา และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

โดนครูเพลงท่านหนึ่งฟ้องร้อง แล้วเป็นคดีมหากาพย์ด้วย ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง? เสรี : “ทางตำรวจเขายกฟ้องไปแล้ว เขาไม่ส่งฟ้องศาล คือตอนที่เขาฟ้องเรา พอเอาลายมือไปพิสูจน์หลักฐานก็เป็นลายมือของครูชลธีจริง เขาก็เลยยกฟ้อง”

เรียกได้ว่าสิ้นสุดคดี 100% แล้ว? เสรี : “ครับ สิ้นสุดคดี 100% ไปแล้ว คดีนี้นานจริงๆ เป็น 10 ปี แต่เราไม่อยากไปต่อ อยากให้มันหยุดพักไปเลย พอเราชนะแล้ว พิสูจน์หลักฐานแล้วว่าเป็นลายมือครูชลธีจริง มีคนบอกว่าฟ้องกลับเลย เราคิดอยู่ในใจว่าถ้าเราฟ้องกลับกว่าจะได้เงิน สมมติว่าเรียกไป 20 ล้านเหมือนที่เขาเรียกเรามา เคลียร์กันอยู่ไม่เกิน 2 แสน ถ้าเราชนะความ แล้วถ้าถามว่า 2 แสน อีก 10 ปี ครูชลธีตายไปแล้ว เราจะไปเอากับใคร เพราะฉะนั้นเราอยู่เฉยๆ ดีกว่า เพราะครูชลธีเหมือนพ่อเรา มีคนยุเขาหรือเปล่า ทีนี้คนเราต้องมีสติสัมปชัญญะด้วย ผมเองผมก็ไม่ฟ้องครูชลธี เพราะครูชลธีเปรียบเสมือนพ่อผม เขาคิดว่าเราเป็นลูก ใครจะยุยังไง ก็เฮ้ย…อย่าไปฟ้องเขาเลย”

ตอนนี้ถือว่ายกภูเขาออกจากอกหรือยัง? เสรี : “ใช่ครับ อนนี้ไม่มีปัญหา เราต้องหยุดตัวเราเอง ถ้าเราไปสานต่อ เขาฟ้องมา เราฟ้องกลับมันก็ไม่จบ

ตอนที่โดนฟ้องตกใจขนาดไหน? เสรี : “ตกใจมาก 3 เดือนวันเกิดเรา ท่านก็ยังมาหาให้กำลังใจ บอกให้เป็นพี่ใหญ่ในวงการลูกทุ่งนะ ต้องสืบสานไปเรื่อยๆ แต่พอ 3 เดือนให้หลังมาฟ้องเราเลย 20 ล้าน”

ความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง? เสรี : “เราไม่เคยกลัวเลย แต่ว่าเราคิดไม่ถึง นี่เราเป็นลูกเขามาฟ้องเราเลย หมดคนฟ้องแล้วเหรอ คนในวงการลูกทุ่งโทรมาหา กูไม่เชื่อมึงเลยว่าชลธีฟ้องมึง ผมเองก็ไม่เชื่อ ทีนี้เพื่อนโทรมาบอก ส่งคลิปมาให้ดู โอ๊ะ…มันเป็นจริง”

แล้ว 10 ปีที่ผ่านมาทุกข์ขนาดไหน? เสรี : “เราไม่ได้ทุกข์อะไร เพราะลายเซ็นจริง เราซื้อจริง มันไม่ใช่แค่นี้ มันมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ยิบๆ ย่อยๆ อีกเยอะ เราเสียเงินให้แล้ว เราถือว่าให้พ่อ”

เสเบนซ์ตอนที่พ่อมีปัญหาอยู่กับพ่อ ให้กำลังใจพ่อยังไง? เสเบนซ์ : “ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันที่มีเรื่องแบบนี้ เรารู้จักท่าน นับถือเป็นปู่”

เสรี : “เขายังเขียนเพลงให้เลย เพลง ตามรอยพ่อ”
เสเบนซ์ : “ตอนวันเกิดพ่อยังได้เจอกัน แต่พออยู่ๆ เป็นข่าว เราก็ไปถามพ่อว่าเรื่องมันเป็นยังไง พ่อบอกไม่เป็นไรลูกเดี๋ยวก็จบ”

แสดงว่าตอนนั้นพ่อพยายามสมานความรู้สึกปู่กับหลาน? เสรี : “ใช่ จริงๆ เราไม่ได้ซีเรียส ก็บอกลูกว่าไม่เป็นไรของพ่อเขาเซ็นให้ เราซื้อเขา เดี๋ยวมันก็จบ เราไม่อยากให้มันกระทบกระเทือน ไม่อยากให้ลูกไปคิดว่าทำไมต้องมาฟ้องพ่อ”

เสเบนซ์แล้วทุกวันนี้ความรู้สึกยังเหมือนเดิมไหม? เสเบนซ์ : “เหมือนเดิมครับ ความรู้สึกไม่ได้มีอะไร”

ตอนนี้คดีมันสิ้นสุดแล้ว มีโอกาสได้เจอครูเพลงไหม? เสรี : “ช่วงนี้งานเราเยอะก็เลยไม่ค่อยได้ไป แล้วไม่มีใครส่งข่าว ยังเงียบๆ กันอยู่”

พอคดีสิ้นสุด ทางฝั่งครูเพลงมีปฏิกิริยาอะไรกับคนใกล้ตัวแล้วมีข่าวมาถึงเราไหม ว่าเขารู้สึกอะไรยังไงกับผลของการตัดสิน? เสรี : “ไม่หรอกครับ เขาจำนนต่อหลักฐาน หมายถึงพอพิสูจน์เสร็จปุ๊บ ถ้าเราไม่ไปฟื้นขึ้นมาอีก มันก็ไม่มีข่าว แต่ถ้าเกิดว่ามีข่าว เราต้องเป็นคนฟื้น วงในรู้กันดีว่าทางตำรวจยกฟ้อง เราก็เงียบ”

บางคนอาจจะลืมไปแล้วว่าฟ้องเรื่องอะไร? เสรี :เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์เพลง เอาเพลงมาทำโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต คือที่จริงแล้วเราซื้อมาทำ การที่เราจะทำซีดีออกมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว การจะทำซีดี เราจะต้องไปเอาเลขที่ทรัพย์สินทางปัญญา มันต้องมีลายเซ็นทั้งหมด ทั้งคนเขียน คนร้อง แล้วเขาถึงจะให้เลขมาปั๊มลงซีดี ถ้าไม่มีลายเซ็นพวกนั้นไปเขาก็จะไม่ปั๊มลงซีดี ปั๊มไม่ได้ แล้วก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราซื้อมาถูกต้องตามกฎหมาย 10 กว่าปีที่ผ่านมา เขาดูมาทุกวันอยู่แล้ว”

พ่อลูกสนิทกัน แสดงความรักต่อกัน หอมกัน จูบกัน เป็นยังไง? เสรี : “เราเลี้ยงลูกมา เราเห็นทุกวัน เวลาจะไปไหน เราต้องหอมลูก เช้ามาลูกก็มาหอมเรา คือสืบสานตั้งแต่ปู่ พ่อผมเนี่ย ทำเหมือนกันเช้ามาก็มาหอมเรา ทีนี้เราก็ติด พอเราเลี้ยงลูก เราก็หอมลูก”

เขินไหมเวลาหอมพ่อ? เสเบนซ์ : “ไม่เขินเลย เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ ทุกวันนี้ไม่ใช่ผมคนเดียว พี่น้องทุกคนก็เป็นแบบนี้หมด”

ถึงขนาดจูบกับพ่อเลยเหรอ? เสเบนซ์ : “จุ๊บปากเลย”

บ้านนี้มีกฎเหล็กบ้างไหม? เสรี : “ไม่มีครับ จริงๆ แล้วเราเลี้ยงลูกผิด เลี้ยงตามใจเกินไป กลัวลูกจะลำบากใช่ไหม เราขับรถไปไหนมาไหน รถมันเคยชนเด็กนักเรียน เราก็คิดถึงลูก ถ้าลูกเดินอย่างนี้รถมาชน กูอยู่ไม่ได้นะ เดี๋ยวมีเรื่องกับเราแน่ ก็ไปซื้อรถตู้ เอาแม่บ้านมาให้ขับรถไปส่งหน้าโรงเรียน แล้วตอนเย็นรับกลับ แต่มันไม่สมใจเราตรงที่ว่าพอมันโตมาหน่อย มันหนีโรงเรียน”

เสเบนซ์ : “จริงๆ แล้วผมเป็นคนไม่ค่อยเก่งเรื่องเรียน แต่ที่โดดเรียนไม่ได้ไปไหนครับ อยู่ห้องดนตรีไทย ซ้อมดนตรีแล้วก็นอนอยู่ในนั้นเลย”

แบบนี้พ่อจะโกรธได้ไง? เสเบนซ์ : “เขาไม่รู้ ส่วนมากครูจะโทรคุยกับแม่มากกว่าเพราะว่าพ่อทำงาน พ่อเลยไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่”

ทำไมต้องไปห้องดนตรีไทย ทั้งๆ ที่มีโอกาสไปที่อื่นได้? เสเบนซ์ : “ผมไม่ชอบออกไปข้างนอก ผมมีเพื่อนน้อยมาก จะมีก็พวกเล่นดนตรีไทยกับเรา”

เสรี : “จะไม่ค่อยสอนเรื่องการร้องเพลง ไม่ชอบสอน แล้วก็ไม่ชอบสอนใคร เราไม่รู้ว่าเราเก่งขนาดไหน เรากลัวคำที่เขาสวนมา มึงจะมาสอนกู มึงเก่งขนาดไหนวะ คำนี้สำคัญมาก กับลูกเราจะสอนตอนหน้าเวที เราจะร้องกัดเลย ร้องให้ดี แล้วคนดูก็จะโห่เวลามันร้อง คนดูก็จะไม่เอาๆ ให้พ่อร้อง นี่พอมันลงมาถึงรถปุ๊บ คนเขาโห่หนู บอกดีไหมล่ะ ถ้าไม่ให้เขาโห่ต้องทำยังไง มันต้องร้องให้ดีสิ”

แมคคิว ชื่อจริงชื่อ เสรี รุ่งสว่าง เป็นชื่อพ่อเลย? เสรี : “ใช่”

ทำไมถึงให้น้องชื่อเสรี รุ่งสว่าง? เสรี : “ตอนเขาเกิดมา เขาเกิด 7 เดือนครึ่ง เขาตกเลือด แม่เขาต้องผ่าออก ผ่าด่วน ไม่งั้นเขาตาย เราดูในพจนานุกรมหลายๆ ชื่อที่จะตั้งชื่อเขา ชื่อแมคคิวเราเป็นคนตั้งให้ แต่ทีนี้ต้องการชื่อจริง มันมี 3-4 ชื่อ คือเวลาที่เขาเกิดไม่ค่อยดี แต่ชื่อนี้ตกฟากมันจะตรงกับเขา แล้วมันจะดีมากๆ ส่งเสริมลูก ส่งเสริมพ่อแม่ ก็เลยให้ชื่อเป็นเสรี รุ่งสว่าง แต่เราชื่อจริงว่า กิตติกร รุ่งสว่าง”

พ่อให้ชื่อตัวเองกับลูกเลย? เสรี : “ให้ชื่อ เสรี จูเนียร์”

ตอนนี้อายุเท่าไหร่? แมคคิว : “12 ครับ”

พ่ออยากดันเป็นนายแบบ นักแสดง แต่จริงๆ เราอยากเป็นอะไร? แมคคิว : “นักวิทยาศาสตร์ครับ”
เสเบนซ์ : “ตอนเด็กอยากเป็นแต่มือกลองอย่างเดียว”
เสรี : “ให้เขาเรียนที่บ้าน พอไปเรียนที่โรงเรียนเขาไม่ค่อยเท่าไหร่ ก็เลยจ้างครูมาสอนที่บ้านเลย”

หมายถึง Home School? เสรี : “ใช่ เพราะว่าไปเรียนอย่างนั้นเราก็ไม่เห็นว่าเขาเรียนยังไงบ้าง ก็เลยจ้างครูมาสอนที่บ้านเลย ก็เรียนทุกวัน”

แอบกังวลอะไรไหม ทำไมให้น้องเรียน Home School? เสรี : “ในช่วงโควิด แล้วเขาเกิด 7 เดือนครึ่งแล้วเรากลัว โรงเรียนมันอาจจะติดกันได้ เราเลยไม่ให้ไปโรงเรียน ตอนนั้นฉีดวัคซีนไม่ได้ เราเลยให้อยู่บ้าน แล้วทีนี้ตอนหลังถ้าจะเรียนคงไม่ทันเขาแล้ว ก็เลยจ้างครูมาสอนที่บ้านดีกว่า จะได้ตัวต่อตัวเลย”

มีความรู้สึกว่า ยอดรัก กลับมาเกิดเป็นลูกชายคนเล็ก? เสรี : “ตอนที่ยอดรักเสีย ภรรยาท้อง 2 คน จริงๆ เราคิดว่าเราไม่ค่อยได้ยุ่งกับแฟนเลยนะ นานๆ ครั้งก็ติดได้ อีกอย่างแฟนเป็นโรคเลือด มดลูกเขาติดกระดูกสันหลังมันจะมีลูกยาก ทีนี้ติด 2 ครั้ง เสร็จแท้งทั้ง 2 ครั้ง แล้วตอนนั้นยอดรักเขาเสียไปแล้ว มีคนบอกว่าตอนเด็กๆ เขาหน้าเหมือนยอดรักเลย นี่ก็บอกไม่ใช่หรอก นี่ลูกฉัน แต่เรามาสังเกตตอนเขาได้ 2 ขวบ เราร้องเพลง ล่องเรือหารัก กับขอบคุณแฟนเพลง ไปเล่นที่เพชรบูรณ์ เขาเดินได้มาอยู่หน้าเวที เขาร้องไห้แบบฟูมฟายเลย ไม่รู้ว่าสาเหตุเรื่องอะไร พอคนนั้นพูดคนนี้ทัก เราก็บอกว่าไม่ใช่หรอก ไม่ใช่ยอดรักมาเกิดเป็นลูกเรา ตอนยอดรักตายเขาจับมือผม ตอนเขาจะเสียชีวิตคือเที่ยงคืนสิบห้านาที แล้วทีนี้คนนี้กลางคืนเขาก็ชอบจับมือผมนอนแล้วต้องให้กอดทุกคืน แล้วทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนี้”

ลึกๆ พ่อคิดไหม? เสรี : ตอนแรกเราก็ไม่คิดอะไร แต่ว่าพอหลังๆ เราสังเกตดูเวลาเขาเล่น เขาชอบแกะเล็บ ยอดรักเขาชอบแกะเล็บ นี่ก็ชอบแกะเล็บอยู่อย่างนั้น แล้วบางทีเวลานอน หยอกกับเราอย่างนี้ยิ้มกริ่มแบบคล้ายๆ”

แมคคิวรู้จักอายอดรักไหม? แมคคิว : “ไม่รู้จักครับ”

พอพ่อคิดว่าอาจเป็นอายอดรักกลับมาเกิด คิดว่าเป็นไปได้ไหม? แมคคิว : “ไม่ครับ”
เสรี : คือเราสังเกตช่วงนั้นมีคนมาทักเรื่อยๆ แล้วยอดรักเพิ่งเสียไป ตอนที่ยอดรักเสีย เมียเราก็แท้งไป 1 คน แล้วมีหมอดูเขาบอกว่าจะต้องมาเกิดอีก มาเกิดจนได้ นี่คนที่ 3 ตกเลือด 7 เดือนครึ่ง แม่เกือบตายต้องผ่าออก

คลิปสัมภาษณ์ เสรี รุ่งสว่าง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน