เอิร์ก เลเดอเรอร์ อยากกลับไทย แต่กลัวถูกรวบ แนะหุ้นส่วนถอนแจ้งความ – เข้าใจ ลิลลี่ ออกมาให้สัมภาษณ์ เชื่อมั่นทุกอย่างจบสวย

หลังจากที่ เอิร์ก เลเดอเรอร์ อดีตนักแสดง-นักธุรกิจคนดัง ถูก ลิลลี่ พอนสะหวัน ดาราเวียดนาม สัญชาติลาว เข้าแจ้งความว่าถูกดาราหนุ่มหลอกเงินไป 34 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้เดินทางหนีออกไปต่างประเทศแล้ว และยังมีผู้เสียหายถูกหลอกอีกนับ 100 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท ก่อนที่ ลิลลี่ เคลื่อนไหวอีกครั้ง อัดคลิปเพื่อขอร้องให้ เอิร์ก ช่วยคืนเงิน เพราะที่ผ่านมารัก เคารพ เชื่อมั่น และเชื่อใจในตัวเอิร์ก จึงยอมให้ยืมเงิน ก่อนจะยอมรับว่าพลาดที่เชื่อใจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุด เอิร์ก ได้เปิดใจกับทาง ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ เป็นที่แรก โดยเล่าถึงสภาพจิตใจหลังเจอข่าวถาโถม เผยเหตุผลที่ไปต่างประเทศ ยืนยันไม่ได้หนีและอยากกลับเมืองไทยเพื่อช่วยทุกคน แต่ติดที่ถูกออกหมายจับ ก่อนเคลียร์ดราม่าเรื่องที่ ลิลลี่ พอนสะหวัน ออกมาร่ำไห้ขอเงินคืน มั่นใจทุกอย่างจบสวย

สภาพจิตใจ “โอเคเลยเพราะว่าได้มอบหมายให้ทนายที่เมืองไทยจัดการแล้ว หุ้นส่วนต่างๆ ก็ได้คุยเกือบครบทุกคนแล้ว แต่ว่าอาจจะมีบางคนที่เราขอไม่คุยเพราะมีบางคนที่ไม่ดีกับเรา แล้วก็ทำให้ทุกอย่างมันเละเทะ ไม่ว่าจะเป็นการปั่นข่าวใส่ร้าย ตอนนี้ทุกคนรอให้เรากลับมาบริหารเงินบริหารงานให้ ทุกคนต้องการเราเพราะการไม่มีเรามันคือศูนย์ไง”

เผยเหตุไปต่างประเทศ “คือเริ่มแรกเลยมันเกิดจาการที่เราเองก็มีส่วนผิดตรงที่เราวู่วาม เครียดสะสม ตอนนั้นทุกธุรกิจไปได้สวยหมด แต่มีธุรกิจหนึ่งที่ใช้เงินลงทุนเยอะแล้วมันสะดุดนิดนึงเพราะเราโดนโกงเงินไปก้อนหนึ่ง เลยมาคุยกับหุ้นส่วน 3-4 คน ช่วยเราหน่อย เดี๋ยวเราจะแบ่งสัดส่วนในการโอนเงินให้ ตอนแรกๆ ก็ได้ แต่สักพักบางคนต้องการใช้เงินเยอะก็เริ่มกดดันและขู่เราว่าเขาไปกู้เงินมา เราก็เริ่มเครียดและคิดว่าฉันต้องบินแล้ว ฉันจะไปพักผ่อน”

“คิดในใจแบบนั้น มันก็เหมือนเห็นแก่ตัวชั่ววูบ ลองดูซิถ้าไม่มีฉันจะเป็นยังไง ความที่ตอนนั้นเราน้อยใจและโดนกดดันเยอะ หลังจากบินมาถึง ตื่นมาปุ๊บทุกคนทักหาน้องสาวหาเพื่อนหมดเลย คือเราลบไลน์และไอจีทิ้งหมดเพื่อไม่ให้ติดตามได้เพราะโดนขู่ฆ่าขนาดนี้จะได้ไม่ต้องรู้ว่าอยู่ประเทศไหน กะหายไป 1-2 อาทิตย์ จะหาว่าเราแก้ตัวก็แต่ตอนนั้นคิดแบบนั้นจริงๆ ก็ต้องขอโทษตรงนี้”








Advertisement

“หลังจากนั้นเพื่อนๆ ก็อินบอกซ์มาบอกว่าหุ้นส่วนไปแจ้งความที่กองปราบ เราก็ตกใจว่าขนาดนั้นเลยเหรอ เราก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่ อีกวันแม่โทรมาบอกว่าบัญชีแม่ถูกอายัด แล้วก็ออกหมายจับเลย เหมือนแกล้งกันอ่ะ จากที่แค่จะมาเที่ยว โอเคมีหมายจับใช่ไหมงั้นฉันยังไม่กลับ”

“แล้วหุ้นส่วน 2-3 คนนี้ โทรไปหาหุ้นส่วนคนอื่นของเราทั้งหมดเลยเพื่อให้ร่วมตัวกันไปที่กองปราบ ทั้งๆ ที่คนอื่นไม่ต้องรู้เรื่องก็ได้ แล้วเราอาจจะกลับไปในอาทิตย์นั้นก็ได้ แล้วการที่คุณออกหมายจับมันทำให้ฉันกลับประเทศยากขึ้นนะอย่าลืม ถ้าคุณต้องการตัวฉันจริงๆ ไม่ควรออกหมายจับ ควรแจ้งความเฉยๆ ก่อน คนอย่างเราไม่ยอมหรอกที่จะกลับไปแล้วโดนรวบที่สนามบิน

ยันไม่ได้หนี “ถามว่าคนอย่างเราถ้าต้องการจะหนีจริงๆ ก็ต้องขายของในคลินิกทั้งหมดแล้วสิ แต่นี่ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม ทุกอย่างถ้ามองจริงๆ มันสมเหตุสมผลอยู่ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยออกมาพูดเพราะรอแถลงข่าวทีเดียวตอนกลับเมืองไทย เพราะเรื่องราวมันค่อนข้างเยอะพอสมควร”

ลิลลี่…คนละกรณีกัน “ลิลลี่ให้เรายืมเงินมาทำธุรกิจเพราะน้องจะไม่เซ็นสัญญาทำธุรกิจเหมือนคนอื่น ความที่น้องเป็นคนต่างชาติ น้องอยากสบายใจ เลยเป็นให้ในทำนองของการกู้ยืมเงิน แต่จริงๆ เงินก็มาทำธุรกิจนี่แหละแล้วก็ให้ผลกำไรตามที่เราตกลงกัน น้องไม่มีอะไรผิดเลย น้องถูกทุกอย่าง แล้วน้องซวยไปด้วยเพราะว่าเราโดนหมายจับเลยกลับเมืองไทยไม่ได้ ยอมรับว่าน้องดีกับเราทั้งหมดตามที่น้องพูดจริงๆ แล้วเราก็รักน้องจริงๆ แล้วที่จะกลับไปเพราะน้องนะ”

“อย่างที่น้องบอกว่าให้เรากลับมาเลย เราก็แค่กลับมาสู้ เราก็ได้บอกน้องไปว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น อันนี้คือคุยกันเมื่อวันก่อน(3พ.พ.) ถ้าเรากลับไปก็โดนจับแล้วใครจะมาประกันตัว รู้ไหมว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่ บัญชีเราบัญชีแม่ก็ถูกอายัด แล้วเราไม่ได้หิ้วเงินมาต่างประเทศตามที่พวกนั้นโกหกลงข่าว ไปตรวจสอบเส้นทางการเงินซะ ใครที่บอกว่าเราขนเงินมา 500 ล้าน นั่นน่ะโกหกทั้งหมด มันแค่ 200 ล้านเท่านั้น ทำไมต้องแต่งเรื่องให้ยิ่งใหญ่

“สำหรับลิลลี่มันใช้คำว่าคืนเงินไม่ได้ มันต้องทยอย เพราะมันคือการทำธุรกิจ มันไม่ใช่ว่าฉันจนจังเลย ฉันยืมเงินเธอเพราะฉันไม่มีเงินกิน มันเป็นการกู้ยืมเงิน น้องรู้อยู่แล้วบอกว่าจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเรา น้องไม่ยุ่ง แต่ขอเงินปันผลเท่านี้ นี่คือที่เคยคุยกัน แล้วก็ขอเซ็นสัญญาเป็นกู้ยืมเงินกัน”

ไม่โกรธที่ลิลลี่ให้สัมภาษณ์ “น้องไม่ผิด ที่น้องให้สัมภาษณ์น้องถูกหมด แต่มันคือการทำธุรกิจ แล้วจริงๆ คุยกับน้องตลอด ขอดูไลน์ที่คุยกันกับน้องก็ได้ แล้วถ้าเราจะเป็นคนเลวหรือโกงใคร เราจะโทรหาเขาทำไม แต่นี่คือเราติดต่อไปหาน้องเอง จริงๆ ไม่มีใครหาเราเจอ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ประเทศไหน ตอนนี้รอให้ข่าวเงียบและรอให้ทนายจัดการทุกอย่างคลี่คลายก่อนเพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าใครดีหรือไม่ดีกับเรายังไง”

ทนายให้คำแนะนำ “ทนายพูดว่าทุกคนต้องไปถอนแจ้งความให้เหลือ 9 คน เพื่อให้เป็นคดีฉ้อโกงปกติ ไม่ใช่ฉ้อโกงประชาชน ถ้าเป็นฉ้อโกงประชาชน แล้วเราต้องถูกรวบมันไม่ใช่เรื่อง มันเยอะแยะเกินไปกับความหวังดีที่เราจะกลับไปช่วยทุกคน เราทำเงินให้ทุกคนมาบางคน 10 ปี 5 ปี ไม่เห็นถึงความดีที่เราทำงานทำเงินงกๆๆ ให้ทุกคนบ้างเหรอ แล้ววันนี้เราจะกลับไปดูแลทุกคนเหมือนเดิม เจตนาของเราดีอ่ะ แล้วจะให้เราไปสู้กับทุกคนทำไม เราเหนื่อย”

“ใจเราอยากกลับเมืองไทยพรุ่งนี้มะรืนนี้เลย ไม่ได้อยากกลับเพื่อตัวเองเพราะชีวิตเราไม่ต้องกลับเมืองไทยก็ได้ แม่เราน้องสาวเราก็อยู่เมืองนอกกันหมด แต่ที่อยากกลับเพราะอยากไปช่วยทุกคน ตอนนี้ถึงได้บอกว่ามันไม่ใช่ว่าเราต้องขอร้องทุกคน แต่ทุกคนต้องร่วมมือกับเราเพราะเจตนาเราดี”

“บางคนถามอีกว่าถ้าเกิดเขาถอนแจ้งความแล้วเราไม่กลับล่ะ ถามหน่อยว่าใช้อะไรคิดกัน ที่ให้ถอนเพราะเราจะกลับเพราะถ้าจะไม่กลับเราจะไม่โทรหาทุกคนให้เมื่อยปากเลย แล้วก็จะไม่สนใจเรื่องหมายจับอะไรทั้งนั้น การถามกลับมาแบบนี้มันคือการไม่ไว้ใจกัน”

สู้ชีวิตมาตลอด-สุ่มฟ้องชาวเน็ต “เราก็เป็นคนที่สุดคนหนึ่ง ผ่านอะไรมาตั้งเยอะแยะ ถ้าไม่แน่จริงเราตายไปตั้งแต่คราวเก๋(เลเดอเรอร์)แล้ว ทำไมเราถึงรอดมาและมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมล่ะ แล้วครั้งนี้ถ้ากลับไปก็ต้องดีกว่าเดิม ส่วนคนที่มาวิจารณ์เราในเน็ต เราจะสุ่มฟ้องให้เป็นกรณีศึกษา ตอนนี้ไม่มีใครที่จะสามารถหนีได้เพราะเราได้ปิดคอมเมนต์ติ๊กต็อกแล้ว ปิดเพื่อไม่ให้เขาลบข้อความ จริงๆ เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องการโดนด่า แต่บางทีก็ต้องเอาบ้าง”

เชื่อมั่นทุกอย่างจบสวย “เรื่องนี้จบสวยแน่นอนเพราะว่าทุกคนต้องการตัวเรา เลยพูดกับทุกคนว่า ทุกคนต้องการเงิน ต้องการเรา หรือต้องการให้ติดคุก ถ้าต้องการให้ติดคุกจะได้ไม่กลับ แต่ถ้าต้องการเงินและต้องการเราจะได้กลับ ซึ่งทุกคนบอกว่าต้องการเงินและต้องการเราเพราะถ้าไม่มีเราก็ไม่เงิน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องให้ความร่วมมือ”

“อีกอย่างทนายบอกว่ายังไงเราก็ไม่ติดคุก เรามีสิทธิ์สู้ แล้วมันคือการทำธุรกิจที่จับต้องได้ มันไม่ได้แบบ Forex-3D ที่โดนจับเลย เรากล้าท้าถึงขั้นว่าไปเช็กสเตตเมนต์เลย ถ้ามีการฟอกเงินหรือขนเงินออกต่างประเทศหรือกดเงินสดออกเยอะๆ จัดการได้เลย เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ถูกหมุนเวียนในระบบทั้งหมดและโอนให้หุ้นส่วนทั้งหมด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน