อ๊อฟ อัปเดตอาการป่วยซึมเศร้า ดีขึ้นบ้าง อยู่คนเดียวมีเหงา ตอนนอนยังต้องพึ่งยา

ก่อนหน้านี้นักร้องเสียงคุณภาพ อ๊อฟ ปองศักดิ์ ได้ออกมาโพสต์คลิปแจ้งให้แฟนคลับและเพื่อนๆ ทราบว่าตนเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ถึงขั้นคิดฆ่าตัวตาย จนต้องไปพบจิตแพทย์ด่วน

ล่าสุดได้เจอ อ๊อฟ ในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “4 โพดำปะทะ 3 ดอกจิก” ที่ตึกแกรมมี่ ผู้สื่อข่าวจึงอัปเดตอาการป่วย ซึ่งนักร้องหนุ่มเผยว่า

“ตอนนี้ก็ดีขึ้น มีการปรับยาไปเรื่อยๆ คุณหมอก็นัดเช็กเรื่อยๆ ดีขึ้น แต่ก็จะมีอาการมึนงงนึดหนึ่ง เพราะว่ายามันทำให้เราง่วง มันเป็นยาระงับสารเคมีในสมอง และกดประสาททำให้ความอยากอาหารน้อยลง เราก็ต้องฝืนกิน เพราะไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีแรงในการทำงาน”

อย่างเรามีโชว์ตอนกลางคืน เราก็ต้องหยุดยาช่วงนั้นไหม? “ตอนแรกหมอให้อ๊อฟกินยาหลังอาหารเช้า ทั้งวันเราก็จะง่วงมาก ทำอะไรไม่ได้เลย อ๊อฟเลยไปคุยกับคุณหมอขอพักยาได้ไหม คุณหมอบอกว่าปรับยาได้ ให้ไปกินก่อนนอนเลย ซึ่งกว่าที่เราจะกลับถึงบ้านก็ตีหนึ่ง กินยาตอนตีสอง แล้วคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจะนอนไม่ค่อยหลับ มันจะคิดเรื่องไม่ดีต่างๆ ก็ต้องใช้ยานอนหลับ พอมีงานเช้าเราก็จะเบลอๆ นิดหนึ่ง”

ตอนนี้หายกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว? “ไม่รู้เลย เรื่องนี้ต้องถามหมอ เพราะว่าอ๊อฟเองทำตามที่หมอบอกตลอด เราก็ถามหมอนะว่ามีโอกาสหายไหม คุณหมอบอกเราก็ตรวจดูอาการไปเรื่อยๆ แล้วก็มีการปรับยา แล้วก็มีการคุยกัน ถ้าเขาเห็นว่าเราหยุดยาได้แล้ว เขาก็จะบอกให้เราหยุดยา อ๊อฟกินยามา 2 เดือนแล้ว”

ตอนนี้อยู่คนเดียวได้ไหม? “มีปัญหาในการอยู่คนเดียว เพราะเวลาอยู่คนเดียวตอนนอน เราจะรู้สึกเหงา เคว้ง ต้องมีคนอยู่ข้างๆ หรือว่าให้เราเห็นเขาอยู่ในสายตา พี่น้องคนในครอบครัวเข้าใจหมดเลย เพราะว่าวันที่อ๊อฟรู้สึกว่าไม่ไหว อยากตาย อ๊อฟวิ่งลงไปบอกพี่สาวว่าพาอ๊อฟไปหาหมอหน่อย อ๊อฟไม่ไหวแล้วอยากจะตาย เราไม่เคยเป็นอะไรแบบนี้มาก่อน เรารู้สึกเหมือนว่าเราจะเป็นบ้า”

“เหมือนว่าในตัวเรามีสองคนอยู่ในร่าง ปกติอ๊อฟเป็นคนร่าเริง พอหลังจากที่เราเจอเรื่องใหญ่มากๆ แล้วเราไม่มีเวลาที่จะรักษาใจตัวเอง ทำให้ในตัวเรามีร่างเศร้าขึ้นมา แล้วก็มีร่างสุขที่คอยเถียงกันอยู่ บังเอิญว่าวันนั้น ร่างเศร้ามันทำงานหนักมาก ร่างสุขของเรารู้สึกว่ามันเหนื่อยแล้ว เราเลยต้องวิ่งไปหาพี่สาวให้พาไปหาหมอ”

เราดึงสติตัวเองได้เร็วมากนะ? “ใช่ ตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นอะไร ร้องไห้ นอนไม่หลับ เป็นอยู่แบบนั้น ตอนนี้ดีขึ้น แต่มันก็มีเศร้า มีร้องไห้บ้าง ตอนนี้คุณหมอให้อ๊อฟลองวิธีการรักษาด้วยการทานยาไปก่อน แล้วคุณหมอรู้ว่าเราชอบอยู่ในห้องคนเดียว ทำงานเสร็จอยากจะกลับบ้าน พอไปอยู่คนเดียวมันก็มีความเศร้าอีก คุณหมอก็แนะนำให้เลี้ยงน้องหมา ซึ่งมันก็ดีขึ้น เพราะนอกจากเราได้ดูแลเขา เขาก็ยังเป็นเพื่อนเราด้วย ตอนนี้มีน้องหมา 3 ตัว ชิวาว่า 2 ตัว ดัชชุน 1 ตัว ซึ่งดัชชุนเป็นน้องหมาที่หูหนวก”

“ที่อ๊อฟรู้เพราะว่ามีคนดีเอ็มมาหา แล้วก็บอกว่าลองดูดีๆ เพราะว่าการที่ได้สีนี้ คือการเอายีนส์ด้อยกับยีนส์ด้อยมาผสมกัน มันอาจจะเกิดความพิการได้ เราก็ลองดูเพราะว่าเราพาน้องไปฉีดวัคซีนอยู่แล้ว ก็เลยให้คุณหมอเช็กระบบประสาท ปรากฏว่าน้องหูหนวกร้อยเปอร์เซ็นต์ กล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรง เราก็ได้คุยกับทางฟาร์มแล้ว ซึ่งเรายืนยันว่าเราไม่คืน อ๊อฟจะเลี้ยงเพราะเรารู้ว่าเราดูแลเขาได้ดีกว่าที่ฟาร์มเลี้ยง เราก็ไม่รู้ว่าพอเขาเอากลับไปแล้ว เขาจะดูแลยังไง หูก็ไม่ได้ยิน”

พอรู้เราโกรธไหม? “แว้บแรกอ๊อฟไม่โกรธเลย มันจะมีแว้บหนึ่งที่เขาส่งข้อความมาว่าเขาจะฟ้องคนที่เข้ามาคอมเมนต์ด่าเขา ว่าเห็นแก่ตัว หลอกขายเอาเงิน แล้วเขาก็ส่งข้อความหาเรา แว้บนั้นโกรธ เพราะรู้สึกว่าคุณทำฟาร์ม คุณต้องรู้สิว่าทำแบบนี้มันส่งผลให้น้องพิการได้นะ แต่อ๊อฟยืนยันว่าไม่คืน เพราะเรารักไปแล้ว เราดูแลเขาได้ แล้วน้องก็นอนกับอ๊อฟทุกคืน น้องขี้อ้อนมาก”

เราสื่อสารกับน้องหมายังไง เมื่อน้องไม่ได้ยิน? “เวลากลับบ้าน ตอนที่เรากดรหัสหน้าบ้าน ชิวาว่า 2 ตัวเขาก็จะมายืนรอเราหน้าประตู แต่น้องดัชชุน เขาก็อยู่ในความเงียบของเขา เราก็ต้องไปสัมผัสเขาเบาๆ เพื่อไม่ให้เขาตกใจ เขาเห็นเราเขาก็ขึ้นมานอนบนตักเลย”

ถามถึงอนาคต การที่เรารักมากๆ อนาคตถ้าเราต้องเจอเหตุการณ์สูญเสียมันไป เราเตรียมใจไว้กับตรงนั้นไหม? “เตรียมใจไว้แล้ว และเข้าใจด้วยความที่น้องมีความไม่ปกติ เราก็ต้องมอบความรักให้เขามากกว่าปกติ แล้วเราก็เจอการสูญเสียมาเยอะ เราก็อยากที่จะทำให้ดีที่สุด น้องอยู่กับเราก็ถือว่าเป็นบุญทั้งของน้องและของเราที่มีโอกาสได้เจอกัน”

ขอบคุณรูปจากไอจี : aofpongsak