"หญิงแย้" ลั่นไม่เกี่ยวโฆษณาครีมขาวเวอร์เกินจริง อ้างเจ้าของสินค้าใช้ภาพไปเติมแคปชั่นเอง

วันที่ 14 ก.พ. ที่ร้าน M Club หญิงแย้-นนทพร ธีระวัฒนสุข เน็ตไอดอลสาวชื่อดัง มาร่วมแสดงความยินดีกับหนุ่ม แทค-ภรัณยู ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย “TACK U” จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เตรียมเอาผิด หลังโพสต์ข้อความโฆษณาครีมขาวใสภายใน 3 วัน เกินจริง

โดย หญิงแย้ เผยว่า “รู้สึกเสียใจที่มันมีรูปของเรา พร้อมกับคำโฆษณาว่า ขาวใสภายใน 3 วัน โดยเป็นรูปเราถือผลิตภัณฑ์อยู่ จริงๆ แล้วยอมรับว่าเรารีวิวผลิตภัณฑ์ให้เขาจริง แต่ถ้าเข้าไปดูเนื้อหาที่แย้รีวิว คือไม่ได้มีการคอนเฟิร์มใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้มีการโฆษณาเกินจริง ไม่ได้อวดอ้างสรรพคุณ ลูกค้าได้มีการนำรูปของเราไปตัดเอาคำพูดต่างๆ คำโฆษณาต่างๆ มาใส่ ทำให้รูปนี้เป็นข่าวขึ้นมา แล้วแย้ก็ได้รับความเสียหายค่อนข้างมาก ก็โดนยกเลิกงาน และมีคนเข้ามาด่ากันเราก็เสียใจ มันไม่ใช่ความจริงค่ะ”

ได้ติดต่อไปทางลูกค้าหรือยัง
“ติดต่อไปทางลูกค้าแล้ว เขาก็ได้ตอบกลับมาว่า ใครๆ เขาก็ทำกัน เขาก็ไม่รู้ว่าทำแบบนี้ได้เหรอ (หัวเราะ) ข้อตกลงในการรีวิวของมันไม่ได้มีอะไรเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะอย่างลูกค้าคนนี้เราก็รู้จักกัน ไม่ได้นึกว่าเขาจะเอารูปเราไปใช้แบบนี้ เพราะเราเองก็ไม่ได้เห็น คือมีการแชร์กันในหมู่แม่ค้า”

เราได้รับผลเสียแบบนี้จะมีการดำเนินคดีเอาผิดไหม
“พูดถึงเรื่องดำเนินคดี เรียกว่ารวบรวมหลักฐานไว้ดีกว่า เอาไว้ถ้าวันนึงเกิดมีปัญหาจริงๆ เราก็มีหลักฐานไว้พร้อมที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ของเรา แต่คงจะไม่ได้ดำเนินคดีอะไร เพราะเราเองก็เข้าใจว่าแม่ค้าออนไลน์มีเยอะ มันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ว่า จะขายของต้องมีเงินทุน ต้องเปิดร้าน แต่ตอนนี้ใครๆ ก็เป็นแม่ค้าออรไลน์ได้ และการเป็นแม่ค้าขายของออนไลน์หลายคนอาจจะไม่ได้ไปศึกษาในเรื่องของตัวกฎหมายต่างๆ เหมือนคนยังไม่มีความรู้ ก็เลยอยากให้เรื่องของแย้เป็นกรณีศึกษาไปว่า แม่ค้าไม่สามารถทำรูปดาราไปใช้ในการโฆษณาอะไรที่มันเกินข้อจำกัดที่ตกลงกันไว้ครั้งแรกได้ ไม่สามารถทำได้นะคะ ก็จะส่งผลเสีย”

เจ้าของสินค้าได้มาแสดงความรับผิดชอบอะไรบ้าง
“ก็ขอโทษอย่างเดียวค่ะ ถ้าทาง อย.เรียกเข้าไปสอบเดี๋ยวแย้ก็จะเตรียมหลักฐานตรงนี้ไปให้ อย. ว่ามันไม่ใช่แย้ที่เขียนคำโฆษณาเกินจริง แต่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์นะที่เป็นคนทำ ก็ให้เขารับผิดชอบในส่วนนั้นไป จริงๆ แย้รีวิวสินค้าจะลองใช้เองทุกตัว ถ้าไปดูรีวิวแย้จะไม่เคยบอกเลยว่า ขาวใสภายใน 3 วัน ไม่เคยพูดอยู่แล้ว เราก็รู้เรื่องกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคอยู่นะคะ ก็เพลย์เซฟตัวเองด้วย เพลย์เซฟทางผลิตภัณฑ์ด้วย แต่หลังจากที่เรารีวิวไปแล้วเขาก็จะเอาภาพของเราไปโฆษณาเกินจริง จะเป็นอย่างนี้ซะส่วนใหญ่”

เขามีการเขียนสคริปอะไรมาให้เราพูดไหม
“เขาไม่ได้เขีนสคริปมาให้เราพูด เขาก็ส่งบรีฟมาว่าขาวจริงภายในเท่านี้ แต่เราก็จะเอาออก เพราเราก็ต้องเซฟตัวเองป่ะ เพราะเราก็จะโดนผู้คุ้มครองผู้บริโภคฟ้อง แย้ก็ศึกษากฎหมายเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคมา เป็นอะไรที่เราต้องรู้อยู่แล้ว แต่ก็จะมีแม่ค้าหลายคน หรือจะเป็นตัวแทนจำหน่ายตัวเล็ก ตัวน้อย อาจจะยังไม่เคยศึกษาว่าพูดไม่ได้นะจ๊ะ ไม่ใช่เฉพาะในทีวีที่ห้ามพูด รวมไปถึงออนไลน์ก็เช่นกัน มันเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ของสังคมไทยค่ะ”

ทางเจ้าหน้าที่ อย. ได้ติดต่อมาหาเราหรือยัง
“ไม่มีเลยค่ะ แต่ถ้ามีติดต่อมาเราก็พร้อมจะไปยืนยันความบริสุทธิ์อยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ถามว่าเข็ดมั้ย อย่าเรียกว่าเข็ดเลย เรายังไม่ได้ทำความผิดอะไร นี่เป็นครั้งแรกที่รีวิวแล้วโดนแบบนี้ แต่เรื่องของเรื่องคือเป็นความเข้าใจผิดมากกว่า ที่เอารูปแย้ที่ถือผลิตภัณฑ์เฉยๆ แล้วแย้ก็บอกปริมาณและราคา ในแคปชั่นรูปนั้น ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ หรือใครสักคนเอารูปแย้ไปใส่คำโฆษณาเกินจริงต่างๆ และมาบอกว่าหญิงแย้คอนเฟิร์ม”

เราเป็นเจ้าแม่รีวิวต้องมีกฎกติกาอะไรบ้าง
“อย่างแรกเราต้องใช้ผลิตภัณฑ์นั้นก่อน ต้องพูดไปตามความจริง ถ้าสมมติว่าผลิตภัณฑ์มันไม่โอเคจริงๆ สำหรับเราก็รีวิวไม่ได้ เราก็ไม่รับรีวิว คนที่รับรีวิวก็ต้องเห็นทั้งเงินและคุณภาพ เราก็เป็นคนต้องทำมาหากิน หลังจากนี้น่าจะต้องมีกฎข้อบังคับเป็นลายลักษณ์อักษรมากขึ้น ระหว่างเรากับเจ้าของผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงตัวแทนด้วย เพราะบางทีเจ้าของผลิตภัณฑ์บอกไม่รู้ ตัวแทนเอาไปทำแล้วตัวแทนมีเป็นร้อยเป็นพันคนควบคุมยาก แย้คิดว่าอยากให้เรื่องที่แย้ประสบเป็นบทเรียน เป็นสิ่งที่จะสอนให้กับทุกคนได้รู้ว่า ถึงแม้คุณจะเป็นตัวแทน แค่ในเน็ตหรือตามร้านเล็กๆ คุณก็ไม่สามารถเขียนโฆษณาเกินจริงได้ อยากให้ตัวแทนจำหน่าย ลูกทีมเชื่อแม่ทีมนิดนึง ว่าดาราคนนี้ไม่สามารถจะเอารูปไปใช้ต่อได้ ไม่งั้นแม่ทีมก็อาจจะซวยโดนฟ้องได้”

เราซีเรียสไหมที่เขาเอารูปเอาไปใช้
“ก็ไม่ควรทำ มันเป็นมารยาทอันนี้พูดกันตรงๆ เราเองก็ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องฟ้องร้อง เสียเวลาหาทนายความอีก ก็อยากให้จบด้วยดี และมองว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญมากกว่าค่ะ ต้องบอกว่าแย้ไม่ได้ทำอะไรผิด เหมือนแย้กลายเป็นโจทย์ของสังคม อยากให้เป็นกรณีศึกษากับทุกคน เราไม่สามารถเอารูปดาราไปตัดต่อคอนเฟิร์มขาวใสจริง เพราะคนที่ซวยสุดคือดาราเลยนะ เพราะอยู่ท่ามกลางสปอร์ตไลท์ ใครๆ ก็อยากจะด่า(หัวเราะ)”