‘แซน’ ยันลุยฟ้อง แม่แตงโม หมิ่นประมาท ลั่นทำเกินไป ไม่คุยด้วยแล้ว ให้ไปคุยกับทนาย เผยไม่เคยโกรธ นับถือเหมือนเดิม

วันที่ 13 มี.ค. 2566 ที่ชั้น 5 ตึก B อาร์เอส กรุ๊ป ถนนประเสริฐมนูกิจ แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หนึ่งในจำเลยคดีการเสียชีวิตของดารานักแสดงสาว แตงโม ภัทรธิดา พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัว ให้สัมภาษณ์ระหว่างมาร่วมรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ช่อง 8 เปิดใจครั้งแรกหลังเดินหน้าฟ้อง นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน คุณแม่ของแตงโม

ทนายพรศักดิ์ กล่าวว่า “จริงๆ เรื่องราวไม่มีอะไร เพียงแต่แซนรู้สึกว่าเรื่องที่สื่อสารออกไป มันแรงเกินไปกว่าที่แซนจะรับได้ เพราะเป็นเรื่องของการละเมิดศาล ไปข่มขู่พยานหรืออะไรต่างๆ ก็เลยเป็นเหตุผลที่ต้องยื่นฟ้องครับ”เหตุที่ตัดสินใจว่าต้องดำเนินการฟ้องคุณแม่คือจุดตรงไหน?

แซน : “ตรงที่คุณแม่แจกหลักฐานเท็จอยู่หน้าศาลค่ะ อันนั้นคือไม่ไหวแล้ว เกินไปแล้วค่ะ ถามว่าก่อนที่จะฟ้องได้พูดคุยกับคุณแม่ก่อนไหม แซนว่าแซนไม่มีอะไรจะคุยกับคุณแม่แล้วล่ะค่ะ”

หลักฐานเท็จที่ว่าพอจะเปิดเผยได้ไหมว่าคืออะไร?
ทนาย : “คือระบุชัดเจนเลยว่าแซนข่มขู่พนักงานอัยการ ยุ่งกับพยานหลักฐาน และละเมิดอำนาจศาล คือชัดเลย ระบุเลยครับ รวมทั้งกระติกกับพวกครับ จริงๆ เราทราบหลังจากสื่ออ่านด้วยซ้ำ เพราะวันที่คุณแม่แจกเอกสารคือผมกับคุณแซนอยู่ในห้องพิจารณาคดี เรามาทราบจากสื่อภายหลังก็เลยลองตามดูว่าเกิดอะไรขึ้น จึงทราบว่ามีการแจกเอกสาร”

“ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่เรายื่นฟ้องต่อศาลไป ศาลท่านรับคดีไว้ครับ อยู่ระหว่างการส่งหมายไป ศาลท่านนัดไต่สวนมูลฟ้อง 22 พ.ค. เวลา 13.30 น. ครับ”

สรุปคดีที่จะฟ้องกลับแม่มีอะไรบ้าง?
ทนาย : “คือคุณแม่เขาเคยทำหนังสือมอบอำนาจให้ประธานชมรมไปทำการยื่นฟ้องคดีคนบนเรือเรื่องฆาตกรรม อันนั้นแหละครับที่คุณแซนบอกจะเรียก 40.8 ล้านบาท แต่ที่เราเพิ่งฟ้องไปเป็นเรื่องการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เป็นเรื่องเอกสารที่คุณแม่แจกครับ แต่แซนไม่ได้เรียกค่าเสียหาย เป็นคดีอาญาอย่างเดียว”

เหตุผลที่ไม่เรียกคดีทางแพ่ง แต่ไปอาญาเลย?
แซน
: “แซนแค่อยากให้คุณแม่รู้สึกว่าสิ่งที่คุณแม่ทำไปมันไม่ถูกต้อง มันเกินไปเยอะเลยค่ะ แค่นั้นเลยค่ะ เอาจริงๆ ล่าสุดที่ได้คุยกับคุณแม่คือตอนช่วงปีใหม่ก็มีชวนไปร้องเพลง แล้วไม่ได้คุยเลยค่ะ ส่วนความรู้สึกที่มีต่อคุณแม่ตอนนี้ รู้สึกว่าเขาก็เป็นคุณแม่โมเหมือนเดิมค่ะ”หลังจากนี้คุณแม่จะประสานมาพูดคุยจะทันไหม?

แซน : “แซนว่าคุยกับพี่ตุ๋ย(ทนาย) แทนได้มั้ยคะ ตอนนี้ไม่สะดวกใจคุยกับแม่แล้วค่ะ ส่วนว่าจะมีโอกาสยอมความกันไหม ขอให้เป็นเรื่องของอนาคตแล้วกันนะคะ”

ทนาย : “ดูเจตนาหลายๆ อย่างกับสิ่งที่เสนอพฤติการการกระทำ อีกทั้งคดีเดิมที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เราต้องดูหลายๆ อย่าง เพื่อประกอบกันครับ ถ้าเงื่อนไขดี คุณแม่เข้าใจ แล้วเราค่อยมาพิจารณาเรื่องเงื่อนไขครับ”

หนักใจไหมที่คุณแม่เข้ามามีส่วนร่วม?
ทนาย : “ผมจะใช้สิทธิในการคัดค้านเต็มที่ในทุกทางที่คุณแม่ยื่นเข้ามา เนื่องจากคุณแม่ใช้สิทธิตามอำเภอใจเกินไป กฎหมายเขาคุ้มครองทุกคน รวมทั้งจำเลยหรือผู้ต้องหาในคดีด้วย และเหมือนที่น้องแซนเคยพูดว่าความยุติธรรมมีไว้สำหรับทุกคนครับ”

คุณแม่มีสิทธิเข้าไปมีส่วนร่วมได้ใช่ไหม?
ทนาย : “ถูกต้องครับ แต่คุณแม่เป็นโจทก์ร่วมในคดีเดิมไว้แล้วนี่ครับ จะมายื่นใหม่ก็ยังมีสิทธิอยู่ครับ เพียงแต่ที่เรียนว่าเมื่อคุณแม่ใช้สิทธิ ตัวจำเลยเองก็มีสิทธิที่จะโต้แย้งตามกระบวนการ ทุกคนก็ใช้สิทธิไปตามกระบวนการเลย และให้ศาลท่านพิจารณาครับ”

ได้คุยกับ ปอ-โรเบิร์ต บ้างไหม ว่าถึงแม้เขาจะรับสารภาพข้อกล่าวหา ในอนาคตจะเขาจะรอดไหมเพราะคุณแม่ก็มีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาเหมือนกัน?
ทนาย : “ถ้าศาลท่านตัดสินรอลงอาญา คุณแม่ยังใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ในคดีอาญาได้นะครับสำหรับคุณปอและคุณโรเบิร์ต อันนี้คือสิทธิตามกฎหมายเลย ยังใช้สิทธิได้อยู่ ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่จะดำเนินการหรือเปล่าในสิทธิทางอาญา”

“ส่วนทางแพ่งตามที่เป็นข่าว เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความไปแล้ว มันจะต้องยุติตามนั้น แต่คุณแม่อาจจะโต้แย้ง ก็เป็นเรื่องที่คุณแม่จะใช้สิทธิ ส่วนตัวผมมองว่าไม่ได้แล้วครับ ไม่น่าเรียกเพิ่มได้ครับ”แซนได้คุยกับ ปอร์-โรเบิร์ต บ้างไหม เพราะเหมือนเราก็ตกใจเหมือนกันที่วันนั้นเขาตัดสินใจแบบนั้น?

แซน : “ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ถามว่าตอนนี้เราเครียดหรือกดดันไหม ไม่เลยค่ะ แต่แค่เหนื่อยกับการไปศาล”

ตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เรารู้สึกยังไงที่ต้องอยู่บนหน้าข่าวและโดนสังคมชี้ว่าทำผิด?
แซน : “แซนคิดว่ามันไม่ค่อยยุติธรรมเลยนะคะ กับการตัดสินใจจากการที่ดูสื่อและฟังสื่อ และสรุปตัดสินโดยไม่รอผลจากศาล แล้วมาต่อว่าแซนด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หลายอย่างมากค่ะ แซนก็รู้สึกไม่ดีนะคะ แต่หลังๆ เริ่มที่จะเรียนรู้ที่จะอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ พวกนั้นได้”

ส่งผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราไหม?
แซน : “ไม่นะคะ ไม่ค่อยได้ให้ค่ากับความเห็นหยาบๆ พวกนั้น (คิดไหมว่าทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้?) ไม่ค่ะ เพราะว่าเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เราต้องแก้ไขไปตามขั้นตอนค่ะ”

ที่ผ่านมาเหมือนเราไฟต์อยู่คนเดียว แต่คนอื่นดูจะไม่ค่อยทำอะไรมาก?
แซน : “อันนี้แซนก็ไม่ทราบว่าทำไมนะคะ แต่แซนเป็นคนเก็บอะไรไม่ค่อยอยู่ ถ้าเราไม่ผิด ถ้าเรารู้สึกว่าไม่โอเคกับความเห็นเรื่องนั้น เราต้องออกมาบอกจากมุมเราบ้าง แต่ได้คุยกับพี่กระติกตลอดค่ะ”

กระติกเขามีความกังวลกับที่คุณแม่บอกว่ามีคลิปหน้ารถบ้างไหม?
แซน : “เรื่องนี้ไม่มีใครกังวลเลยค่ะ (แสดงว่าหลักฐานชิ้นนี้อยู่ในสำนวนตั้งแต่แรก เพียงแต่มีหลักฐานใหม่เข้ามา?) อันนี้แซนไม่ทราบว่าคุณแม่มีหลักฐานอะไรด้วยซ้ำนะคะ ไปงัดมาจากไหนอีก”เรื่องคลิปหน้ารถเป็นหลักฐานที่มีอยู่แล้ว เราทราบไหมว่าเป็นหลักฐานลักษณะแบบไหน?
แซน : “แซนไม่ทราบรายละเอียดเชิงลึกค่ะ แต่เรารู้ความจริงว่าคืออะไร เราเลยไม่ได้กังวล”

ทนาย : “คลิปนี้มีอยู่ในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้วครับตั้งแต่แรก เนื่องจากว่าทนายทุกคนไปคัดถ่ายเอกสารในสำนวนคดีเดิมไว้ รวมทั้งคลิปนี้ด้วย เราต้องมานั่งไล่ดู เพราะมีเอกสารจำนวนมากครับ เยอะพอสมควร ต้องเรียนว่ามีอยู่แล้ว แต่ส่วนที่ถามว่ามีใหม่นอกเหนือจากสำนวนหรือเปล่า ต้องมาดูกันว่าแตกต่างไหม แต่ถ้าเป็นตัวเดิมก็คืออยู่ในสำนวน”

คิดว่าทำไมเขาถึงเอาหลักฐานชิ้นนี้ออกมาบอกว่าเป็นหลักฐานใหม่ ในเมื่อมีอยู่แล้วตั้งแต่แรก? ทนาย : “ผมว่าคุณแม่คงใช้สิทธิให้เต็มที่ที่คุณแแม่ต้องการครับ เชื่อว่าอย่างนั้นครับ”

ทางทนายก็ไม่ได้กังวลใช่ไหม?
ทนาย : “ไม่ได้กังวลครับ ทำหน้าที่ปกติทุกอย่างเลยครับ คุณแม่ยื่นอะไรมา ผมก็ค้านไปตามกระบวนการหรือสิทธิของจำเลยที่มีในศาลครับ”

แซน : “แต่แซนเป็นห่วงคุณแม่มากกว่านะคะ ที่ออกมายื่นหลักฐานไม่จบไม่สิ้นแบบนี้ เป็นห่วงว่าเดี๋ยวคุณแม่จะต้องไปนั่งอธิบายในรายการเท็จทอล์กหรือเปล่า”

ถ้าอนาคตคุณแม่จะมาขอไกล่เกลี่ยจะมีโอกาสไหม เพราะคุณแม่พูดตลอดว่าเราเป็นลูกรัก เขาบอกว่าแซนสวย?
แซน : “ขอบคุณค่ะคุณแม่(หัวเราะ) คุณแม่สวยกว่าค่ะ แต่ถามว่าจะมีโอกาสไกล่เกลี่ยไหม ให้คุยกับพี่ตุ๋ยเลยค่ะ แซนไม่คุยกับคุณแม่แล้วค่ะ แซนไม่ค่อยสบายใจค่ะ เกรงใจคุณแม่ด้วย กลัวคุณแม่ลำบาก”

ทนาย : “จริงๆ สามารถไกล่เกลี่ยได้ครับ เพราะที่เราฟ้องคุณแม่ไปเป็นเรื่องยอมความได้ สามารถไกล่เกลี่ยได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับคดีการแจ้งความกับพนักงานสอบสวน จะแตกต่างกันครับ”

มองเรื่องไกล่เกลี่ยยังไง?
แซน : “แซนไม่เคยโกรธคุณแม่อยู่แล้วนะคะ แต่เรื่องนี้แซนคิดว่ามันเกินไป เลยอยากให้คุณแม่รู้ว่ามันเกินไปจริงๆ แค่นั้นเองค่ะ แซนไม่เคยโกรธ ไม่เคยรู้สึกอะไรไม่ดีกับท่าน ยังนับถือคุณแม่เหมือนเดิมค่ะ แต่จากนี้ให้ทางทนายจัดการดีกว่าค่ะ”

“วันนี้ในรายการจะพูดทุกอย่างชัดเจนนะคะ แต่ขอให้เชื่อกันด้วยนะคะ เพราะว่าแซนไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกค่ะ แต่ถ้าใครยังไม่เชื่อก็ไม่ต้องออกความเห็นในพื้นที่ส่วนตัวแซนนะคะ เพราะรู้สึกว่าทำไมรู้ดีกว่าเราล่ะ อยู่บนเรือเหรอ แล้วเราจะโกหกทำไม เขาควรจะต้องคิดถึงตรรกะและเหตุผล หลักความเป็นจริงก่อนเลย พื้นฐานง่ายๆ ว่าแซนจะโกหกทำไม โกหกแล้วได้อะไรแค่นั้นเลยค่ะ”

นอกจากจะฟ้องคุณแม่แล้ว ถ้าคดีเสร็จสิ้น เราจะฟ้องชาวเน็ตไหม?
แซน : “เหนื่อยกับการขึ้นศาลแล้วค่ะ พอแล้ว (หัวเราะ)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน