น้อย วงพรู เผยเหตุผลไม่รับเล่นซีรีส์-ละคร ทั้งที่ใจรักการแสดง

โชว์ฝีไม้ลายมือด้านการแสดงมาหลายเรื่องแล้ว สำหรับนักร้องชื่อดัง น้อย วงพรู แต่ทั้งหมดจะเป็นศาสตร์ทางภาพยนตร์ทั้งหมด ล่าสุด น้อย วงพรู มาร่วมงานรอบสื่อภาพยนตร์ แสงกระสือ2 ที่ สยามพารากอน ซึ่งเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเจ้าตัว พร้อมเปิดใจว่าทำไมถึงไม่เห็น น้อย วงพรู ในบทบาทการแสดงซีรีส์และละครเลย ทั้งที่เจ้าตัวชอบการแสดงมากๆ

ตื่นเต้นไหม ในที่สุดก็จะได้ชมกันแล้วกับ ภาพยนตร์ แสงกระสือ2?
“ถ่ายทำมาประมาณเกือบ2ปี สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นแล้ว สำหรับน้อยก็ไม่ได้เล่นหนังมาประมาณ7-8ปีแล้ว ก็ตื่นเต้นนิดหน่อย”

เห็นว่าบทบาทที่ได้รับ ถ่ายทอดออกมาจากความรู้สึกได้เต็มที่ เพราะว่าเป็นความรักระหว่างพ่อลูก ซึ่งตรงกับชีวิตจริงที่เราก็มีลูก?
“มันก็เป็นบทพ่อแบกทุกข์มาเยอะ มันไม่เหมือนหนังที่ผ่านมาของน้อย ที่มีการตะโกน อันนี้มันจะเก็บไว้ข้างในมากกว่า คือมันท้าทายตรงที่เวลาปกติที่น้อยเล่นหนังทั่วไปน่าจะเป็นคนที่โดดเดี่ยว บทที่คนจำน้อยได้ ไม่ว่าจะเป็น 13 เกมสยอง อันธพาน หรือขุนพันธ์ จะเป็นคาแรกเตอร์ที่มันไม่ต้องคุยกับใครมากมายแต่ว่าเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะคุยกับลูกสาวในเรื่องค่อนข้างเยอะ มันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ ซึ่งในเรื่องร้องไห้ตะโกนมันไม่ยากมันง่าย แต่เรื่องที่จะต้องคุยกับคนมีความสัมพันธ์กับคนนั้นน่ะมันยากมันท้าทายในจุดนี้”

คาดหวังกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง?
“ก็คือหนังกระสือมันมีมา 60 70 ปีแล้ว แล้วเราเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด เราก็หวังว่าเราทำมันออกมาได้ดี คาดหวังมันก็เป็นธรรมชาติเราก็อยากให้คนดูเยอะอยู่แล้ว ถ้าเกิดเป็นผู้กำกับเขาคงจะเครียดมากกว่าน้อย ถ้าผมพูดเองผมก็ขอให้ไม่ขาดทุนขอให้ทำเงินได้เพราะว่าผมรู้ว่าการลงทุนทำหนังมันไม่ง่ายเหมือนยาก ลงทุนหลายล้านบาทครับ แต่ว่าสุดท้ายแล้ว ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าหนังมันดีจริงที่จะให้คนมาดู”

นอกจากเรื่องแสงกระสือ2 จะมีอะไรให้เราติดตามผมงานของพี่น้อยบ้าง?
“เดี๋ยวปลายปีจะมีเรื่องนึงเป็นภาพยนตร์เหมือนกันแล้วก็จะกลับมากับวงพรูด้วยน่าจะเพลงนึง แต่ก็ไม่แน่ว่าเป็นปีนี้หรือเปล่าต้องรอดูอีกทีแต่กำลังซ้อมกับวงพรูอยู่”

ในเรื่องของการแสดงเราเน้นภาพยนตร์อย่างเดียวเลยใช่ไหมไม่สนใจที่จะมาเล่นละครซีรีส์เหรอ?
“ก็ไม่เสมอไปครับ แต่ว่าน้อยก็ไม่เคยเล่นละครหรือว่าซีรีส์มาก่อน และปัญหาคือเวลาเล่นละครหรือซีรีส์มันต้องหาเวลาเยอะมากแล้วนอนไม่มีเวลาจริงๆ เพราะว่าน้อยมีธุรกิจกับครอบครัว น้อยสารภาพจริงๆว่าบทมันเยอะมากและภาษาน้อยอ่ะมันไม่สามารถจำบทได้ในเวลาจำกัดนะครับ น้อยต้องขอบทมาแล้วก็ซึมซับมัน น้อยจะได้รีแล็กซ์และเล่นได้เต็มที่ ดูประวัติน้อยก็คือเล่นหนังมาก็ไม่เยอะครับ แต่ก็สนใจอยากเล่นนะสำหรับซีรี่ย์ละครถ้าเกิดมีบทที่น่าสนใจ








Advertisement

ก็เราเป็นนักแสดงมันไม่เหมือนกับนักร้อง นักร้องเราก็ยังร้องเองได้เขียนเองได้แต่เป็นนักแสดงมันจะต้องรอให้คนมาชวนรอให้บทมาหาเรา แล้วบางทีมันอาจจะไม่มาก็ได้ แล้วบางทีบทมันใช่จะเป็นซีรีสืละครหรือหนังเราก็ลุยเลย ที่ผ่านมาก็มีหมดเข้ามาแต่อาจจะยังไม่โดนหัวใจเรา คือน้อยไม่ได้แคร์ว่าจะเป็นบทเล็กหรือบทใหญ่ แต่น้อยจะดูว่าน้อยสามารถเพิ่มอะไรให้กลับหนังเรื่องนี้ได้หรือเปล่าครับ

พูดจริงๆเลยทุกอย่างในชีวิตมันก็ขึ้นอยู่กับไทม์มิ่ง บางทีปีนี้เราก็อยากแสดง บางปีก็มีปัญหาส่วนตัวหรือเราอาจจะไปโฟกัสเรื่องเพลง อย่างเรื่องนี้ก็ไม่ได้แสดงมา7ปีก็เลยบอกว่า “ไอ้น้อยกูอยากแสดงว่ะ” คิดถึงและอีกอย่างตัวบทมีความหมายของมันด้วยก็เลยลุย แต่อย่าเข้าใจผิดนะน้อยก็อยากแสดงอย่าพึ่งลืมน้อย ก็ยังอยากแสดงไปเรื่อยๆ มันเป็นฟรีดอมของน้อยที่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ เพราะถ้าเราไม่มีฟรีดอมเราก็จะไม่มีชีวิต”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน