ณเดชน์ สุดภูมิใจซิกซ์แพ็กเป็นไวรัล เล่าเบื้องหลังสุดทรมาน-แง้มความสัมพันธ์ เจมส์-พาย

หลังจากหย่อนภาพฮือฮาโชว์ ซิกซ์แพ็กแน่นอวดให้ได้เห็นกันไปแล้วก่อนหน้านี้ ล่าสุด พระเอกหนุ่ม ณเดชน์ คูกิมิยะ มาเปิดตัวเป็น พรีเซ็นเตอร์ โบต้า-พี โปรตีน โปรตีนนวัตกรรมใหม่ ในรูปแบบแคปซูลจากธัญพืช 100% เจ้าแรกในประเทศไทย ในงานแถลงข่าว NADECH X BOTA-P PROTEIN GRAND OPENING ณ สยามพารากอน พร้อมทั้งเปิดใจเบื้องหลังกว่าจะได้หุ่นนี้ผ่านการทรมานมาหลายอย่าง และเล่าโมเมนต์สุดอบอุ่น ที่ควงหวานใจ ญาญ่า ไปเที่ยวเกาหลี พร้อมคู่ เจมส์ มาร์ และ พาย รินรดา


หลายคนฮือฮากับหุ่น?
“ใช้เวลาในการเตรียมร่างกายทั้งทรมาน ท้อ นอนไม่หลับ หิวข้าว ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้เราอินเชฟได้เร็วที่สุดดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ในตอนนั้น ผลลัพธ์ออกมาก็ภูมิใจในตัวเองครับ พูดตรงๆ ก็ดีใจมาก ก็อายุ 30-31แล้ว ได้ขนาดนี้ก็ดีใจ ถ้ามันอายุ 23-25 อายุขนาดนั้นผมก็คงจะรู้สึกง่ายกว่านี้ แต่พออายุเยอะมาแล้วมันอยากจะหาเตียงมากกว่า ตื่นเช้าก็ไม่เหมือนแต่ก่อน ตีห้าลุกขึ้นมาวิ่งออกกำลังกายทุกวันก็ไม่ไหว”

พอลงรูปไปคนเข้ามาแซวเยอะ เขินไหม?
“จริงๆ ผมก็ได้เสียงตอบรับที่เข้ามาถามว่า ทำยังไงถึงทำได้แบบนี้อยากทำได้บ้าง หรือว่ามีสูตรยังไง คุมอาหารยังไง ผมว่าคนที่กำลังเมนเทนเรื่องบอดี้กับอาหารอยู่จะเข้าใจหัวอกเดียวกันบางทีที่ผมเห็นไอดอลหรือความเห็นใครให้เป็นแบบอย่างผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาทำยังไง ผมก็รู้สึกดีใจที่ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่เป็นแรงกระตุ้นให้กับคนอื่นที่อยากจะลองอินเชฟอยากลองคุมอาหารบ้าง เผื่อจะต้อนรับซัมเมอร์”

คนติดภาพเรามีซิกซ์แพ็กแล้วเราจะยังรักษาให้มันคงอยู่แบบนี้ตลอดไหม?
“จริงๆ มันก็อยู่กับเรามาประมาณนึง แต่ถามว่าให้มันแห้ง ลีนขนาดนี้ก็ต้องใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นเหมือนกัน มันก็คือผลลัพธ์ของความอดทนความพยายาม”


ต้องใช้ความพยายามแค่ไหน?
“คือจริงๆ การถ่ายแบบผมต้องตัดน้ำก่อนประมาณ 20 ชั่วโมง จริงๆ อ่ะไม่ใช่ทุกคนที่จะตัดน้ำ แต่ว่าสำหรับนายแบบหรือว่าคนที่จะถ่ายเป็นบอดี้ส่วนใหญ่เขาว่าจะมีการตัดน้ำออกจากร่างกาย มีการกินหน่อไม้ฝรั่งเพื่อขับปัสสาวะออกหรือไม่ว่าจะเป็นการกินทุกอย่างให้มันอยู่ในรูปแบบของการต้ม ไข่ต้มใส่เกลือได้เล็กน้อย จะมากินอาหารตามสั่งหรืออาหารที่คุณแม่ทำให้ไม่ได้ มันก็จะมีความทรมานปากทรมานใจทรมานกาย อยู่ตลอดเวลา แต่สุดท้ายผลลัพธ์นั้นก็เป็นอย่างที่เห็น ถามว่าทรมานขนาดไหนคือหลังจากที่ผมถ่ายเสร็จปุ๊บผมซัดทุกอย่างเข้าท้องหมดเลย จากน้ำหนักลงไปก็เด้งขึ้นมาก็โยโย่เป็นปกติ”

ถ่ายเสร็จส่งให้ญาญ่าดูไหม?
“ก็ส่งให้ดู ก็บอกว่าเออ เนี่ยกำลังถ่ายแล้วนะ เขาก็เป็นห่วงครับ เพราะว่ากลัวจะเป็นอะไรไปเพราะตัดน้ำด้วย”

จากที่เราเล่าดูใช้พลังมาก?
“ค่อนข้างจริงจัง เพราะว่ามันมาในช่วงเวลาที่แสนสั้นด้วย เพราะว่าผมเพิ่งกลับจากเกาหลีมา ตอนไปเที่ยวก็กินทุกอย่างปิ้งย่างเข้ามาหมดเลย ก็ต้องพยายามทำให้ร่างกายพร้อมที่สุด (ญาญ่าว่ายังไง?) เขาก็บอกเยี่ยม (ยกนิ้วโป้งให้)”

ล่าสุดเขาไฟเขียวบอกแบ่งปันกันได้?
“ก็ภาพมันออกมาแล้ว (หัวเราะ) จริงๆ เขาก็ไม่ได้ค่อยชอบเท่าไหร่ครับก็ลงได้ประมาณนึงครับ โป๊ไปเขาก็ไม่ค่อยอยากจะให้ได้เห็นเท่าไหร่ รูปมากกว่านี้มันจะเป็นยังไงเหรอครับ (หัวเราะ) กางเกงในตัวเดียว ใส่ชุดว่ายน้ำอย่างนี้เหรอ (หัวเราะ)”


ถ้าซัมเมอร์มีคนติดต่อมาคิดจะรับไหม?
“ไม่เอา ผมไม่กล้าถ่ายชุดว่ายน้ำ ผมว่าคงมีคนอยากถ่ายเยอะแต่ว่าผมไม่เอาดีกว่า ซัมเมอร์อ่ะไม่เอาแน่นอนครับ ไม่ไหวละ ตอนนี้กลับมากินแล้ว คือเมื่อวันก่อนผมก็ซัดทุเรียนไปสองพลู ”

ไหนๆ แล้วก็ทำ Photobook เก็บไว้เลย?
“เดี๋ยวน่าจะมีบน Billboard ผมก็ไม่ต้องทำ Photobook แล้ว”

แล้วแม่ว่ายังไงบ้างที่เห็นเราไม่กินอาหารที่เขาทำ?
“แม่ก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกครับ ต้องอดอาหารแม่ชวนกินอะไรก็กินไม่ได้ ผมก็บอกว่าเดี๋ยวต้องถ่ายแบบ ประมาณนั้น แกก็จะทำอาหารมาเสิร์ฟตลอดเวลาที่มีโอกาสกลับบ้านไป (แสดงว่าตอนนี้ก็กลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว?) ปกติแล้วครับแฮปปี้ครับ”

ถามถึงทริปเกาหลีเป็นยังไงบ้าง?
“อากาศหนาวมาก แต่ว่าบางคนเขาอุ่นๆ นะครับ (หัวเราะ) จริงๆ ก็เป็นทริปแรกที่ผมได้เดินทางไปเที่ยวกับน้อง (เจมส์-พาย) ก็ดีนะ น้องพายเขาก็เป็นไกด์ล่ามแปลภาษาเกาหลีมาให้เราในทุกๆ คืนที่เราออกไปกินอาหารเย็นกัน”


เราเชียร์ไหม?
“คือเราก็เห็นเขามานานแล้วทั้งทำงานด้วยการ ไปไหนมาไหนด้วยกันกับทางทีมของเขาทางผู้จัดการเขาด้วย แล้วก็มีน้องๆเพื่อนๆ ที่ไปด้วยกันก็เห็นเด็กสองคนนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ว่าเขาจะทำอะไรยังไงก็ลองไปถามเขาดีกว่า”

เราเห็นเขาเป็นไงกันบ้าง?
“ภาพที่เห็นก็น่ารักครับผม แต่ภาพพี่ไม่เห็นก็ยิ่งน่ารัก คือผมก็เชียร์เขาแต่ว่าก็ไม่ได้ไปเชียร์ออกหน้าออกตา ให้เขาแบบรู้จักกันให้เขาคุยกันไป”

เขายื่นมือถือให้เราถ่ายรูปให้ไหม?
“ไม่มี มีแต่ผมนี่แหละ บอกมานี่เดี๋ยวถ่ายให้”

เรากลายเป็นมือชงมืออาชีพไปแล้ว?
“ไม่หรอกครับ ผมก็คงมีความสุขที่เห็นคนอื่นมีความสุขด้วย”


คู่เรากับคู่เขาคู่ไหนหวานกว่ากัน?
“คู่ผมดิพี่ จริงๆ ก็เป็นการทำงานกันมานานช่วงที่ไปสวิตเซอร์แลนด์แล้วกลับมาก็แทบไม่ได้ไปเที่ยวกันเลย บางทีปกติว่างก็ไปกินอาหารเช้าไปเดินสวน หลังๆ มานี่ เราทำงานแยกกันทั้งคู่พอได้มีโอกาสไปเที่ยวกันที่เกาหลีก็ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจริงๆ ไปปิกนิกไปเดินสวนไปทำอะไรที่เราเคยทำกัน ก็เป็นการแบบเติมพลังให้เราทั้งคู่ก่อนกลับมาทำงาน เพราะว่าจริงๆ แล้วเราก็กระหายการเที่ยวเหมือนกันนะ อยากจะไปนั่นอยากจะไปนี่ เพราะว่าโควิดมันหลายปีแล้วไม่ได้มีโอกาสเดินทางไปไหน ก็แพลนไว้เยอะเหมือนกันว่าจะไปเที่ยวไหนไปทำอะไรบ้าง และปีนี้ถ้าเกิดว่างว่างคงจะได้เห็นอยู่ต่างประเทศกันบ่อย”

และมีทริปไหนที่วางไว้ว่าอยากจะคุกเข่าบ้าง?
“จะมีไปทริปของพี่หมากที่ต่างประเทศ (เราจะคุกเข่างานนั้น?) ไม่ครับ ไม่ใช่ครับ หมายถึงพี่คิมพี่หมากจะมีการจัดอะไรสักอย่าง”

แต่งานของพี่หมากเขาก็ฟีลอิตาลีโรแมนติกนะ?
“ไม่เอาดีกว่าครับ เราไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวด้วย”

ถามเรื่องที่หลายๆ คนชื่นชม เราติดดินยังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่?
“ตอนนี้มาปั่นจักรยานแล้วนะ อยู่ในกรุงเทพฯ รถมันติดอ่ะครับใช้อะไรง่ายๆ ผมก็ใช้หมด ไม่ค่อยชอบขับรถครับ เพราะว่าเวลารถติด แล้วมันทำอะไรหลายๆ อย่างยาก จริงๆ มอเตอร์ไซค์ก็ขี่ไม่เร็วหรอกขี่ได้แค่ 60 มันเป็นมอเตอร์ไซค์สองจังหวะ คือผมเป็นคนที่เคยใช้เงินไปกับสิ่งของเยอะ ไม่ว่าจะเป็นของนอกกาย ของในกายก็ตาม แต่พอถึงจุดๆ หนึ่งแล้วผมรู้สึกว่าเป็นคนที่เห่ออะไรเป็นพักๆ ส่วนพวกของก็ใช้ไม่ค่อยดูแล ก็เลยตัดปัญหาไปว่าอะไรที่ไม่จำเป็นก็จะไม่ใช้ ก็จะแฮปปี้มากกว่า เก็บเงินไว้ไปเที่ยวมากกว่า คิดไว้เลยว่าจะไม่ซื้อรถหรืออะไรแพงๆ เก็บเงินแล้วก็เอาไว้ใช้จ่ายที่นู่น”

เก็บเงินแต่งงานด้วยหรือเปล่า?
“(ยิ้ม) ก็ส่วนนึงครับ ไม่ว่าจะเป็นเรือนหอ งานต่างหรืออะไรก็ตาม ก็วางแผนการไว้แล้วด้วยเพราะว่าเป็นคนชอบวางแผนครับ แต่ว่าก็ไม่ค่อยได้ตามแผนเท่าไหร่หรอก (หัวเราะ)”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน