ชาคริต – แอน หัวจะปวดอยู่ยากมาก เจอมิจฉาชีพแอบอ้างปลอมเพจหลอกขายทุเรียน ความเสียหาย 100 ล้าน ผู้เสียหายบุกถึงสวนจันทบุรี มายืนด่าหน้าบูธขายของ

พระเอกแถวหน้าของเมืองไทย ชาคริต แย้มนาม ควงภรรยาคนสวย แอน ภัททิรา และลูกชายวัย 5 ขวบ น้องโพธิ์ มาเปิดใจการรีโนเวทบ้านหรูในเมืองกรุง พร้อมเคลียร์ใจหลังเจอมิจฉาชีพปลอมเพจขายทุเรียน สร้างความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี ชมพู่ ก่อนบ่าย, อาจารย์เป็นหนึ่ง และธัญญ่า ธัญญาเรศ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ช่วงนี้คุณพ่อเหนื่อยกับการรีโนเวทบ้าน พื้นที่ 3 ไร่? ชาคริต : “3 ไร่ครึ่ง มันมีเรื่องราว จริงๆ ผมเองอยู่กับแม่ บ้านไม่ได้ใหญ่มากหรอก ตอนเด็กๆ อยู่กัน 2 คน เราเริ่มทำงานตั้งแต่เด็ก เรามีความคิดว่าอยากขยายพื้นที่เพิ่ม เพราะอีกหน่อยเราต้องมีครอบครัว การทำบ้านน่าจะเป็นอะไรที่ครั้งเดียวให้มันเสร็จ ก็ไปซื้อที่ดินแปลงนึงไร่กว่าๆ แถวปทุม คราวนี้มันเกิดวิกฤตน้ำท่วม ตอนนั้นแม่ผมยังมีชีวิตอยู่ ก็กลัว ไม่เอาแล้ว ก็เลยขาย แล้วกลับเข้ามาดูในเมืองก็ได้ มาดูที่หมู่บ้านนี้ ตอนนั้นราคาที่ดินค่อนข้างดีแล้วเจ้าของบ้านเดิมอยู่ตรงข้าม แล้วเขาเหมือนถูกใจอะไรก็ไม่รู้ แล้วเราเองชอบต้นไม้ด้วย อยากมีพื้นที่ธรรมชาติเยอะๆ อยู่ดีๆ เขาก็ขายให้เราในราคาที่โอเคมากๆ ตอนนั้นคุณแม่ยังอยู่ แกชอบมากก็ซื้อ มันเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้วตอนนั้นเราซื้อที่ตรงนี้ไม่ได้กะทำบ้านเลย เพราะเราเองใช้ชีวิตอยู่คอนโด วัยรุ่นต้องอยู่ทองหล่อ จนกระทั่งคุณแม่ป่วยก็เริ่มรีเซ็ตหมดเลย ทำงานเพื่อที่จะยื้อชีวิตคุณแม่เอาไว้เป็นเวลา 4-5 ปี มันแทบจะเริ่มต้นใหม่หมด ตอนนั้นมีแอน มีน้องโพธิ์ แล้วก็ต่อสู้กันมา เหมือนนับศูนย์ใหม่ เพราะว่าจากที่ตัวเราเองใช้เงินมาถึงจังหวะที่แม่ป่วยไม่มีใครซัพพอร์ตแล้ว มันได้เจอสัจธรรมชีวิตจริงๆ ต้องเริ่มต้นใหม่หมด แล้วแอนมาเป็นคู่คิด ดูแลคุณแม่ น้องโพธิ์ จนกระทั่งคุณแม่เสียชีวิต ก็มานั่งคิดกันว่าเอายังไงดี แอนเขาก็บอกว่าพี่มันใหญ่ไป ขายไหม แล้วไปซื้อบ้านจัดสรรที่มันพอดีๆ”

ตอนนั้นที่พี่แอนบอกพี่ชาคริต เพราะรู้สึกว่ามันเกินที่เราจะอยู่เหรอ? ชาคริต : “พูดง่ายๆ เขามองว่ามันเกินตัวไปหรือเปล่า แต่ในทางกลับกันเรามานั่งมอง ถ้าเกิดเราอยู่ในเมือง เราไปซื้อบ้านสมัยใหม่ แล้วขายที่ตรงนี้ คูณไปคูณมามันเท่ากันเลย เราสู้อีกนิดดีกว่าไหม แล้วก็ทำตรงนี้ให้มันเสร็จ แล้วเราจะได้มีพื้นที่ที่ต้องการ เพราะเราเน้นไว้ปลูกต้นไม้อยู่แล้ว”

แอน : “เขาใช้วิธีว่าถ้าเธออยากขาย เดี๋ยวฉันพาเธอไปดูบ้านจัดสรรในกรุงเทพฯ เธอเลือกมาเลยอันไหนที่มันหรู อันไหนที่เธอคิดว่ามันดีที่สุด เธอไปกับฉัน เขาก็พาไปดูทุกโครงการ”
ชาคริต : “เราได้พื้นที่ตรงนี้มาแล้ว มันก็เป็นสมบัติอย่างหนึ่งที่เราเสียดาย”
แอน : “มันทำให้เห็นว่าพอไปดูโครงการอื่นๆ แล้วกลับมามองพื้นที่ของเรามีความรู้สึกว่า ถ้าไปซื้อบ้านตรงนู้นจ่ายมากกว่าที่เรามีอยู่อีกแต่เราได้เล็กกว่า เขาก็เหมือนสอนให้รู้ว่าฉันเลือกถูก”
ชาคริต : “มันเหมือนเป็นการกัดฟันที่จะสู้ ทำตรงนี้ให้สำเร็จด้วยความฝันที่ตอนนั้นคุณแม่ก็ยังอยู่ด้วย ก็เต็มที่ เราคำนวณบวกลบแล้วเราทำได้”

เห็นตามภาพนี่มันไม่ใช่บ้านแล้วนะ นี่มันคฤหาสน์ใหญ่ๆ จะให้ถ่ายละครด้วยไหม? ชาคริต : “ขอคิดดูก่อน แต่ว่าเหมือนทุกคนต้องมีขอความช่วยเหลือจากธนาคาร มีกู้แบงก์ ทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อตตามปกติ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร เพียงแต่เรารู้ว่าเราทำได้แค่ไหนก็ทำประมาณนั้น ตอนแรกมีแพลนบ้านอยู่หลังหนึ่งที่เราบอกว่าจะทุบหลังนี้ คือหลังเดิมที่เขามีอยู่ แล้วสร้างใหม่เลยแบบที่เราชอบ แต่สุดท้ายรุ่นพี่มาดู คุณค่าของไม้เดิม รุ่นพี่ถามว่ามึงป่วยหรือเปล่า รู้ไหมมูลค่าของไม้แต่ละชิ้นเท่าไหร่ เป็นไม้สักทองหมดเลย หลังจากนั้นเราก็มามอง เออวะ แล้วมันก็เซฟงบไปตั้งครึ่งนึงในความคิด แล้วเราก็ไปสร้างสระว่ายน้ำที่เราอยากจะสร้างได้ ก็เลยไปเวย์นี้คือรีโนเวทของเดิม ต่อเติมออกมา มีโฮมออฟฟิศ เพราะเรามีพนักงาน ก็สร้างอีกตึกนึงขึ้นมา วันนี้เราใช้เป็นโฮมออฟฟิศก่อน อีกหน่อยจะเป็นโพธิ์ย้ายเข้าไปอยู่ หรือจะเป็นคลับเฮ้าส์อะไรในบ้านก็ได้”








Advertisement

พื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ เรามีเกินงบบ้างไหม? ชาคริต : “ก็มีบ้างครับ”
แอน : “เราก็คุยกัน ตอนนี้เงินเรามีอยู่เท่านี้นะ ถ้าคิดจะไปตรงนี้มันเกินงบที่เราวางไว้ คิดดูอีกทีไหม”
ชาคริต : “เริ่มต้นจะทำบ้านนี้เมื่อ 3 ปีกว่า เริ่มไปแล้วครั้งนึง แค่เริ่มต้นผู้รับเหมาเชิดไปเกือบ 4 ล้าน ก็เลยต้องหยุดไปอีกปี แล้วเริ่มต้นใหม่แล้วมาได้ผู้รับเหมาบริษัทนี้น่ารักมากๆ กว่าจะเป็นรูปเป็นร่างนี้คือท้อมาหลายรอบแล้วเหมือนกัน”

ทำบ้านมีทะเลาะกันไหม? แอน : “ไม่เป็น”
ชาคริต : “เราแค่ครับทุกอย่าง”
แอน : “สไตล์เขาจะเป็นเออ..แล้วแต่ตัวเอง แต่เขาเป็นคนเดินเข้าไปดูบ้าน แล้วเขาเปลี่ยนก็ไม่บอก เหมือนครับไว้ก่อน แบบ ครับ ขอไปทีให้เรื่องมันจบๆ ไป แล้วมารู้ทีหลังตอนใบเสนอราคามา ถึงขั้นว่าต้องรอเจอกันตอน 5 ทุ่ม ลูกหลับแล้ว เพราะใบเสนอราคามาที่เราก่อน ก็คุยกัน ถ้าอย่างนี้เธอจะต้องเหนื่อยเป็นสิบเท่า ฉันไม่อยากให้เธอเหนื่อยสิบเท่าเพื่องบประมาณตรงนี้”

มีเรื่องสวนอีก? ชาคริต : “ด้วยพื้นที่มันใหญ่ แล้วเราเป็นคนชอบสวนมีต้นไม้เชิงร้อน คนสวนต้องเก่ง มากๆ ค่าทำสวนแพงนะเหมือนสร้างบ้านเลย เราก็ค่อยๆ ถอยมาแบบพอดี เพราะสวยไปเดี๋ยวก็พัง เพราะเจ้านี่ก็ยังต้องวิ่งเล่น ซึ่งบ้านหลังนี้น่าจะเสร็จอีก 2 เดือน ปลายกรกฎาคม น่าจะเข้าได้แล้ว”

ระหว่างทำบ้านก็โดนมิจฉาชีพแอบอ้างธุรกิจของเรา? ชาคริต : “ในเรื่องที่เราทำคลิปอัพเดตบ้านในเฟซบุ๊กบักโพธิ์ ที่ทำตั้งแต่โพธิ์เกิด ในนั้นก็จะมีแฟนคลับเราที่ติดตามตั้งแต่เราทำอาหารเลี้ยงลูก ไปบุกเบิกสวน จนมาถึงเรื่องบ้าน ก็ขอบคุณทางสื่อที่ชื่นชม และดึงออกไปนอกพื้นที่ของเรา แล้วไปเป็นข่าวตามที่ต่างๆ ก็เลยเริ่มมีคอมเมนต์เข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นบวกครับ คอมเมนต์เสียๆ ก็จะมีน้อยมาก จะมีช่วงหลังๆ ที่อาจจะเกิดความเข้าใจผิดจากการที่คนไทยชอบกินทุเรียน ประมาณสัก 8 เดือนที่ผ่านมา เราเริ่มโดนอย่างหนัก คือมิจฉาชีพที่ดูดคอนเทนต์ของเราไปหมด ใช้ชื่อคล้ายๆ เรา ใช้ชื่อผม แล้วหลอกขายทุเรียน ลูกละ 100 บ้าง 250 บ้าง ราคาดูน่าสนใจ ด้วยแฟนคลับหลายๆ คน ด้วยความน่าเชื่อมั่นในตัวเรา เขาคงคิดว่าเราคืนกำไรให้แฟนคลับหรือเปล่า ทำโปรโมชั่นให้กับแฟนคลับหรือเปล่า จริงๆ อยากทำนะ แต่มันทำไม่ได้จริงๆ ด้วยราคาทุเรียนการบำรุงรักษา แล้วราคาตลาดมันไม่ได้ แต่ว่าคนส่วนใหญ่ 80% ไม่ได้เข้าใจในเรื่องกระบวนการตรงนี้เลย ลืมคิดไปว่ามันเป็นไปไม่ได้ทุเรียนลูกละร้อย ก็เลยกลายเป็นผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพหลอกไป”

เขาได้ทุเรียนลูกละร้อยไปจริงไหม? ชาคริต : “ไม่มีครับ คือโอนไปปุ๊บโดนบล็อก ถ้าเกิดเข้าไปด่า ก็โดนด่าถึงบุพการีกลับมา โหดมาก ซึ่งทำให้หลายๆ คนเข้าใจผิด แถมเบอร์ที่เขาให้ไว้ในเพจปลอม เป็นเบอร์จริงที่ออฟฟิศ ตอนนี้ที่ออฟฟิศกลายเป็นคนโทรมาร้องทุกข์บ้างโทรมาด่าเสียๆ หายๆ บ้าง ตอนนี้พื้นที่จะยืนอยู่ยากมาก ต้องมานั่งเคลียร์ให้แฟนคลับหรือลูกค้าของเราเข้าใจว่ามันไม่ใช่ ของเราไม่ขายทางเฟซบุ๊ก ถ้าทางเฟซบุ๊กคือต้องไลฟ์สดจริงๆ ที่สามารถตอบโต้กันได้จริงๆ ปกติถ้าไม่ไลฟ์สดเราจะขายที่ไลน์แอด”

มูลค่าความเสียหายเป็น 100 ล้าน? ชาคริต : “ตอนนี้พวกเราไปทั้งกองปราบมาแล้ว ล่าสุดไป สคบ. ไปชี้แจงและโทรคุยกับตำรวจทุกวัน ดูเส้นทางการเงินของพวกนี้แล้วมีหน้าม้าโดนจับไปหลายคน บางบัญชีเส้นทางการเงินภายใน 3-4 เดือนที่ผ่านมาก็ล่อไปหลายสิบล้านแล้ว มันมีเยอะมาก อย่าเรียกว่า 100 เลย ผมว่าว่ากี่ร้อยตอนนี้ แล้วเขาบูทโพสต์ด้วย ตอนนี้ผมต้องบอกทุกคนเลยว่า มันมีอยู่ 2 อย่าง มันอยู่ที่จรรยาบรรณของคนทำกับวิจารณญาณของคนซื้อ คือก่อนที่จะโอนเงินสืบให้ชัดอีกหน่อย”
แอน : “เบอร์โทรศัพท์ที่มีก่อนที่ลูกค้าจะโอนเงินลูกค้าไม่โทรมาถามว่าจริงหรือเปล่า แต่โอนไปก่อน พอไม่ได้ของแล้วโทรมาด่าได้”

จับได้บ้างหรือยัง? ชาคริต : “จับได้แต่บัญชีม้า ส่วนตัวใหญ่พยายามสืบอยู่ เหมือนอยู่ตะเข็บชายแดนข้ามไป มันอาจจะเป็นเรื่องของกฎหมายหรือเปล่า ซึ่งหน่วยรักษาความยุติธรรมแล้วตำรวจเองเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องช่วยๆ กันเตือน”
แอน :บางคนมายืนเท้าเอวด่าหน้าบูธว่าที่ฉันซื้อเพราะฉันคิดว่าชาคริตมันไม่มีวันโกงไง เพราะเธอเป็นดารา เธอไม่มีวันโกง
ชาคริต : “เราอยากจะบอกว่าเราทำงานสุจริตกันแบบว่าสุดๆ จริงๆ”

มีคนอินบล็อกมาบอกโดนเหมือนกัน มีคำแนะนำไหมว่าต้องไปแจ้งความหรือต้องทำยังไง? ชาคริต : “ในการที่โทรเข้ามาหลายๆ คนโทรเข้ามาแจ้ง หรืออินบล็อกเข้ามานี่ฉันโดนมาแล้ว ที่ไหวตัวทันก็มี ที่โดนไปแล้วนึกขึ้นได้ว่าเป็นเพจปลอมก็มี ที่โทรเข้ามาต่อว่าจนเราอธิบายให้เขาเข้าใจก็มี โทรเข้ามาต่อว่าแบบที่อธิบายเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง เพราะเขาคิดว่าเขาโทรมาหาเพจปลอม เขาไม่คิดหรอกว่าผมโกง เขาโทรมาว่าเพจปลอม อย่ามาอ้างว่าเธอไม่ใช่เพจปลอม ด่าพ่อ ล่อแม่ น้องที่ออฟฟิศน้ำตาจะซึมเอา”

แอน :แล้วมีบุกไปที่สวนที่จันทบุรี บุกไปแม่อยู่ ฉันจะมาเอาทุเรียน
ชาคริต : “คือโทรก่อนดีกว่า ลองเช็กให้มั่นใจดีกว่า แล้วก็ดีที่สุดต้องเป็นชื่อบริษัท เพราะผมเชื่อว่าเขาไม่กล้าเปิดชื่อบริษัทในการโอน”
แอน : “แล้วใครที่โดนไปแล้ว สามารถเอาหลักฐานการโอนเงินเข้าไปแจ้งความได้”
ชาคริต : “แต่ก็มีหลายๆ คน โอนไป 100, 200, 500 เสียค่าโง่ หรือว่าทำบุญไปลูก แต่พอมันรวมๆ กันหลายคนอยากจะบอกว่า เขาได้ไปเป็นร้อยแล้ว มันเยอะมาก กว่าพวกผมขายกันจะได้เห็นเงินล้าน มือแหก ปลอกทุเรียนกันเลือดออก เราได้ทำตามหน้าที่ที่เราทำได้แล้วในการไปแจ้งเรื่องโดนแอบอ้าง เราไม่สามารถดำเนินอะไรได้ต่อ แต่ว่าผู้เสียหายที่มีการโอนเงินไป คุณจะเป็นกำลังสำคัญที่จะไปแจ้งความได้ ให้เกิดการจับได้เพราะว่าการที่ศาลจะออกหมายจับให้ได้ ต้องมีผู้ไปร้องทุกข์

คุณพ่อคุณแม่ เตรียมของขวัญให้ลูกชาย? ชาคริต : “พยายามมีน้องครับ มีน้องให้น้องโพธิ์ มันเป็นสิ่งที่เราพยายามทำกันมาสักพัก ตอนนั้นผมเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองมากว่าธรรมชาตินี่แหละ ธรรมชาติมันสุดยอดแล้ว เดี๋ยวก็มา น้องโพธิ์ยังมาง่ายเลย 2 ปีผ่านไปยังไม่มา อยากให้แอนท้อง 2 ครั้ง จริงๆ แล้วโพธิ์คือแฝด แต่ว่าไข่ฝ่อไปใบนึง ก็เลยอยากให้แอนท้องอีกสักครั้งนึง ออกมาจะเป็นแฝดธรรมชาติอีกหรือเปล่า หรือคนเดียวก็ไม่เป็นไร ขอให้มีอีกคนก็แล้วกัน แต่คราวนี้เวลามันล่วงเลยไปจนอายุเลยยอมพึ่งวิทยาศาสตร์ ให้คุณหมอมาช่วยดีกว่า ได้เวลาใกล้ๆ ที่จะใส่ตัวอ่อนแล้ว หวังว่าคงจะติด แต่ถ้าไม่ติดเลยก็จะเลิกความตั้งใจ แต่จะพยายามให้ถึงที่สุด”

แอน : “คุณหมอบอกว่ามันโค้งสุดท้ายแล้ว ด้วยอายุแอนที่ไม่สามารถมีต่อได้แล้ว ด้วยฮอร์โมนที่ใกล้จะหมด ด้วยกรรมพันธุ์ของบ้านเป็นคนที่หมดประจำเดือนเร็ว หมด 45 ตอนนี้แอน 43 แล้ว มันก็เลยแบบโค้งสุดท้ายแล้ว”
ชาคริต : “แล้วนับอายุผมด้วย เดือนหน้าจะ 45 แล้ว ถ้าเกิดช้าไปกว่านี้ ถ้าปีนี้ยังไม่ได้คงต้องจบแล้ว เอาเวลาไปเที่ยวไหม เพราะถ้าเกินไปกว่านี้ ถ้ามีน้อง กว่าน้องจะรู้เรื่อง จำความได้ สนุกกับเราได้ก็ต้องอีกสักพัก”
แอน : “ช่วงนี้ทั้งปักพุงเร่งฮอร์โมนอะไรหลายๆ อย่าง ประมาณอาทิตย์หน้าเก็บไข่ก่อน”

คลิปสัมภาษณ์ ชาคริต – แอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน