เอ ศุภชัย ไม่ลืมบุญคุณ อั้ม พัชราภา ซึ้งใจผู้ให้โอกาสมีทุกวันนี้ เผยเหตุไม่ยอมหยุดหาเงิน รวยแล้วอยากแบ่งปัน ไม่หยุดนิ่ง ลั่นจะทำงานไปตลอดชีวิต
ผู้จัดการคนดัง เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร เปิดตัวธุรกิจใหม่ “A SECRET MULTI COLLAGEN PLUS VITAMIN” พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงการไม่หยุดหาเงิน
คนมองว่าเรารวยอยู่แล้วยังทำธุรกิจเพิ่มอีก? “พี่เอต้องดูแลคนเยอะ แล้วเรารู้สึกว่าความขยันคือการไม่หยุดนิ่ง ก่อนหน้านี้พี่เอก็ไปบุกจีน ไปดูโรงงานไปดูตลาดทุกอย่างแม้กระทั่งขั้นตอนการผลิต ผลิตภัณฑ์นี้พี่เอก็ลงโรงงานตรวจเองหมดที่ จ.สมุทรสาคร เพราะมันเป็นความตั้งใจของพี่เอที่จะควบคุมการผลิต เหมือนเวลาที่เราปั้นดารา เราก็ดูแลทุกขั้นตอนการทำงาน ไม่ปลอดภัยจริงๆเราก็ไม่อยากให้ใครได้ทาน เราเองมีชื่อเสียง ก็เหมือนเป็นตัวการันตี คนที่ซื้อไปทานเขาเชื่อมั่นในตัวเรา เราก็ต้องทำให้ดีทุกขั้นตอน”
รวยอยู่แล้วยังอยากจะมาเป็นนักธุรกิจ? “รวยแล้วมันก็ต้องแบ่งปัน อย่างที่บอกว่าพี่เอดูแลคนเยอะ อย่างน้องถ้ามีตังค์ขึ้นมาอีกก้อนก็สามารถทำอะไรได้อีกบ้าง พี่เอเลยต้องทำงานเยอะๆ พี่เอไม่อยากให้ทุกคนหยุดนิ่งนะคะ ชีวิตไม่แน่ไม่นอน ถ้าเรารวยแล้ววันนึงเกิดอะไรขึ้นมา แต่ถ้าเรายังทำมาหากินอยู่ พี่เอว่ามันก็ดี ทำให้เรารู้สึกว่าเรามั่นคง นี่พี่เอยังไปเปิดแผงที่ตลาดเพื่อจะขายของอยู่เลย ขายพวกส้มตำ พี่เอเหมือนพี่อั้ม เป็นคนที่หยุดนิ่งไม่ได้”
อะไรคือแรงบันดาลใจ? “เหมือนกับใช้เงินมั้งค่ะ เราใช้จ่ายเยอะก็ต้องมีรายรับเข้ามาเพราะฉะนั้นเราไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน พี่เอเลยต้องทำงานตลอดไป เหมือนน้องๆ นักข่าวทำงานตั้งแต่พี่เอไม่เข้าวงการจนทุกวันนี้ก็ยังทำกันอยู่(ยิ้ม) เราก็เหมือนกัน อารมณ์เดียวกันประมาณนี้(ยิ้ม) เห็นหน้ากันมา 20 ปีแล้ว”
ทำไมถึงจะเปิดร้านส้มตำอีกทั้งๆ ที่ก็มีอยู่แล้ว? “อันนี้ยังไม่ได้เปิดค่ะ หมายถึงคิดไปในอนาคต แพลนไว้ว่าอยากทำนู่นนี้อยากทำนั่น อยากทำน้ำปลาร้าอยากทำทุกอย่างเลย เรารู้สึกว่าเรามีความสามารถเราอยากใช้ความสามารถจนกว่าเราจะสิ้นลมหายใจค่ะ พี่เอรู้สึกแบบนี้”
มูบ้างไหม? “อ๋อ ชอบเลยค่ะ ไปฮ่องกงไปอะไรไปทุกอย่างเลยค่ะ(หัวเราะ) การมูก็เหมือนกับการได้ รู้สึกสบายใจอะไรแบบนี้ อะไรที่สบายใจก็ทำไป”
ไปขอที่ไหนมาบ้าง? “ก็ไปไหว้หลายๆ ที่”
อีกเรื่องที่เคยให้สัมภาษณ์ อั้ม พัชราภา เป็นผู้มีพระคุณที่เรายกไว้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีได้เพราะ อั้ม? “ใช่ค่ะ เหมือนทุกคนรู้ว่าวันหนึ่งพี่อั้มเข้าวงการตั้งแต่พี่เอเรียนม.รังสิตด้วยกัน แล้ววันนึงพี่อั้มก็แต่งตั้งพี่เอมาเป็นผู้จัดการแล้วก็เหมือนพี่อั้มช่วยนู่นช่วยนี้ทำให้เรามีถึงวันนี้ขึ้นมาพี่เอก็รู้สึกว่าเป็นคนๆ นึงที่ยืนเคียงข้างกันตลอดแล้วเราซึ้งถึงความรู้สึกที่เขามอบให้ ซึ้งจริงๆ เขาไม่จำเป็นต้องมาอะไรกับเราแบบนี้ก็ได้ แต่เขาเป็นคนใจกว้างให้โอกาส ให้อะไรทุกอย่าง แม้กระทั่งที่พี่เอมายืนเฉิดฉายอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเพราะอั้ม พัชราภาเหมือนกัน ที่พี่เอมีพื้นที่ให้ทุกคนได้รู้จัก ถ้าไม่มีพี่อั้มก็ไม่มีพี่เอในวันนี้เหมือนกัน”
คำพูดนั้นกลายเป็นไวรัลทั่วโซเชียลที่ว่าเข้าวงการมาได้เพราะไม่อกตัญญู? “จริงๆ มันไม่ได้เปรียบเทียบกับชีวิตในวงการหรอก เปรียบเทียบกับชีวิตตัวเราเอง บางครั้งเมื่อก่อนตอนเด็กๆ เราก็อาจจะเกเรบ้าง เราอาจจะไม่น่ารักกับพ่อแม่บ้าง พอวันนี้เราโตขึ้นมาแล้วต้องเลี้ยงทุกคน ทำให้เราคิดถึงอดีตในสิ่งที่เราผ่านมา อันไหนที่ไม่ใช่ เรายังตามกลับไปแก้ทัน พี่เอได้มีโอกาสกลับไปแก้ตัวได้เพราะพ่อแม่เรายังมีชีวิตอยู่ กลับไปตอบแทนบุญคุณ นี่คือสิ่งที่พี่เอพูดออกมาจากความรู้สึกของพี่เอนะคะ ความกตัญญู ความไม่เคยลืมบ้านเกิดมันคือสิ่งสำคัญ
ยิ่งพ่อแม่อายุมากขึ้น บางทีความสำเร็จของเราที่เราได้มา บางทีถ้าไม่มีใครมอง ไม่มีพ่อแม่มามองเราก็ไม่อยากจะสำเร็จอะไรเลย แต่วันนี้เรายังดีใจที่เรายังมีพ่อแม่ได้ดูเราอยู่ นี่คือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพราะเขายังมีโอกาสได้ดูเราอยู่ พี่เอว่าทุกคนก็คงเป็นเหมือนพี่เอ ที่ทำทุกวันนี้ก็เพื่อให้คนข้างหลัง คนต้นทาง คนกลางทางได้เห็นความสำเร็จ พี่เอเลยต้องขยัน ทำงานทุกอย่าง ยิ่งเรามีโอกาสได้ทำประโยชน์กับคนอื่น เราก็รู้สึกว่าตัวเราเป็นประโยชน์ เราก็เลยต้องทำไปเรื่อยๆ ไม่รู้จักหยุด เป็นกำลังใจให้กับคนที่นอนอยู่กับบ้านให้ลุกขึ้นมาสู้ ลุกขึ้นมาขายของ ทำงานกัน”.